ธนาคารกรุงเทพรายงานกำไรสุทธิสำหรับงวดแรกปี 2565 จำนวน 14,079 ล้านบาท

ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 ความกังวลใจในเรื่องการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ลดลง ส่งผลให้การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นและทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 7 แสนคนต่อเดือน สอดรับกับการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางของไทยและประเทศต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศ จากราคาพลังงานและอาหารโลกที่เพิ่มขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ธนาคารกลางในประเทศต่าง ๆ ต้องเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ส่งผลให้การขยายตัวของเศรษฐกิจและการค้าโลกชะลอตัวลง ภาคการส่งออกของไทยในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2565 ขยายตัวร้อยละ 10.2 จากร้อยละ 14.8 ในไตรมาสก่อน ทั้งนี้ ความผันผวนของตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลกในระยะข้างหน้ายังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป

จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดและการเดินทางระหว่างประเทศ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยมีแนวโน้มฟื้นตัว อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญความท้าทายจากค่าครองชีพและต้นทุนที่สูงขึ้นจากปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างรัสเซียและยูเครน ตลาดการเงินที่ผันผวนจากความไม่แน่นอนของการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในประเทศเศรษฐกิจหลัก รวมถึงการชะลอตัวของการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพยังคงช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยให้การสนับสนุนภาพคล่องและเงินทุนหมุนเวียน พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจตามแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ ในขณะเดียวกันธนาคารได้ให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพฐานะการเงิน สภาพคล่อง และเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง

ธนาคารกรุงเทพรายงานกำไรสุทธิสำหรับงวดแรกปี 2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.0

 ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยรายงานกำไรสุทธิสำหรับงวดแรกปี 2565 จำนวน 14,079 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.0 จากงวดแรกปีก่อน โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.9 จากการเพิ่มขึ้นของปริมาณเงินให้สินเชื่อ ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 2.18 สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงร้อยละ 19.8 ส่วนใหญ่เกิดจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเครื่องมือทางการเงินซึ่งเป็นไปตามสภาวะตลาด และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิลดลงจากธุรกิจหลักทรัพย์ ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมจากการอำนวยสินเชื่อเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับปริมาณเงินให้สินเชื่อที่ขยายตัว สำหรับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 จากค่าใช้จ่ายเพื่อการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ร้อยละ 50.4 ทั้งนี้ ธนาคารตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 14,843 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ธนาคารยังคงยึดหลักความระมัดระวังในการตั้งสำรองโดยพิจารณาถึงความผันผวนของเศรษฐกิจโลก รวมถึงผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงอยู่

ธนาคารกรุงเทพยังคงดำรงฐานะการเงิน สภาพคล่อง และเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ

ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 2,652,872 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 จากสิ้นปี 2564 โดยส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายใหญ่และสินเชื่อกิจการต่างประเทศ สำหรับอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อรวมยังคงอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ที่ร้อยละ 3.4 ทั้งนี้ จากการที่ธนาคารยึดหลักการตั้งสำรองด้วยความระมัดระวังและรอบคอบมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ร้อยละ 232.5

ธนาคารมีเงินรับฝาก ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 จำนวน 3,147,149 ล้านบาท อยู่ในระดับใกล้เคียงกับสิ้นปีก่อน อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากอยู่ที่ร้อยละ 84.3 ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยอยู่ที่ร้อยละ 18.9 ร้อยละ 15.4 และร้อยละ 14.6 ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด

‘ชาติศิริ โสภณพนิช – ธนาคารกรุงเทพ’ คว้า 2 รางวัลใหญ่จากดิ เอเชี่ยน แบงก์เกอร์ หลังพาธุรกิจเติบโตต่อเนื่องแข็งแกร่ง มุ่งมั่นดำเนินกิจการอย่างยั่งยืน

ธนาคารกรุงเทพ คว้ารางวัล Best Managed Bank in Thailand พร้อมกับ “ชาติศิริ โสภณพนิช” คว้ารางวัล The Asian Banker CEO Leadership Achievement for Thailand Award หลังโชว์ผลงานยอดเยี่ยม ดูแลลูกค้าใกล้ชิด ข้ามผ่านสถานการณ์ยากลำบาก พร้อมเดินหน้าธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง เข้าซื้อกิจการเพอร์มาตา ก้าวสู่แบงก์ใหญ่อันดับ 6 ในอาเซียน ลุยพัฒนาดิจิทัลแบงก์กิ้งไม่หยุด ลงทุนเสริมศักยภาพทีมงานต่อเนื่อง เพื่อเป็น “เพื่อนคู่คิด” สำหรับลูกค้าและคนไทย

ตามที่ ดิ เอเชี่ยน แบงก์เกอร์ (The Asian Banker) นิตยสารด้านการเงินชั้นนำของเอเชีย ได้ประกาศมอบรางวัล Best Managed Bank in Thailand ให้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และ รางวัล The Asian Banker CEO Leadership Achievement for Thailand Award ให้แก่ นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ซึ่งพิจารณาจากผลการดำเนินงานในช่วงเดือน มกราคม 2562 – ธันวาคม 2564

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่นิตยสาร ดิ เอเชี่ยน แบงก์เกอร์ ได้พิจารณามอบ 2 รางวัลดังกล่าว แก่ตนเองและธนาคารกรุงเทพ นับเป็นรางวัลที่ยืนยันถึงการดำเนินธุรกิจได้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง และการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย ตั้งแต่การกำหนดนโยบายทางธุรกิจร่วมกับคณะกรรมการบริหารที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล และผู้บริหารที่มากประสบการณ์ การขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การดำเนินงานจริงอย่างต่อเนื่องร่วมกับพนักงานทุกระดับ ที่ช่วยกันสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่มีคุณค่าต่อลูกค้า ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียต่าง ๆ อย่างรอบด้าน สอดคล้องกับหลักการดำเนินธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทั้งมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environment, Social and Governance – ESG)

ในช่วงเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา มีปัจจัยความท้าทายสำหรับธุรกิจการเงินธนาคารหลายประการ โดยประเด็นใหญ่ที่สุดคือ ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่สร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทุกธุรกิจ ซึ่งธนาคารกรุงเทพ ได้ดำเนินนโยบายและมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกค้าแต่ละกลุ่มอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ด้วยการคัดสรรแนวทางช่วยเหลือรูปแบบต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าแต่ละรายและแต่ละช่วงเวลา โดยแบ่งหลักเกณฑ์ความช่วยเหลือเป็น 3 ระยะ คือ ระยะสั้นช่วยแก้ไขปัญหาสภาพคล่องเพื่อประคับประคองธุรกิจ ระยะกลางช่วยฟื้นฟูธุรกิจให้เริ่มต้นได้อีกครั้ง และระยะยาวช่วยแนะนำแนวทางปรับโมเดลธุรกิจให้สอดคล้องกับตลาดในยุคใหม่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันในระยะยาวได้อีกครั้ง

ท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทายอย่างยิ่ง ธนาคารกรุงเทพยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขายเครือข่ายธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง ด้วยการเข้าซื้อกิจการธนาคารเพอร์มาตา ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งไม่เพียงเป็นการซื้อกิจการที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของธนาคาร หากแต่ยังเป็นการซื้อกิจการธนาคารที่มีมูลค่าสูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียนด้วย

ทั้งนี้ การซื้อกิจการดังกล่าวได้เสริมความแข็งแกร่งของธนาคารกรุงเทพที่สอดคล้องกับนโยบายการเป็นธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาค มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกกว่า 4 ล้านราย สาขาอีกประมาณ 300 แห่งในอินโดนีเซีย และสินทรัพย์เพิ่มขึ้นอีก 10.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมกับก้าวขึ้นเป็นธนาคารที่มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 6 ในอาเซียน และธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย จึงเสริมศักยภาพในมิตินี้ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ด้วยสาขาต่างประเทศมากกว่า 310 แห่ง ใน 14 เขตเศรษฐกิจสำคัญของโลก พร้อมด้วยธนาคารพันธมิตรนอกประเทศอีกว่า 900 แห่งทั่วโลก มีสัดส่วนธุรกิจในต่างประเทศมากถึง 25% ของสินเชื่อรวม จึงเป็นประโยชน์ต่อการกระจายสินเชื่อในเชิงภูมิศาสตร์และมีโอกาสเพิ่มขึ้นสำหรับการขยายธุรกิจในตลาดที่มีอัตราเติบโตสูง

นายชาติศิริ กล่าวอีกว่า การพัฒนาด้านดิจิทัลแบงก์กิ้งนับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยความท้าทายที่สำคัญในช่วงที่ผ่านมา และถือเป็นปัจจัยขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ Mobile First สำหรับธนาคาร โดยมุ่งเน้นทำความเข้าใจพฤติกรรมการใช้บริการโมบายแบงก์กิ้งของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง และนำมาสู่การพัฒนาแอปพลิเคชัน โมบายแบงก์กิ้งจากธนาคารกรุงเทพ ให้ใช้งานได้ง่าย สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีในการทำธุรกรรมต่าง ๆ อันเป็นจุดเด่นที่ช่วยดึงดูดลูกค้ารายใหม่เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ปัจจุบันมีลูกค้าทำธุรกรรมผ่านโมบายแบงก์กิ้งจากธนาคารกรุงเทพ มากกว่า 90% ของปริมาณธุรกรรมทั้งหมด นับเป็นสิ่งที่ธนาคารมีความภาคภูมิใจที่สามารถนำเสนอบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี

“ส่วนสำคัญของการเติบโตอย่างยั่งยืน ธนาคารให้น้ำหนักมากกับการลงทุนเพื่อพัฒนาบุคลากร ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารได้ลงทุนอย่างมากกับระบบเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการทักษะ ต่าง ๆ รวมถึงเครื่องมือและทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับสำหรับการเรียนรู้และพัฒนาบุคลากร เพราะคนถือเป็นหัวใจสำหรับทุก ๆ เรื่องที่จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจเดินหน้าไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้ความมุ่งมั่นของธนาคารที่มีความมุ่งมั่นจะเป็น “เพื่อนคู่คิด” เพื่อเคียงข้างลูกค้าเพื่อตอบสนองความต้องการทางการเงินของภาคธุรกิจและประชาชนไทย” นายชาติศิริ กล่าว

สำหรับรางวัล The Asian Banker CEO Leadership Achievement for Thailand Award เป็นรางวัลที่มอบให้แก่ผู้บริหารสูงสุด หรือประธานกรรมการ และคณะกรรมการของสถาบันการเงินที่มีผลงานโดดเด่นในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ภายใต้ชื่อโครงการ Leadership Achievement Awards มาตั้งแต่ปี 2547 โดยพิจารณามอบรางวัลทุก ๆ 3 ปี ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้นำของแต่ละธนาคารมีระยะเวลาสำหรับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ให้เกิดการปฏิบัติ นับเป็นหนึ่งในโครงการพิจารณารางวัลที่มีหลักเกณฑ์เข้มงวดและตัดสินมอบรางวัลให้บุคคลและองค์กรที่มีความโดดเด่นที่สุดเท่านั้นในแต่ละประเทศ จึงเป็นรางวัลที่ได้การยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยในปี 2565 นี้ CEO และองค์กรที่ได้รับรางวัล มาจากประเทศต่าง ๆ ทั่วภูมิภาค ได้แก่ กัมพูชา มาเลเซีย โอมาน ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ กาตาร์ สิงคโปร์ ศรีลังกา และไทย

• บริการโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ (Bangkok Bank Mobile Banking)

• บริการบัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง (Bualuang iBanking)
• บริการบิซ ไอแบงก์กิ้ง (BIZ iBanking)
• บริการตัวแทนธนาคาร (Banking Agent)
• บริการเครื่องบัวหลวงเอทีเอ็ม (ATM) เครื่องบัวหลวงรับฝากเงินสดอัตโนมัติ (CDM) และเครื่องบัวหลวงฝากถอนอัตโนมัติ (CDM/ATM)
• บริการบัตรเดบิต บัตร Prepaid บัตร Fleet และบัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพ ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินทุกประเภทผ่านทุกช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ทั้งจากธนาคารกรุงเทพ ต่างธนาคาร และธนาคารในต่างประเทศ
• บัตรเงินสดธนาคารกรุงเทพ ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้
• บริการบัวหลวงโฟน ไม่สามารถตรวจสอบรายการทางบัญชี และทำธุรกรรมทางการเงินได้
• บริการ SMS แจ้งความเคลื่อนไหวของบัญชี
• บริการรับเงินโอน ฝากเงิน และชำระค่าสินค้าและบริการ จากต่างธนาคารเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ
• บริการ e-Wallet และ QR Payment
• บริการ Corporate iCash ไม่สามารถเรียกดูรายการเคลื่อนไหวทางบัญชี (Statement) ได้

ธนาคารกรุงเทพ ขอบคุณคนไทยทั่วประเทศ หลังโครงการ “จานโปรด Episode ลับ” ได้เสียงตอบรับคึกคัก มี 313 ทีมส่งคลิปเข้าร่วม คัดเข้ารอบเพียง 50 ทีม เตรียมเข้าคอร์สอบรมออนไลน์ กับ 5 ผู้กำกับชื่อดัง ก่อนรับโจทย์ใหญ่ ทำภาพยนตร์สั้น เข้าชิงรางวัลรอบสุดท้าย เพื่อคว้าตำแหน่ง “ผู้กำกับน้อย” คนแรกของประเทศไทย

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ และเลขานุการบริษัท ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้จัดโครงการ “จานโปรด Episode ลับ” เพื่อเชิญชวนคนไทยร่วมกันสร้างคอนเทนต์ในรูปแบบคลิปวิดีโอ เกี่ยวกับ “อาหารจานโปรด” เพื่อส่งเสริมการประชาสัมพันธ์อาหารจานโปรดและร้านเด็ดของชุมชน ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ และร่วมชิงรางวัล “ผู้กำกับน้อย” คนแรกของประเทศไทย ซึ่งได้ปิดรับสมัครไปในวันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ให้ความสนใจจากทั่วประเทศส่งคลิปเข้าร่วมกิจกรรมถึง 313 ทีม ซึ่งกรรมการได้คัดเลือกและประกาศรายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบทั้ง 50 ทีมเรียบร้อยแล้ว ทางเว็บไซต์ www.จานโปรด.com

“ในฐานะตัวแทนของผู้จัดโครงการ “จานโปรด Episode ลับ” ขอแสดงความยินดีกับทั้ง 50 ทีมที่ผ่านเข้ารอบ และอยากขอบคุณคนไทยทุกคน รวมถึงทั้ง 313 ทีมที่ได้ร่วมส่งคลิปวิดีโอเข้ามาร่วมกิจกรรม และร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกันผลักดันร้านโปรดในท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น จากข้อมูลทั้งหมดที่ส่งเข้ามา คณะกรรมการของโครงการฯ ได้ตามไปชิมอาหารจานโปรดของทุกทีมที่แนะนำกันเข้ามาทุกร้าน ทุกจาน เพื่อยืนยันความอร่อย ขณะเดียวกัน ในขั้นตอนการพิจารณาด้านการถ่ายทำคลิปวิดีโอ โดยผู้กำกับมือทองทั้ง 5 ท่าน ก็พิจารณาคลิปของทุกทีมด้วยตนเองด้วยความหนักใจที่จะต้องตัดเหลือเพียง 50 ทีมเท่านั้น เพราะแต่ละทีมนำเสนอได้น่าสนใจมาก มีหลายจานที่ผู้กำกับต้องจดชื่อร้านและตามไปชิมถึงที่มาแล้ว”

นายกอบศักดิ์ กล่าวอีกว่า ทั้ง 50 ทีมที่ผ่านเข้ารอบ จะได้ร่วมอบรมหลักสูตร “ผู้กำกับน้อย” ผ่านระบบออนไลน์ โดย 5 ผู้กำกับชื่อดัง ซึ่งเป็นการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ตรงอย่างเข้มข้นเกี่ยวกับการกำกับภาพยนตร์ ในระหว่างวันที่ 11-12 กรกฎาคม 2565 จากนั้นแต่ละทีมจะต้องจัดทำภาพยนตร์สั้น ตามโจทย์ที่กำหนด เพื่อเข้าประกวดชิงรางวัล “ผู้กำกับน้อย” คนแรกของประเทศไทย โดยมีกำหนดส่งผลงานภาพยนตร์สั้นภายในวันที่ 1 สิงหาคม 2565 และจะประกาศรางวัลในวันที่ 9 สิงหาคม 2565 ณ อาคารสำนักงานใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ

สำหรับโครงการ “จานโปรด Episode ลับ” เป็นโครงการที่ 5 ผู้กำกับมือทองแห่งยุค ร่วมกับ ธนาคารกรุงเทพ เชิญชวนคนไทยร่วมกันสร้างคอนเทนต์ในรูปแบบคลิปวิดีโอ เกี่ยวกับ “อาหารจานโปรด” เพื่อส่งเสริมการประชาสัมพันธ์อาหารจานโปรดและร้านเด็ดของชุมชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งแนวทางการสนับสนุนภาคเศรษฐกิจในระดับชุมชน ทั้งช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นร้านอาหารและการท่องเที่ยว เป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจมากขึ้น ในช่วงเวลาที่ภาวะเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว หลังซบเซาจากปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 มายาวนาน
กว่า 2 ปี

ขณะเดียวกัน โครงการดังกล่าวยังเป็นเวทีแห่งโอกาสสำหรับคนที่สนใจการสร้างภาพยนตร์ โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษาที่มีใจรักในงานด้านกำกับภาพยนตร์ สามารถเข้าร่วมอบรมหลักสูตร “ผู้กำกับน้อย” ซึ่งจะได้เรียนรู้และหาประสบการณ์จากผู้กำกับชั้นนำระดับประเทศ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะมีโอกาสได้เรียนรู้โดยตรงจาก 5 ผู้กำกับชื่อดังประกอบด้วย คุณธนิตย์ จิตนุกูล ผู้กำกับเรื่อง บางระจัน คุณปรัชญา ปิ่นแก้ว ผู้กำกับเรื่อง ต้มยำกุ้ง คุณบัณฑิต ทองดี ผู้กำกับเรื่อง พุ่มพวง คุณราเชนทร์ ลิ้มตระกูล ผู้กำกับเรื่อง โลกทั้งใบให้นายคนเดียว และคุณณภัทร ตั้งสง่า ผู้กำกับภาพยนตร์สั้นที่คว้ารางวัลชนะเลิศในหลากหลายเวที

ผู้ชนะการประกวดจากโครงการนี้ จะได้รับรางวัลรางวัล “ผู้กำกับน้อย” คนแรกของประเทศไทย พร้อมรางวัลเกียรติยศ “บัวหลวงทองคำ” และรางวัลต่างๆ รวมมูลค่ากว่า 4 แสนบาท โดยผลงานทั้งหมดจะถูกนำเสนอผ่านช่องทางออนไลน์ของธนาคาร เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์ “จานโปรด” ทั้ง 50 จาน ขณะเดียวกัน ร้านเด็ดเจ้าของจานโปรดที่ได้รับคัดเลือกดังกล่าว จะได้รับมอบตราสัญลักษณ์ “จานโปรด Episode ลับ” เพื่อเป็นการรับประกันความอร่อยอีกด้วย

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) นำโดย นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ให้การต้อนรับ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานเปิดงานฯ นางสุรีย์พรรณ ณ สงขลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และนายสันติ วิริยะรังสฤษฏ์ ประธานจัดงานฯ ในโอกาสให้เกียรติเป็นประธานพิธีเปิดและเยี่ยมชมบูธธนาคารกรุงเทพ ในงานมหกรรมการเงินหาดใหญ่ ครั้งที่ 12 หรือ Money Expo Hatyai 2022 ณ เซ็นทรัล หาดใหญ่ ชูคอนเซ็ปต์ “Design Your Wealth for Well-being” พร้อมผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน เพื่อเคียงข้างลูกค้าสู่ความมั่งคั่งและมีคุณภาพชีวิตที่ดีทุกด้าน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคปัจจุบัน

นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพได้เข้าร่วมงานมหกรรมการเงิน หาดใหญ่ ครั้งที่ 12 หรือ Money Expo Hatyai 2022 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 กรกฎาคม 2565 ณ เซ็นทรัล หาดใหญ่ โดยธนาคารกรุงเทพได้สร้างสรรค์บูธด้วยแนวคิด “Design Your Wealth for Well-being” ซึ่งเป็นความตั้งใจของธนาคาร ในฐานะ “เพื่อนคู่คิด” ที่พร้อมเคียงข้างลูกค้าเพื่อก้าวไปสู่ความมั่งคั่งและการมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกด้าน หรือ Well-being ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดหลักของผู้จัดงาน Money Expo 2022 คือ Wealth to Wellness นำเสนอความมั่งคั่งในรูปแบบใหม่ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ ธนาคารยังได้สนับสนุนแนวคิดการก้าวสู่อนาคตอย่างยั่งยืน หรือ Sustainability เพื่อร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ โดยนำโครงสร้างหลักของบูธ Money Expo กรุงเทพฯ ที่เป็นต้นแบบ มาปรับให้สอดคล้องกับพื้นที่จัดงานในต่างจังหวัดด้วย ลดการใช้โครงสร้างแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง เพื่อมุ่งสู่ Zero Waste หรือการไม่สร้างขยะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคุณค่าของการเติบโตอย่างยั่งยืนที่ธนาคารให้ความสำคัญและช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ความเป็นธนาคารชั้นนำให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

นายทวีลาภ กล่าวต่อว่า ในปีนี้ธนาคารได้คัดสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินต่าง ๆ รวมถึงโปรโมชันพิเศษ ตอบรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในปัจจุบันที่นิยมการใช้งานได้ทั้งแบบออนไลน์ และออฟไลน์ นำโดย บัตร เดบิตบีเฟิสต์ ดิจิทัล ที่เพิ่งเปิดตัวในปีนี้ ด้วยจุดเด่นเรื่องความปลอดภัย มั่นใจได้ทุกการช้อปปิ้งออนไลน์ ทั้งยังสมัครง่าย ผ่านช่องทางโมบายแบงก์กิ้ง พร้อมรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น ยกเว้นค่าธรรมเนียมบัตร ส่วนลดสำหรับการช้อปปิ้งออนไลน์ใน Shopee Lazada Grab และเงินคืนผ่าน True Money Wallet รวมมูลค่ากว่า 2,300 บาท นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์และบริการในกลุ่มดิจิทัลแบงก์กิ้ง เช่น

• ฟีเจอร์ใหม่ โมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ ตอบสนองการทำธุรกรรมได้ดีขึ้น เช่น บริการ dStatement บริการรับ-ส่งข้อมูลรายการเคลื่อนไหวบัญชีเงินฝากระหว่างธนาคารแบบดิจิทัล และบริการโอนเงินไปต่างประเทศ โอนเงินอย่างปลอดภัยไปยัง 124 ประเทศทั่วโลก 17 สกุลเงิน
• บัญชีเงินฝาก e–Savings สะดวกทุกเรื่องออม โอน จ่าย ลงทุน เพียงเปิดบัญชีเงินฝาก e–Savings และยืนยันตัวตนด้วย Be My ID ภายในงาน รับ กระเป๋าผ้า Be Cool 1 ใบ มูลค่า 129 บาท
• บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ รับสิทธิพิเศษมากมายจากเครือข่ายร้านค้า พิเศษ สมัครบัตรเครดิตแอร์เอเชีย ธนาคารกรุงเทพ รับของสมนาคุณพิเศษ
• BeMerchant NextGen แอปสำหรับร้านค้า เพื่อรับชำระสินค้า/บริการด้วย QR Code ให้การซื้อง่าย ขายคล่อง และรับเงินสะดวก พิเศษ สมัครบริการ BeMerchant NextGen และลงทะเบียนสำเร็จภายในงาน รับ กระเป๋าสุดคูล 1 ใบ มูลค่า 195 บาท
  
  

• ลงทุนกองทุน RMF/SSF และมียอดลงทุนตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไป ภายในงาน รับ ผ้าเช็ดตัว Bubu 1 ผืน มูลค่า 200 บาท
• สมัครประกันชีวิต บี ทูเกตเทอร์ หรือประกันวินาศภัยที่ร่วมรายการ และชำระเบี้ยประกันภัยปีแรกภายในงาน รับบัตรของขวัญสตาร์บัคส์ มูลค่าสูงสุด 1,000 บาท
• สมัครประกันวินาศภัยที่ร่วมรายการ และชำระเบี้ยประกันภัยปีแรกภายในงาน รับบัตรของขวัญโลตัส มูลค่าสูงสุด 500 บาท
• บริการแนะนำเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ จาก บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง รับสิทธิพิเศษ 2 ต่อ เมื่อสมัครเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับ หลักทรัพย์บัวหลวง ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ หรือสาขาธนาคาร
• บริการด้านสินเชื่อ ธนาคารมีข้อเสนอพิเศษจากสินเชื่อบ้านบัวหลวง รับสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เมื่อลงทะเบียนจองสิทธิภายในงาน รับเพิ่ม กระเป๋าผ้า Home Loan 1 ใบ มูลค่า 179 บาท เมื่อสมัครสินเชื่อพร้อมยื่นเอกสารประกอบคำขออย่างน้อย 3 รายการภายในงาน
  
  

ธนาคารกรุงเทพ แท็คทีม หลักทรัพย์บัวหลวง-กองทุนบัวหลวง ต่อยอดความร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดตัว 2 วิชาเรียนเอาใจนักศึกษายุคใหม่ มธ.309 การลงทุนในหลักทรัพย์ แบบมืออาชีพ และ มธ.234 การลงทุนสำหรับมือใหม่ ปูทางสู่วิชาชีพด้านการเงิน-ลงทุน

นางสาวพจณี คงคาลัย ผู้ช่วยจัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพ ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) (บล.บัวหลวง) และ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บัวหลวง จำกัด (บลจ.บัวหลวง) ได้พัฒนาความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พัฒนาหลักสูตรรายวิชา มธ.309 การลงทุนในหลักทรัพย์แบบมืออาชีพ (3 หน่วยกิต) และกิจกรรมนอกชั้นเรียน มธ.234 การลงทุนสำหรับมือใหม่ (1 หน่วยกิต) เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจด้านเศรษฐกิจและวิธีการลงทุนในตราสารรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงวิธีการวิเคราะห์การลงทุน เน้นให้ผู้เรียนได้ทดลองลงมือปฏิบัติจริงด้วยเครื่องมือลงทุนในยุคดิจิทัล และกิจกรรมที่เน้นแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน (Networking) โดยมีผู้บริหารจากธนาคารกรุงเทพ บล.บัวหลวง และบลจ.บัวหลวง เป็นผู้บรรยายตลอดรายวิชา ซึ่งนับเป็นความรู้และประสบการณ์ตรงในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพด้านการลงทุนจากสถาบันการเงินชั้นนำของประเทศ อันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียนที่สามารถพัฒนาความรู้และทักษะไปสู่การประกอบวิชาชีพที่เกี่ยวข้องด้านการลงทุนในอนาคต

“กลุ่มธนาคารกรุงเทพ และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นเสมือน “เพื่อนคู่คิด” ที่พัฒนาความร่วมมือและเกื้อกูลกันมาอย่างต่อเนื่อง เช่น การสร้างสรรค์พื้นที่บ่มเพาะสตาร์ตอัปรุ่นใหม่ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เข้าร่วมฝึกงาน การถ่ายทอดความรู้ด้านการเงินให้แก่นักศึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ ในโครงการ The Stock Master @University จนพัฒนามาถึงครั้งนี้ นับเป็นโอกาสดีที่กลุ่มธนาคารกรุงเทพ ในฐานะสถาบันการเงินชั้นนำของประเทศซึ่งมีบุคลากรที่เป็นมืออาชีพด้านการลงทุนสามารถนำศักยภาพมาต่อยอดเพื่อเสริมสร้างความรู้ด้านการเงินการลงทุนให้แก่คนรุ่นใหม่ ซึ่งมีแนวโน้มความสนใจด้านการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันโลกการเงินและการลงทุนในปัจจุบันมีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่แนวคิดการลงทุนใหม่ ๆ การพัฒนาตราสารที่มี ความซับซ้อน มีสินทรัพย์ลงทุนใหม่ อย่างสินทรัพย์ดิจิทัล ตลอดจนเครื่องมืออำนวยความสะดวกด้านการลงทุนรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาในวิชาเรียนดังกล่าว จึงมั่นใจว่า ความร่วมมือกันในครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านวิชาการของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้มีความโดดเด่นยิ่งขึ้น” นางสาวพจณี กล่าว

ด้านนายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มนักศึกษาเริ่มให้ความสนใจการออมเงินผ่านการลงทุนมากขึ้นเห็นได้จากตัวเลขยอดเปิดบัญชีใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งแตกต่างจากในอดีตที่จะมาจากกลุ่ม Generation X และ Baby Boomer ดังนั้น หลักทรัพย์บัวหลวง ในฐานะบริษัทในกลุ่มธนาคารกรุงเทพจึงให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมให้ความรู้และปลูกฝังวินัยทางการเงินตลอดจนแนะนำการลงทุนและออมเงินในสินทรัพย์ทางการเงินที่มีอยู่หลากหลาย เพื่อเสริมสร้างทักษะความรู้พื้นฐานด้านการเงินและการลงทุนให้กับนักศึกษา พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับหน่วยงานด้านธุรกิจการเงินชั้นนำของประเทศไทย โดยนักศึกษาที่เข้าร่วมหลักสูตรจะได้เรียนรู้ด้านการลงทุนตั้งแต่พื้นฐานหุ้น กองทุนรวม หุ้นกู้ และการวางแผนลงทุน ผ่านการถ่ายทอดความรู้จากมืออาชีพด้านการลงทุนจนสามารถนำความรู้ไปสอบใบอนุญาตผู้แนะนำการลงทุน เพื่อนำไปประกอบวิชาชีพในสายการเงินและการลงทุน

“เนื้อหาการเรียนรู้ในหลักสูตรนี้เข้มข้นมาก ๆ เพราะนอกจากจะได้เข้าใจและเรียนรู้เรื่องระบบเศรษฐกิจของไทยกับมืออาชีพจากสถาบันเงินชั้นนำแล้ว ผู้เรียนจะยังได้รู้จักวิธีการวางแผนการเงินเบื้องต้นไปจนถึงความรู้พื้นฐานการลงทุนในตลาดหุ้นไทยและตลาดการเงิน รวมถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีอยู่หลากหลายประเภท ที่สำคัญยังได้ทดลองลงทุนเสมือนจริงด้วย ถือเป็นการติดอาวุธด้านการลงทุนแบบครบวงจร ซึ่งหลักสูตรนี้ก็ออกแบบมาตอบโจทย์ คนรุ่นใหม่ที่มีความสนใจเรื่องการลงทุนอย่างแท้จริง” นายพิเชษฐ กล่าว

นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ Head of Business Distribution บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด กล่าวว่า แม้การเงินและการลงทุนเป็นเรื่องที่อยู่รอบตัวในชีวิตประจำวัน แต่การมีความรู้ในเนื้อหาด้านทฤษฎีเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เข้าใจหลักการและแนวคิด เมื่อผสานรวมกับความรู้จากประสบการณ์ของ มืออาชีพในสายงานด้านการเงินและการลงทุนจะยิ่งทำให้นักศึกษาสามารถมองเห็นภาพได้อย่างครบถ้วนและชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมถึงอาจเป็นการจุดประกายความสนใจในวิชาชีพของแวดวงการเงิน การวางแผนทางการเงิน และการลงทุนต่อไป ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งวิชาชีพที่มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งยังเชื่อมั่นว่า หลักสูตรทั้ง 2 วิชาเรียนนี้จะช่วยเปิดโลกทัศน์ด้านการเงินในยุคปัจจุบัน อันเป็นประโยชน์สำหรับนักศึกษาที่สนใจและต้องการทำงานในอาชีพนี้อย่างแน่นอน

รองศาสตราจารย์เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ธรรมศาสตร์มุ่งเน้นให้ความสําคัญกับการพัฒนานักศึกษาด้วยองค์ความรู้ในภาคปฏิบัติ จึงเกิดความร่วมมือกับภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรมในทุกเซคเตอร์ สําหรับด้านการเงินการลงทุน ก็ต้องขอบคุณธนาคารกรุงเทพที่ยกทีมผู้บริหารระดับสูงจากหลายบริษัทในเครือมาช่วยกันยกระดับความรู้ความสามารถให้นักศึกษาอย่างจริงจัง โดยมีส่วนร่วมกับธรรมศาสตร์ ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบเนื้อหารายวิชา และที่สําคัญนักศึกษาที่สอบผ่านวิชานี้ก็จะมีโอกาสได้ไปสอบใบอนุญาตที่ปรึกษาด้านการลงทุนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ถือเป็นความร่วมมือที่สําคัญระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กับธนาคารกรุงเทพ

รองศาสตราจารย์ ดร.พิภพ อุดร รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวเสริมว่า เนื่องจากคนรุ่นใหม่ไม่นิยมทํางานกับบริษัทใหญ่ ๆ ชอบทํากิจการส่วนตัวและอาชีพอิสระ ทําให้หนึ่งในทักษะที่สําคัญมาก ๆ คือ Financial Literacy หรือความสามารถทางการเงิน ทั้งการเงินส่วนบุคคล การบริหารสภาพคล่อง การจัดการความเสี่ยงการลงทุนเพื่อให้เงินงอกเงย โดยใช้ประโยชน์จากเครื่องมือทางการเงินใหม่ ๆ รวมทั้งสินทรัพย์ดิจิทัล ดังนั้น ธรรมศาสตร์จึงร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพในการพัฒนาความรู้และทักษะนี้ ทั้งในรูปแบบวิชาเรียน และกิจกรรมอื่น ๆ ให้กับนักศึกษา โดยเป้าหมายหลักก็คือ ทําให้นักศึกษามีความรู้และทักษะทางการเงินที่ครบเครื่อง ซึ่งจะติดตัวไปเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิตและการทํางานได้อย่างต่อเนื่องต่อไปในอนาคต

ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) รับมอบรางวัลเกียรติยศ ในฐานะธนาคารที่ได้รับความน่าเชื่อถือและไว้วางใจจากผู้บริโภค ประจำปี 2022 โดยมีคะแนนอันดับ 1 ในหมวด “ธนาคารและบริการทางการเงิน” กลุ่มธนาคาร จากการสำรวจวิจัยในโครงการ 2022 Thailand’s Most Admired Brand and Why We Buy? โดยนิตยสาร BrandAge ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 22 รางวัลดังกล่าวสะท้อนถึงความน่าเชื่อถือของแบรนด์ และปัจจัยในการตัดสินใจซื้อหรือใช้บริการของผู้บริโภคทั่วประเทศ รวมทั้งนักการตลาดที่มีการรับรู้ต่อแบรนด์ของแต่ละองค์กร ผ่านการคัดกรองอย่างเข้มข้นตามหลักวิชาการทุกขั้นตอน เพื่อเป็นดัชนีที่ช่วยชี้วัดการรับรู้และความนิยมชื่นชอบของแบรนด์ในสายตาผู้บริโภค

ธนาคารกรุงเทพ เปิดตัวบัตรเดบิต “บีเฟิสต์ ดิจิทัล” ปลอดภัย มั่นใจทุกการช้อปออนไลน์ สมัครได้เองง่ายๆ ใช้งานได้ทันที ผ่านโมบายแบงก์กิ้งฯ ชูจุดเด่นยกระดับความปลอดภัยขั้นสูง พร้อมบัตรคู่หู ดีไซน์ใหม่เอกลักษณ์เฉพาะคุณสุดเก๋ของกลุ่มผู้ใช้บัตรเดบิต เอาใจคนรุ่นใหม่ชอบความสะดวกสบาย ทันใจ คุ้มค่า เผยโฉมครั้งแรกในงาน Money Expo 2022 นี้ พร้อมโปรโมชั่นช่วงแนะนำสุดคุ้มถึง 3 ต่อ ยกเว้นค่าธรรมเนียม พร้อมรับโค้ดส่วนลดเอาใจนักช้อปออนไลน์แบบจุกๆ มูลค่ารวมกว่า 2,300 บาท

นายโชค ณ ระนอง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพเปิดตัว “บัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล” ภายใต้แนวคิด “ปลอดภัย มั่นใจทุกการช้อปออนไลน์” เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายคนทำงานรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการอัปเดตเทรนด์และไลฟ์สไตล์ผ่านโลกโซเชียล รวมทั้งคุ้นเคยกับการช้อปปิ้งออนไลน์ โดยสามารถสมัครใช้บริการ “บัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล” (Be1st Digital Card) ด้วยตนเองและควบคุมการใช้งานต่างๆ ได้ง่ายๆ ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ และเริ่มใช้งานได้ทันที กับร้านค้าออนไลน์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งยังสามารถนำไปผูกกับกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-wallet) ต่างๆ ได้สะดวกด้วย เช่น Rabbit LINE Pay, Google Pay, Dolfin Wallet เป็นต้น

นอกจากความสะดวกสบายในการสามารถสมัครผ่านโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ และได้ใช้งาน “บัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล” แบบทันทีแล้ว ธนาคารยังจัดทำบัตรคู่หู ที่มีการดีไซน์ใหม่ครั้งแรกของประเทศไทยของรูปแบบบัตรเดบิต โดยจะเป็นบัตรพลาสติก EMV Contactless ที่มีความปลอดภัยสูง ไม่แสดงข้อมูลเลขที่บัตรเดบิต, เลข CVC/CVN และวันที่หมดอายุบนบัตร โดยจะแสดงเฉพาะชื่อ-นามสกุลของผู้ถือบัตร Function ATM ที่ต้องใช้คู่กับรหัส PIN 6 หลักที่ปลอดภัยสูง สามารถใช้ทำธุรกรรมฝาก-ถอน-โอน ผ่านตู้เอทีเอ็มได้ทุกธนาคารและโดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่ต้องการใช้บัตรถอนเงินในต่างประเทศ รวมถึงการรูดซื้อสินค้ากับร้านค้าในต่างประเทศที่ผู้ถือบัตรจะถูกขอให้แสดงบัตรที่มีชื่อตรงตาม Passport ในการซื้อสินค้า โดยในช่วงเปิดตัวธนาคารจะจัดส่ง “บัตรเดบิตคู่หูแบบพลาสติกรูปลักษณ์ใหม่” (Physical Card) ให้แก่ลูกค้าที่สมัคร “บัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล” ทุกท่านตามที่อยู่ที่ให้ไว้กับธนาคาร และลูกค้าสามารถเลือก Option ไม่ใช้บัตรพลาสติกได้หากไม่ต้องการใช้งาน สามารถกำหนดวงเงินทำธุรกรรม เปิด-ปิดการใช้งานบัตร (Enable - Disable Card Usage) เปลี่ยนแปลงวงเงินชำระค่าสินค้าและบริการ รวมถึงอายัดบัตร ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

“กลุ่มเป้าหมาย “บัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล” เป็นคนรุ่นใหม่ วัยเริ่มต้นทำงาน และลูกค้าที่มีดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ชื่นชอบการใช้จ่ายออนไลน์ ตอบโจทย์ทั้งความคุ้มค่าและสะดวกสบาย ซึ่งข้อมูลจาก Future Shopper 2564 โดยวันเดอร์แมน ธอมสัน ประเทศไทย ระบุว่าผู้บริโภคคนไทยกำลังก้าวขึ้นเป็นผู้นำเทรนด์ช้อปปิ้งออนไลน์ด้วยสัดส่วนสูงถึง 94% สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 72% สอดคล้องกับ Thailand Digital Stat 2565 แต่อีกด้านหนึ่ง คนไทย 26.1% ก็ยังคงมีความกังวลต่อประเด็นการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลทางการเงิน ดังนั้น “บัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล” จึงสามารถตอบโจทย์ทั้งการอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคผู้ถือบัตรเดบิต ขณะเดียวกันก็ยังช่วยคลายความกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลทางการเงินในโลกออนไลน์ ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือบัตรได้ด้วยในคราวเดียวกัน”

นายโชค กล่าวต่อว่า แนวโน้มการใช้บัตรเดบิตเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งต่างประเทศและในประเทศไทยในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา มีอัตราเพิ่มขึ้นทุกปี โดยปริมาณการใช้บัตรเดบิตชำระเงินให้ร้านค้าออนไลน์ในต่างประเทศปี 2564 เติบโตกว่า 10 เท่าจากปี 2559 ขณะที่มูลค่าธุรกรรมเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 6.2 เท่า จากการขยายตัวของดิจิทัลเพย์เม้นต์ ขณะที่จุดเด่นของ “บัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล” สามารถตอบโจทย์ได้ครบทั้งการอำนวยความสะดวกในการสมัครบัตรออนไลน์ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ ใช้งานใช้จ่ายออนไลน์ได้ทันที และช่วยแก้ Pain Point ที่ผู้บริโภคยังมีความกังวลในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลในโลกออนไลน์ได้มั่นใจขึ้น จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นบัตรเดบิตที่เข้าใจและตอบสนองความต้องการกลุ่มผู้ถือบัตรเดบิตได้อย่างสูงสุด โดยปี 2565 ธนาคารมีเป้าหมายเพิ่มผู้สมัครใช้งานบัตรเดบิตใหม่ 1.5 ล้านบัตร ปัจจุบันธนาคารมีฐานบัตรเดบิตกว่า 10 ล้านบัตร ทั้งนี้ “บัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล” ยังมีแผนขยายความร่วมมือใหม่ๆ กับหลากหลายพันธมิตรชั้นนำเพื่อเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์และความคุ้มค่าอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

ด้าน “กลัฟ – คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์” นักแสดงหนุ่มมากความสามารถ ซึ่งเป็นพรีเซนเตอร์ “บัตร บีเฟิสต์ ดิจิทัล” กล่าวว่า บัตรใบนี้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผมมากๆ นอกจากเรื่องการเล่นเกมออนไลน์ที่ปกติจะต้องใช้เงินซื้อไอเทมต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็วและปลอดภัยแล้ว ยังตรงกับไลฟ์สไตล์เรื่องการช้อปออนไลน์มากๆ ซึ่งปกติผมสั่งซื้อของเกือบทุกอย่างผ่านออนไลน์ ไม่ว่าจะร้านค้าทั้งในและต่างประเทศ เพราะต้องทำงานเกือบทุกวัน จึงไม่มีเวลาไปเดินเลือกซื้อสินค้าที่ช้อปหรือที่ห้างสรรพสินค้าเอง ดังนั้น เมื่อมีเวลาว่าง ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็สามารถเลือกดูและสั่งผ่านออนไลน์ได้ทันที และยิ่งมั่นใจสำหรับทุกธุรกรรมเมื่อชำระเงินด้วย ‘บัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล’ ไม่ว่าจะทำรายการโดยตรงหรือจะผูกเข้ากับ e-Wallet ก็สะดวก ชำระเงินได้ทันทีโดยไม่ต้องหยิบบัตรมากรอกข้อมูลให้เสียเวลา เพราะมั่นใจได้เรื่องความปลอดภัย

“แม้ว่าผมจะซื้อของผ่านออนไลน์เยอะ แต่ก็จะค่อนข้างระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยมากๆ นอกจากแพลตฟอร์มที่สั่งซื้อต้องน่าเชื่อถือ สั่งแล้วต้องได้ของที่เราอยากได้ อีกเรื่องคือ ความปลอดภัยของข้อมูล ทั้งข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลบัตรที่ใช้ชำระเงิน ซึ่ง “บัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล” ของธนาคารกรุงเทพ ตอบโจทย์เรื่องนี้มากๆ ทำให้สั่งซื้อสินค้าและจ่ายเงินได้อย่างสบายใจ ซึ่งผมเชื่อว่าหลายๆ คนก็มีไลฟ์สไตล์คล้ายกับผม ดังนั้น ผมแนะนำเลยว่า “บัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล” นี้จะตอบโจทย์การใช้งานได้ตรงใจทุกคน เหมือนกับที่ตรงใจผมแน่นอน” นักแสดงหนุ่ม กล่าว

“บัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล” เปิดตัวครั้งแรกวันนี้ (12 พฤษภาคม 2565) ในงาน Money Expo 2022 และเพื่อเพิ่มความคุ้มค่าให้กับลูกค้าที่สมัคร “บัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล” ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม - 31 สิงหาคม 2565 ผู้สมัครบัตรจะได้รับทั้ง Digital Card และ Physical Card (บัตรคู่หู) พร้อมสิทธิประโยชน์แบบจัดเต็มถึง 3 ต่อ ประกอบด้วย ต่อที่ 1 ฟรีค่าธรรมเนียมบัตรมูลค่า 400 บาท ต่อที่ 2 รับส่วนลด Shopee มูลค่า 300 บาท โดยกดรับสิทธิที่เมนู “ไลฟ์สไตล์ สิทธิพิเศษ” บนโมบายแบงก์กิ้ง และต่อที่ 3 รับโค้ดพิเศษ ทุกเดือน เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรตามเงื่อนไข ทั้งส่วนลด GrabFood 100 บาท, Grab 80 บาท, พิเศษ ส่วนลด GrabFood หรือ Grab 150 บาท เมื่อจ่ายด้วยบัตรผ่าน GrabPay ครั้งแรก และ รับเงินคืน True Money Wallet สูงสุด 100 บาท รวมมูลค่ากว่า 2,300 บาท (เงื่อนไขตามที่ธนาคารและบริษัทฯ กำหนด)

ผู้สนใจสมัคร “บัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล” ง่ายๆ ได้ด้วยตัวเองผ่านโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ โดยสามารถสอบถามบัวหลวงโฟน โทร.1333 หรือ 0 2645 5555

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) นำโดย นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ และนางสาวพจณี คงคาลัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ให้การต้อนรับ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานเปิดงานฯ นายสันติ วิริยะรังสฤษฏ์ ประธานจัดงานฯ และนางสาวภาคนี วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานฯ ร่วม ในโอกาสให้เกียรติเป็นประธานพิธีเปิดและเยี่ยมชมบูธธนาคารกรุงเทพ ในงานมหกรรมการเงิน กรุงเทพ ครั้งที่ 22 หรือ Money Expo 2022  ชูคอนเซ็ปต์ “Design Your Wealth for Well-being” เตรียมแนะนำบริการ Be 1st Digital พร้อม “กลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์” นักแสดงดาวรุ่งมาแรงพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ เป็นครั้งแรกภายในงาน ด้าน บล.บัวหลวงเตรียมเปิดตัว Application Wealth Connex และสัมมนาแชร์ข้อมูลแบบเจาะลึกสำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่ยุคดิจิทัล โดยยังคงมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพได้เข้าร่วมงานมหกรรมการเงิน กรุงเทพ ครั้งที่ 22 หรือ Money Expo 2022 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12–15 พฤษภาคม 2565 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยธนาคารกรุงเทพในฐานะ “เพื่อนคู่คิด” พร้อมเดินเคียงข้างในการสร้างความมั่งคั่งในแบบที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกคน เพราะทุกคนล้วนต้องออกแบบเส้นทางชีวิต การสร้างความมั่งคั่งเพื่อชีวิตที่มั่นคงก็ต้องออกแบบและวางแผนเช่นกัน จึงเป็นที่มาของแนวคิดในปีนี้ “Design Your Wealth for Well-being” ซึ่งธนาคารมีความตั้งใจที่จะเคียงข้างไปกับทุกคนเพื่อก้าวไปสู่ความมั่งคั่ง และการมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกด้าน หรือ Well-being ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดหลักของผู้จัดงาน Money Expo 2022 คือ Wealth to Wellness ที่นำเสนอความมั่งคั่งในรูปแบบใหม่ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง

พร้อมกันนี้ ในส่วนของการออกแบบบูธยังสนับสนุนแนวคิดการก้าวไปสู่อนาคตอย่างยั่งยืนหรือ Sustainability เพื่อร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมกะเทรนด์ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ ด้วยการลดใช้วัสดุสิ้นเปลือง ทางธนาคารจึงมีแนวคิดในการลดการใช้โครงสร้างแบบ Single Use หรือใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง และมุ่งสู่ Zero Waste หรือการไม่สร้างขยะ จึงได้นำโครงสร้างเหล็กและวัสดุที่มีอยู่ มาดีไซน์และประยุกต์ใช้ โดยการจัดวางองค์ประกอบใหม่และเติมเต็มภาพลักษณ์ความเป็นธนาคารชั้นนำทางด้านการเงินให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ด้วยการนำเสนอกราฟฟิคที่ไอคอนแบบทันสมัยที่นิยมกันใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งจะอยู่ตามจุดสำคัญต่างๆ เพื่อสื่อสารถึงแต่ละเนื้อหาของบูธและอัตลักษณ์ของธนาคารได้อย่างชัดเจน สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวาง พร้อมทั้งสอดคล้องกับผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินในยุคดิจิทัล

นายทวีลาภ กล่าวต่อว่า ในปีนี้ธนาคารได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่รองรับการเข้าถึงได้ทั้งแบบ ออนไลน์ และออฟไลน์ ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุค Post COVID โดยเฉพาะไฮไลท์สำคัญ การเปิดตัวบัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล ช้อปปลอดภัย กับบัตรที่คุณคอนโทรลได้ พร้อมเผยโฉมพรีเซ็นเตอร์ “กลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์” นักแสดงดาวรุ่งมาแรงเป็นครั้งแรกภายในงาน ซึ่งความพิเศษของ “บัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล” สามารถสมัครเป็นเจ้าของได้ง่ายๆ ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง และสำหรับลูกค้าที่สมัครจะได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ รวมมูลค่ากว่า 2,300 บาท

สำหรับอีกหนึ่งไฮไลท์บริการด้านสินเชื่อ ธนาคารมีข้อเสนอพิเศษจากกลุ่ม Green Loan เช่น สินเชื่อบัวหลวงพูนผล คิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ MRR-0.75% ต่อปี สำหรับการกู้เงินเพื่อต่อเติม/ตกแต่ง/ซ่อมแซมที่อยู่อาศัยแบบรักษ์โลก (Green Financing) ใช้เทคโนโลยี/นวัตกรรมพลังงานสะอาด หรือพลังงานทดแทน เช่น การติดตั้งหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์ กังหันลม หรือการออกแบบ Universal Design เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งคนพิการ เด็ก หรือผู้สูงอายุ เช่น การก่อสร้างทางลาด การออกแบบความกว้างของทางเดินหรือทางเดินเข้า รวมทั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้พิการ สินเชื่อบัวหลวงกรีน สำหรับเอสเอ็มอีที่ต้องการลงทุนในธุรกิจที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ หรือมลภาวะต่าง ๆ และนำวัสดุใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ โดยการ Reuse, Recycle ธนาคารจะให้ข้อเสนออัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษ ตลอดระยะสัญญา

ด้านผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยเสริมสร้างความมั่งคั่งที่ลูกค้าสามารถออกแบบเองได้ตามความต้องการ โดยมุ่งเน้นการให้คำแนะนำรวมถึงการวางแผนทางการเงินอย่างมืออาชีพ นำเสนอกองทุน SSF ใหม่ กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยีเพื่อการออม (B-INNOTECHSSF) และ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเอเชียเพื่อการออม (B-ASIASSF) รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางด้านประกันชีวิต บี ทูเกตเทอร์ เฮลธ์ แฮปปี้ และบี ทูเกตเทอร์ แคร์ ขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกมิติความต้องการ และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน ยังคงเป็นหนึ่งจุดเด่นที่ธนาคารเตรียมมานำเสนอภายในงาน พร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่อัปเดตเพิ่มขึ้น และโปรโมชันสุดคุ้ม เช่น

• ฟีเจอร์ใหม่ โมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ ตอบสนองการทำธุรกรรมได้ดีขึ้น เช่น บริการ dStatement บริการรับ-ส่งข้อมูลรายการเคลื่อนไหวบัญชีเงินฝากระหว่างธนาคารแบบดิจิทัล และบริการโอนเงินไปต่างประเทศ โอนเงินอย่างปลอดภัยไปยัง 124 ประเทศทั่วโลก 17 สกุลเงิน
• บัญชีเงินฝาก e–Savings สะดวกทุกเรื่องออม โอน จ่าย ลงทุน เพียงเปิดบัญชีเงินฝาก e–Savings และยืนยันตัวตนด้วย Mobile ID ภายในงาน รับ กระเป๋าผ้า Be Cool 1 ใบ มูลค่า 129 บาท
• บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ รับสิทธิพิเศษมากมายจากเครือข่ายร้านค้า พิเศษ สมัครบัตรเครดิตแอร์เอเชีย ธนาคารกรุงเทพ รับของสมนาคุณพิเศษ
• ประกันชีวิต บี ทูเกตเทอร์ ที่ร่วมรายการ รับสิทธิพิเศษ 2 ต่อ ทั้งแบ่งชำระ 0% นาน 10 เดือน (ค่าเบี้ยขั้นต่ำ 10,000 บาท/เซลล์สลิป) พร้อมรับเงินคืนเข้าบัญชีเงินฝาก (กรมธรรม์อนุมัติภายในวันที่ 31 ก.ค. 65)
• ประกันภัยสัญญาเพิ่มเติม AIA Health Happy จาก AIA / ประกันภัยโควิด คอมพลีท ประกันภัย 3 โรคกวนใจพลัส หรือประกันชีวิต Gain 1st จากกรุงเทพประกันชีวิต / ประกันวินาศภัย PA 1st จากกรุงเทพประกันภัย
• กองทุนรวม นำเสนอกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) การลงทุนระยะยาว พร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษี จาก บลจ.บัวหลวง และบลจ.บางกอกแคปปิตอล
• บริการแนะนำเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ จาก บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง รับสิทธิพิเศษ 2 ต่อ เมื่อสมัครเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับหลักทรัพย์บัวหลวง ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ หรือสาขาธนาคาร

ธนาคารกรุงเทพ จัดโครงการ “จานโปรด Episode ลับ” ชวนคนไทยสร้างคอนเทนต์ โปรโมทร้านเด็ดในชุมชน ชิงรางวัลรวมกว่า 4 แสนบาท พร้อมคว้าตำแหน่ง “ผู้กำกับน้อย” คนแรกของประเทศไทย หวังเป็นอีกหนึ่งแรงร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ดึงภาคท่องเที่ยว-ร้านอาหารฟื้นตัว ชวน 5 ผู้กำกับมือทอง เปิดคอร์สติวเข้ม แชร์ประสบการณ์-เทคนิค สร้างคลิปและหนังสั้นอย่างมืออาชีพ

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ และเลขานุการบริษัท ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้จัดโครงการ “จานโปรด Episode ลับ” เชิญชวนคนไทยร่วมกันสร้างคอนเทนต์ในรูปแบบคลิปวิดีโอเกี่ยวกับ “อาหารจานโปรด” เพื่อส่งเสริมการประชาสัมพันธ์อาหารจานโปรดและร้านเด็ดของชุมชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งแนวทางการสนับสนุนภาคเศรษฐกิจในระดับชุมชน ทั้งช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นร้านอาหารและการท่องเที่ยว เป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจมากขึ้น ในช่วงเวลาที่ภาวะเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว หลังซบเซาจากปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 มายาวนานกว่า 2 ปี

สำหรับกิจกรรมดังกล่าว จะเชิญชวนนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป รวมทีมกันไม่เกินทีมละ 5 คน จัดทำคลิปวิดีโอนำเสนออาหารอร่อยที่เป็น “จานโปรด” จากร้านเด็ดในจังหวัดของตนเอง โดยถ่ายทำคลิปด้วยโทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ความยาวไม่เกิน 3 นาที ส่งเข้ามาที่ www.จานโปรด.com ซึ่งการประกวดแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ (1) ประเภทเยาวชน สำหรับนักเรียน และนักศึกษา และ (2) ประเภทประชาชนทั่วไป ทั้งนี้ 50 ทีมที่ได้รับคัดเลือก จะได้รับสิทธิเข้าร่วมอบรมหลักสูตร “ผู้กำกับน้อย” เพื่อเรียนรู้หลักการและประสบการณ์การจัดทำภาพยนตร์สั้นอย่างเข้มข้นจาก 5 ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง ประกอบด้วย คุณธนิตย์ จิตนุกูล ผู้กำกับเรื่อง บางระจัน คุณปรัชญา ปิ่นแก้ว ผู้กำกับเรื่อง ต้มยำกุ้ง คุณบัณฑิต ทองดี ผู้กำกับเรื่อง พุ่มพวง คุณราเชนทร์ ลิ้มตระกูล ผู้กำกับเรื่อง โลกทั้งใบให้นายคนเดียว และคุณณภัทร ตั้งสง่า ผู้กำกับภาพยนตร์สั้นที่คว้ารางวัลชนะเลิศในหลากหลายเวที

หลังการอบรม ทั้ง 50 ทีม จะได้รับโจทย์สำหรับการจัดทำภาพยนตร์สั้นในหัวข้อ “จานโปรด Episode ลับ” อีกรอบเพื่อร่วมเข้าประกวดภาพยนตร์สั้น ประจำปี 2565 เพื่อชิงรางวัล “ผู้กำกับน้อย” คนแรกของประเทศไทย พร้อมรางวัลเกียรติยศ “บัวหลวงทองคำ” และรางวัลต่างๆ รวมมูลค่ากว่า 4 แสนบาท โดยผลงานทั้งหมดจะถูกนำเสนอผ่านช่องทางออนไลน์ของธนาคาร เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์ “จานโปรด” ทั้ง 50 จาน ขณะเดียวกัน ร้านเด็ดเจ้าของจานโปรดที่ได้รับคัดเลือกดังกล่าว จะได้รับมอบตราสัญลักษณ์ “จานโปรด Episode ลับ” เพื่อเป็นการรับประกันความอร่อยอีกด้วย

“การสร้างเรื่องราว หรือ Story Telling เป็นอีกหนึ่งวิธีการสำคัญที่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และช่วยให้ลูกค้าเกิดการบอกต่อ ประเทศไทยมีธุรกิจเอสเอ็มอีที่เป็นร้านอาหารอยู่มากกว่า 3 แสนราย แต่มีเพียงไม่มากที่สามารถต่อยอดสร้างเรื่องราวให้กับสินค้าของตนเอง เพราะพ่อค้าแม่ค้าอาจถนัดกับการทำอาหารมากกว่า ดังนั้น โครงการนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าและคนรุ่นใหม่ มาช่วยสร้างเรื่องราวให้แทน ช่วยนำเสนออาหารจานโปรดที่อยากจะแนะนำให้คนอื่นๆ ได้ลองมาตามหาร้านเด็ดเหล่านี้ดูบ้าง ขณะเดียวกัน โครงการนี้ก็จะเป็นเวทีแห่งโอกาสสำหรับคนที่สนใจการสร้างภาพยนตร์ โดยเฉพาะน้องๆ นักเรียน นักศึกษาที่มีใจในงานเหล่านี้ สามารถเข้ามาเรียนรู้และหาประสบการณ์จากผู้กำกับชั้นนำระดับประเทศ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะมีโอกาสได้เรียนรู้โดยตรงจากผู้กำกับทั้ง 5 ท่านนี้” นายกอบศักดิ์ กล่าว

ด้านนายธนิตย์ จิตนุกูล ในฐานะตัวแทน 5 ผู้กำกับมือทองที่เข้าร่วมโครงการนี้ กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นกับโครงการนี้ที่จะได้มีส่วนร่วมในการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้กับคนรุ่นใหม่และผู้สนใจงานด้านการกำกับภาพยนตร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จะมี “ผู้กำกับน้อย” เกิดขึ้นในประเทศไทย ทั้งยังเชื่อมั่นว่า โครงการนี้จะช่วยจุดประกายความสนใจงานด้านการกำกับภาพยนตร์ให้กับเยาวชน ช่วยเป็นเวทีให้เรียนรู้และแสดงความสามารถสำหรับนักศึกษาที่จะได้เรียนรู้จากการทำงานจริง รวมถึงจะเป็นพื้นที่ที่ช่วยเติมเต็มความฝัน สำหรับคนที่มีใจรักในงานกำกับภาพยนตร์แต่ยังไม่มีโอกาสได้ทำอาชีพนี้

นายธนิตย์ กล่าวอีกว่า “หน้าที่ของผู้กำกับภาพยนตร์ จำเป็นจะต้องรอบรู้หลายด้าน ซึ่งพื้นฐานความรู้เหล่านั้น ถูกจัดเตรียมไว้ในหลักสูตรอบรมที่เข้มข้น สำหรับ 50 ทีมที่เข้ารอบ ตั้งแต่การเริ่มคิดเรื่องที่มีไอเดียแปลกใหม่ การเขียนบทที่ต้องบอกเล่าเรื่องราวของตัวละครในระยะเวลาจำกัด การเตรียมงานที่รัดกุมตั้งแต่คัดเลือกนักแสดง สำรวจพื้นที่ จัดเตรียมสิ่งของประกอบฉาก เข้ามาถึงขั้นตอนการถ่ายทำที่ต้องรู้ตั้งแต่พื้นฐานเรื่องการถ่ายภาพ การตั้งค่ากล้อง การใช้แสงและสี สะท้อน Mood and Tone ของภาพ และการเคลื่อนกล้อง การกำกับการแสดง ควบคุมภาพและแสงอย่างที่ต้องการ การจัดทำเสียงประกอบหนัง การบันทึกเสียงระหว่างถ่ายทำ และการตัดต่อหนัง นอกจากนี้ ในหลักสูตรจะยังอธิบายถึงการบริหารคน เวลาและงบประมาณ ให้เป็นไปตามที่กำหนด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ผู้กำกับจำเป็นต้องเข้าใจด้วย”

“ผมมองว่าเป็นเรื่องที่ดีมากที่ธนาคารกรุงเทพได้จัดทำโครงการนี้ขึ้นมา เพื่อช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการร้านอาหารที่เป็นร้านเด็ดในแต่ละพื้นที่ในแต่ละชุมชน ซึ่งจากประสบการณ์ของผมที่ได้เดินทางไปถ่ายทำภาพยนตร์ มักจะไปเจอร้านที่อาหารอร่อยซึ่งเป็นร้านเล็กๆ ที่คนต่างถิ่นมักจะไม่รู้ แต่คนในพื้นที่จะรู้จักกันดี ดังนั้น ผมอยากเชิญชวนให้คนที่สนใจ มาเข้าร่วมการประกวด “จานโปรด Episode ลับ” จัดทำคลิปแนะนำ หรือช่วยกันส่งต่อเรื่องราวอาหารจานโปรดของคุณ เพื่อทำให้ร้านอาหารในชุมชนของคุณ เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางมากขึ้น ผมเชื่อว่าแค่ช่วยกันคนละไม้คนละมือ บางครั้งอาจจะดูเหมือนเรื่องเล็กๆ แต่ก็จะมีส่วนช่วยให้ประเทศของเราเดินหน้าต่อไปได้” นายธนิตย์ กล่าว

ผู้สนใจสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม เงื่อนไขของกิจกรรม ตลอดจนสมัครร่วมกิจกรรม โดยสามารถส่งคลิปวิดีโอเพื่อบอกเล่าเรื่องราวอาหาร “จานโปรด” ของคุณ ได้ที่เว็บไซต์ www.จานโปรด.com ภายในวันที่ 6-20 พฤษภาคม 2565

ธนาคารกรุงเทพจับมือช้อปปี้เพย์ (ShopeePay) ต่อยอดบริการ Digital Payment เปิดกว้างศักยภาพการใช้จ่าย อำนวยความสะดวกสำหรับลูกค้าที่ใช้ ช้อปปี้เพย์วอลเล็ท สแกนจ่ายด้วย QR PromptPay ทุกธนาคาร รองรับร้านค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ตอกย้ำความร่วมมือในฐานะ Exclusive Partner ภายใต้บริการใหม่ “PromptPay Sponsor Bank” บุกตลาดการชำระเงินแบบดิจิทัล พร้อมลุยหนักบริการด้านการพัฒนา Solutions สำหรับ Transaction Banking เคียงข้างเป็น “เพื่อนคู่คิด” ให้ลูกค้าธุรกิจ

นายพิพัฒน์ อัสสมงคล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้จับมือกับช้อปปี้เพย์ ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินผ่าน Mobile Wallet แบบครบวงจรบนช้อปปี้ ในลักษณะ Exclusive Partner ให้บริการ “PromptPay Sponsor Bank” หรือ สแกนพร้อมเพย์ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกการชำระเงินให้ผู้ใช้งานกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ช้อปปี้เพย์ สามารถใช้ได้กับร้านค้าที่รองรับการรับชำระด้วย QR PromptPay ของทุกธนาคาร จากเดิมที่รองรับเฉพาะการชำระเงินกับร้านค้าบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของช้อปปี้ หรือใช้กับร้านค้าออฟไลน์ที่มี QR Code ของช้อปปี้เพย์เท่านั้น จึงเป็นบริการใหม่ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าทุกคน ตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้จ่ายในยุค New Normal ทั้งยังอุ่นใจในการทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัยจาก Digital Payment Solutions ของธนาคารกรุงเทพ

สำหรับบริการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มโอกาสการใช้งานช้อปปี้เพย์วอลเล็ท เนื่องจากมีรูปแบบการชำระเงินที่ครอบคลุมมากขึ้น โดยครอบคลุมถึงร้านค้าที่รองรับการชำระเงินด้วย QR PromptPay ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ จึงช่วยเพิ่มปริมาณธุรกรรมของลูกค้าธุรกิจให้เติบโตขึ้น โดยเฉพาะการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีพฤติกรรมการใช้จ่ายผ่านดิจิทัล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมาตรฐานใหม่ในการใช้จ่ายยุคปัจจุบัน ขณะเดียวกันก็เป็นการช่วยเพิ่มฐานผู้ใช้งานใหม่ของช้อปปี้เพย์อีกด้วย

ทั้งนี้ ในปัจจุบันธนาคารกรุงเทพเป็นผู้ให้บริการ Digital Payment Solutions ให้ทั้งช้อปปี้และช้อปปี้เพย์ ในหลากหลายบริการ อาทิ บริการชำระเงินบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบ App to App, การผูกบัญชีธนาคารกรุงเทพ, การชำระเงินด้วยบิลเพย์เมนต์ ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง หรือจ่ายผ่านเครื่องบัวหลวงเอทีเอ็ม รวมทั้งบริการเติมเงินเข้าช้อปปี้เพย์วอลเล็ท ทั้งจากช่องทาง App to App, เติมเงินด้วยบิลเพย์เมนต์ ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง และเครื่องบัวหลวงเอ็ม รวมทั้งรับโอนเงินจากวอลเล็ตของช้อปปี้เพย์เข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ เป็นต้น

“ความร่วมมือระหว่างธนาคารกรุงเทพ และช้อปปี้ซึ่งเป็นผู้นำแพลตฟอร์มด้านอีคอมเมิร์ซในไทย รวมถึงเอเชียและไต้หวัน โดยเลือกธนาคารกรุงเทพเป็น Exclusive Partner ในการให้บริการดังกล่าวผ่านช้อปปี้เพย์ เป็นการต่อยอดเพิ่มขึ้นจากบริการด้าน Digital Payment Solutions ที่ธนาคารให้บริการกับช้อปปี้อยู่ในปัจจุบัน ถือเป็น Success Case ของธนาคารที่พันธมิตรธุรกิจขนาดใหญ่ให้ความไว้วางใจในเทคโนโลยีและศักยภาพของธนาคารกรุงเทพในฐานะ Transaction Banking Services Provider อย่างมีความเข้าใจและสามารถตอบโจทย์กลุ่มธุรกิจ รวมทั้งตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป้าหมายของแต่ละธุรกิจได้เป็นอย่างดี สะท้อนจุดยืนการเป็น “เพื่อนคู่คิด” ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจ ที่พร้อมอยู่เคียงข้างและเติบโตอย่างมั่นคงไปด้วยกัน รวมถึงมีส่วนช่วยยกระดับระบบนิเวศทางธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวทางการทำธุรกิจในยุคปัจจุบันได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยเชื่อว่าจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าธุรกิจทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศไว้วางใจเข้ามาใช้บริการกับธนาคารเพิ่มมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันมีฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจอยู่กว่าแสนราย” นายพิพัฒน์ กล่าว

และเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ธนาคารได้วางเป้าหมายเชิงรุกในการให้บริการ Digital Payment Solutions เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าในทุก Segment สามารถรองรับธุรกรรมดิจิทัล ผ่านหลากหลายช่องทาง สอดคล้องกับพฤติกรรมการชำระเงินของผู้บริโภคในปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการเติบโตด้านธุรกิจของลูกค้าให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

ด้าน นายศุภวิทย์ หงส์อมรสิน ผู้อำนวยการ ช้อปปี้เพย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับความร่วมมือของช้อปปี้เพย์ และธนาคารกรุงเทพในครั้งนี้ เกิดขึ้นภายใต้จุดมุ่งหมายที่สอดคล้องกันในเรื่องของการมอบประสบการณ์การชำระเงินดิจิทัลที่สะดวก ปลอดภัย และคุ้มค่าให้แก่ทั้งผู้ใช้งานและผู้ประกอบการทั่วประเทศ เราต่างมุ่งพัฒนาบริการและสร้างสรรค์ฟีเจอร์ใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยบริการ “สแกนพร้อมเพย์” เป็นหนึ่งในบริการที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานให้สามารถสแกนจ่ายผ่าน QR PromptPay ทุกธนาคาร ทั้ง ณ ร้านค้าออนไลน์และออฟไลน์ที่ร่วมรายการได้อย่างสะดวกสบายไร้รอยต่อ” พร้อมพบโปรโมชันพิเศษชวนสัมผัสประสบการณ์ สแกนง่าย จ่ายคุ้มกว่า เมื่อ “สแกนพร้อมเพย์” กับช้อปปี้เพย์ บนแอปพลิเคชัน ช้อปปี้เพย์ หรือ ช้อปปี้ รับ Shopee Coins Cashback 30% สูงสุด 20 coins ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 พฤษภาคม 2565 และคุ้มอีกต่อ! จากการใช้ Coins เป็นส่วนลดทุกการสแกนจ่าย แค่ 3 ขั้นตอน

1. หา - มองหาสัญลักษณ์ QR PromptPay ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ
2. สแกน - เข้าแอปพลิเคชัน ช้อปปี้เพย์ หรือ ช้อปปี้ กดปุ่มสัญลักษณ์ “Scan&Pay” เพื่อสแกน QR PromptPay และกด “ชำระเงิน” โดยการชำระเงินจะตัดผ่านวอลเล็ทของช้อปปี้เพย์เท่านั้น
3. รับ - รับ Shopee Coins Cashback คืนสูงสุด 30% เมื่อชำระเงินเสร็จเรียบร้อย

ธนาคารกรุงเทพ ต่อยอดความร่วมมือกับ ฮั่วเซ่งเฮง รุกตลาดนักลงทุนยุคใหม่ ออมทองง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน GOLD NOW ตัดผ่านบัญชีธนาคารกรุงเทพได้ทันที เลือกฟีเจอร์ “ออม NOW” เริ่มต้นออมสบาย สตาร์ทแค่ 1,000 บาท ฟรีค่าธรรมเนียมสำหรับธุรกรรมช่วง 27 เม.ย. - 31 ต.ค. 65

นายชาญศักดิ์ เฟื่องฟู กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้กำหนดกลยุทธ์การเติบโตในปี 2565 โดยมุ่งนำเสนอบริการทางการเงินเพื่อช่วยต่อยอดและบริหารความมั่งคั่งให้แก่ลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการแนะนำรูปแบบการลงทุนใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับทิศทางของตลาดและกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่ปัจจุบันมีความสนใจด้านการเงินการลงทุนมากขึ้น พร้อมเปิดรับและเรียนรู้กับการลงทุนในรูปแบบต่างๆ ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจในระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยเฉพาะการลงทุนผ่านทองคำ เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่กลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ให้ความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ธนาคารกรุงเทพ จึงได้ร่วมกับฮั่วเซ่งเฮง ในฐานะผู้นำตลาดทองคำ ต่อยอดความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อพัฒนาบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ความสนใจในการลงทุนทองคำและออมทองออนไลน์ ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซื้อ ขาย ออมทอง ง่าย ทำได้แบบเรียลไทม์ ลูกค้าที่ซื้อทองสามารถชำระเงินเเละมีทองในพอร์ตได้ทันที ส่วนลูกค้าที่ขายทองก็จะได้รับเงินทันทีเช่นกัน สามารถลงทุนทองคำผ่านแอปพลิเคชัน “GOLD NOW” ได้ตั้งแต่ 5 บาททองคำ และไม่ต้องวางหลักประกัน หรือเงินน้อยก็ลงทุนได้ เริ่มต้นออมทองเพียง 1,000 บาท ด้วยฟีเจอร์ “ออม NOW” โดยมีจุดเด่นที่ความสะดวกรวดเร็ว สามารถเปิดบัญชีลงทุนผ่านระบบสแกนใบหน้า และเริ่มต้นซื้อ ขาย ออมทองได้ทันที และเลือกรับเป็นทองคำแท่งได้จริง ทั้งยังสะดวกสบายเพราะสามารถทำรายการผ่านช่องทางดิจิทัลได้ทุกที่ เพียงผูกบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงเทพสำหรับธุรกรรมการซื้อ-ขายทองคำ รวมถึงลูกค้าใหม่ก็สามารถเปิดบัญชีเงินฝาก e-Savings ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ ได้เช่นเดียวกัน

พิเศษสำหรับลูกค้าที่ลงทุนทองคำผ่านแอปพลิเคชัน “GOLD NOW” โดยผูกเข้ากับบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงเทพ ฟรี! ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมหักบัญชีอัตโนมัติเพื่อชำระค่าทองคำ ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย. - 31 ต.ค. 65

“ธนาคารกรุงเทพมุ่งมั่นที่จะเป็นธนาคารที่ให้บริการด้านการเงินอย่างมีคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม รวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็นอีกหนึ่งโฟกัสสำคัญที่ต้องการทำตลาดนี้อย่างจริงจัง เพื่อสร้างความสัมพันธ์ในฐานะ “เพื่อนคู่คิด” ที่พร้อมจะให้บริการทางการเงินต่อเนื่อง รวมถึงการนำเสนอการลงทุนรูปแบบต่างๆ เพื่อช่วยต่อยอดความมั่งคั่งให้ลูกค้า ขณะเดียวกันธนาคารยังได้รับความร่วมมือที่ดีจาก “ฮั่วเซ่งเฮง” พันธมิตรที่ทำธุรกิจร่วมกันมายาวนาน และต่อยอดความร่วมมือระหว่างกันมาตลอด รวมถึงบริการผ่าน “GOLD NOW” ในครั้งนี้ ที่จะช่วยสร้างประสบการณ์ทางการเงินการลงทุนที่ดี เป็นทางเลือกที่คุ้มค่า และตอบโจทย์ความต้องการสำหรับลูกค้าปัจจุบันและลูกค้ารายใหม่ได้อย่างแน่นอน” นายชาญศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพและฮั่วเซ่งเฮง ได้มีความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านการเงินการลงทุนผ่านทองคำ โดยก่อนหน้านี้ (ในปี 2563) ทั้ง 2 องค์กรได้ร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มบริการชื่อ Hua Seng Heng USD Gold Trade ลงทุนในรูปแบบการซื้อขายทองแท่ง 99.99 Gold Spot ด้วยสกุลเงิน USD ผ่านบัญชีเงินฝากสกุลต่างประเทศ (FCD) ธนาคารกรุงเทพ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทย โดยรายการลงทุนดังกล่าวจะอ้างอิงราคาทอง Live Gold Spot แบบ Real Time เพื่อช่วยลดต้นทุนจากแรงกดดันและความผันผวนต่อค่าเงินบาท จากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากไม่ต้องแปลงค่าเงินเป็นเงินบาททุกครั้งที่มีการซื้อขาย สร้างความคุ้มค่าให้นักลงทุนได้มากขึ้น รวมถึงอำนวยความสะดวกยิ่งกว่าเดิมด้วยบริการธุรกรรมแบบออนไลน์

ด้าน นายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง กล่าวว่า “ด้วยแอปพลิเคชัน GOLD NOW ที่สามารถตอบโจทย์การเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นทุกเพศ ทุกวัย ความสะดวกสบายที่มากขึ้น สามารถซื้อ-ขายทองคำได้ทุกที่ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ซึ่งไม่ต้องมาต่อแถวคิวยาวเหมือนอดีต โดยเฉพาะช่วงที่ราคาทองคำมีความผันผวนอย่างมาก อีกทั้งยังสมัครง่ายและเทรดได้อย่างรวดเร็ว สามารถที่จะขายทองคำแล้วได้รับเงินทันที ทำให้ผลตอบรับของผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ “ออม NOW” ได้รับผลตอบรับดีเกินคาด ถูกใจลูกค้าเป็นอย่างมาก รวมถึงปริมาณการเข้าสมัคร GOLD NOW ที่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ส่งผลให้ปริมาณการซื้อ-ขายทองคำของนักลงทุนมีจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นด้วย ดังนั้นเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า เราจึงร่วมกับทางธนาคารกรุงเทพ เปิดช่องทางซื้อ-ขาย โดยเพิ่มทางเลือกให้การเข้าถึงทองคำสินทรัพย์มั่นคง ในช่วงที่สถานการณ์ต่างๆ ทั่วโลกยังคงผันผวนได้ดียิ่งขึ้น”

สำหรับจุดเด่นของเเอปพลิเคชัน GOLD NOW หลักๆ ได้เเก่

• สมัครสมาชิกและเปิดพอร์ตได้ง่าย ทันทีผ่านแอปพลิเคชัน GOLD NOW
• ทำการซื้อ-ขายทองคำ 96.5% (เริ่มต้นที่ 5 บาททองคำ) ได้ทุกวัน ด้วยเวลาทำการซื้อ-ขาย วันจันทร์-ศุกร์ 06.00-02.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ 09.30-17.30 น.
• ซื้อ-ขายทองคำเเบบ Real Time (ลูกค้าที่ซื้อทองสามารถชำระเงินเเละมีทองในพอร์ตได้ทันที ส่วนลูกค้าที่ขายทองก็จะได้รับเงินทันทีเช่นกัน)
• ตั้งรอราคาที่ต้องการซื้อหรือขายทองคำได้
• ไม่ต้องวางหลักประกัน เพื่อการส่งคำสั่ง
• เลือกและกำหนดน้ำหนักทองคำในการขายทองในพอร์ตได้
• เมื่อออมถึงปริมาณน้ำหนักทองคำที่กำหนด สามารถแลกเป็นผลิตภัณฑ์จากฮั่วเซ่งเฮงได้ทุกสาขา

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) นำทีมผู้บริหารและพนักงานธนาคารร่วมเป็นอาสาสมัครบริจาคโลหิต ต่อยอดกิจกรรม “เพื่อนคู่คิด” สานต่อภารกิจ “ผู้ให้” ที่จัดขึ้นโดยธนาคารกรุงเทพ ร่วมมือกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ในการจัดตั้งหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ ไตรมาส 1 ประจำปี 2565 ณ อาคารสำนักงานใหญ่ สีลม ซึ่งในครั้งนี้มีผู้ให้ที่สามารถร่วมบริจาคโลหิตได้ 176 คน รวมเป็นปริมาณเลือด 70,400 ซีซี และนำไปช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยอื่นต่อได้มากถึง 528 คน

ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพ ให้ความสำคัญดำเนินการร่วมจัดตั้งหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ เป็นประจำทุกไตรมาส มาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 26 โดยสามารถจัดหาปริมาณเลือดสำรองได้กว่า 16 ล้านซีซี และนำไปช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยได้แล้วกว่า 130,000 คน โดยคณะผู้บริหารและพนักงานของธนาคารได้ร่วมเป็นผู้ให้ในการอาสาสมัครบริจาคโลหิตเป็นจำนวนมากและสม่ำเสมอ