
Online Banking
ลูกค้าบุคคล
- บัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง
- บัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง
- บัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง
- โมบายแบงก์กิ้ง
- โมบายแบงก์กิ้ง
- โมบายแบงก์กิ้ง
- บัวหลวง ไอฟันด์
ในยุคที่ข้อมูลส่วนตัวหาได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว และการโอนเงินเกิดขึ้นได้ในไม่กี่วินาที กลโกงออนไลน์จึงพัฒนาเร็วไม่แพ้เทคโนโลยี การ “รู้เท่าทัน” มิจฉาชีพจึงไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็น “ทางรอด” ที่ทุกคนต้องมี โดยเฉพาะเมื่อมิจฉาชีพสวมรอยเป็นองค์กรที่น่าเชื่อถือ ใช้ข้อมูลบางส่วนที่ดู “จริง” มาหลอกเราให้โอนเงิน
บทความนี้จะพาไปรู้จักกลโกงที่พบบ่อยที่สุด พร้อมจุดสังเกตสำคัญ วิธีป้องกัน และสิ่งที่ต้องทำเมื่อเผลอ “พลาด” ไปแล้ว
1. อย่าหลงกล! หลอกเปิดบัญชี อาจกลายเป็นบัญชีม้าโดยไม่รู้ตัว
บัญชีม้า คือ บัญชีธนาคารที่บุคคลทั่วไปเปิดขึ้นมาให้ผู้อื่นใช้ หรือปล่อยให้บุคคลอื่นใช้บัญชีแทน โดยไม่รู้ว่าบัญชีนั้นจะถูกนำไปใช้ในการฟอกเงิน หลอกลวง หรือกระทำความผิดทางกฎหมายอื่น ๆ เช่น รับเงินจากเหยื่อที่โดนหลอก แล้วรีบถอนออกทันที
สำหรับกลโกงและจุดสังเกตว่าเข้าข่ายบัญชีม้าหรือไม่ สามารถสังเกตได้ง่าย ๆ เลยเพราะส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบ "รับจ้างเปิดบัญชี มีค่าตอบแทน" โดยอาจจะใช้อุบายว่ามีผู้แอบอ้างว่าเป็นบริษัทออนไลน์ , เว็บเทรด , สมัครงาน , รับพัสดุหรือขอใช้บัญชีเพื่อรับเงินชั่วคราว
ซึ่งต้องเข้าใจก่อนเลยว่า ธนาคารไม่มีนโยบายให้ผู้อื่นใช้บัญชีแทน และที่สำคัญบัญชีที่ให้คนอื่นใช้ อาจโดน “อายัดทุกธนาคาร” แถมเจ้าของบัญชีกลายเป็นผู้ร่วมกระทำผิดโดยไม่รู้ตัว โทษแบบเบา ๆ เราอาจจะโดนอายัดบัญชีทุกบัญชี แถมเสียประวัติทางการเงิน และโทษสูงสุดอาจถึงขั้น “จำคุก” ฐานร่วมกันฉ้อโกงได้เลย
2. SMS หลอกลวงแนบลิงก์
มิจฉาชีพส่ง SMS ที่ปลอมชื่อธนาคาร หรือบริษัทขนส่ง พร้อมลิงก์ที่ดูเหมือนเว็บไซต์จริง หลอกให้คลิกเพื่อใส่ข้อมูล เช่น เลขบัตรประชาชน, รหัสผ่าน, OTP ฯลฯ เพื่อเอาข้อมูลต่าง ๆ และเข้าไปขโมยเงินในบัญชีของเรา
โดยจุดสังเกต SMS มักมีข้อความเร่งด่วน เช่น “บัญชีถูกระงับ กรุณายืนยันภายใน 24 ชม.” รวมถึงมีลิงก์แปลก ๆ เช่น bbl-service.net แทนที่จะเป็น bangkokbank.com เป็นต้น ซึ่งต้องดูในดีทุกครั้ง
แต่รู้กันหรือไม่ว่าธนาคารไม่มีนโยบายส่งลิงก์ทาง SMS ทุกกรณี ดังนั้นถ้าหากได้รับ SMS ที่มีลิงก์ให้กดเพื่อเข้าไปหน้าเว็บไซต์หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันต่าง ๆ ให้คิดไว้ก่อนได้ว่าอาจจะเป็นมิจฉาชีพ แนะวิธีสังเกตเว็บไซต์ธนาคารกรุงเทพ เลี่ยงมิจฉาชีพส่งลิงก์ปลอมลวงทำธุรกรรม
3. ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ธนาคารหรือองค์กรที่น่าเชื่อถือ
หลายครั้งเรามักจะได้รับสายจากตำรวจ, เจ้าหน้าที่ธนาคาร, หรือหน่วยงานรัฐ อ้างว่าบัญชีมีปัญหา, โดนแฮกหรือเกี่ยวข้องกับคดี แล้วหลอกให้โอนเงินไป "ตรวจสอบ"
จุดสังเกต ของกลโกงแบบนี้เลยคือมักจะพูดจาเร่งรัด รวมถึงมีข้อมูลบางส่วนจริง เช่น ชื่อ-นามสกุล หรือเลขบัตรประชาชน พร้อมมีการโอนสายไปอีกต่อเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือพร้อมข่มขู่ หรือบีบให้ทำตามทันทีโดยจะมีการยกข้อบังคับทางกฎหมาย
ให้คิดไว้ก่อนเลยเจ้าหน้าที่รัฐหรือธนาคาร “จะไม่โทรมา” แล้วให้โอนเงิน จะต้องมี “เอกสาร” ทางการไม่ใช่แค่โทรศัพท์ แล้วหากต้องมีการจ่ายเงินหรือโอนเงินจริง ต้องไปทำสาขาหรือศูนย์ราชการนั้น ๆ รวมถึงบัญชีที่โอนจะต้องเป็นบัญชีนิติบุคคลขององค์กรหรือสถาบันนั้น ๆ
4. กู้เงินด่วน หลอกโอนเงินไปก่อน
โฆษณาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ สมัครง่ายผ่านแชทหรือหน้าเว็บ แล้วหลอกให้โอน “ค่าดำเนินการ” ก่อนจะได้รับเงิน แต่สุดท้ายไม่ได้เงินกู้และเงินที่โอนไปก็หาย ซึ่งถือว่าเป็นกลโกงที่หลายคนไม่ทันระวัง เพราะอาจจะต้องการใช้เงินด่วน และอาจจะรู้สึกว่าเป็นโอกาสที่ทำให้เข้าถึงแหล่งการเงินได้
อยากให้ทุกคนลองจินตนาการ ง่าย ๆ เลยว่าเราจะกู้เงิน เราต้องได้เงินไม่ใช่โอนเงินเข้าไปก่อน แล้วโดยปกติการกู้เงินหรือใช้บริการสินเชื่อแต่ละครั้ง ต้องใช้เอกสารมากมาย ถ้าหากมาแบบไม่ต้องใช้เอกสารเลยหรือให้ติดต่อทาง Line หรือแอปแชทต่าง ๆ คิดไว้ก่อนได้เลยว่ามิจฉาชีพแน่นอน ซึ่งแน่นอนว่า ธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ถูกต้องจะไม่ขอให้โอนเงินก่อนอนุมัติสินเชื่อทุกกรณี
รับมืออย่างไร ? หลังถูกมิจฉาชีพหลอก
ความสับสนคือเรื่องปกติแต่สิ่งที่สำคัญคือ ตั้งสติ รวบรวมหลักฐาน และแจ้งความกรณีถูกโกงเงินออนไลน์ ควรดำเนินการดังนี้
ต้องรู้เท่าทัน พร้อมป้องกันให้ทันก่อนเงินหาย
การป้องกันมิจฉาชีพเริ่มจากการ “ตั้งสติ” ไม่ว่าอีกฝ่ายจะอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานไหน ก็อย่าเพิ่งรีบเชื่อหรือโอนเงินเด็ดขาด ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนทุกครั้ง โดยเฉพาะการคลิกลิงก์จาก SMS หรือข้อความที่ไม่รู้
อีกทางที่ช่วยให้รู้ตัวทันคือการเปิดแจ้งเตือนธุรกรรมผ่านแอป Mobile Banking ทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหวของเงิน และหากสงสัยว่าถูกหลอกหรือรู้สึกไม่ปลอดภัยกับบัญชีของตัวเอง ยังสามารถใช้ฟีเจอร์ “ล็อกบัญชี (Lock & Unlock)” ผ่านแอปธนาคารกรุงเทพ เพื่อระงับบัญชีชั่วคราวได้ทันที
หรือถ้าทำบัตรเครดิตหาย เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครนำบัตรไปใช้ก็สามารถล็อกบัตรได้ทันที กับฟีเจอร์ “ล็อกและควบคุมการใช้บัตรเครดิต” โดยสามารถดูวิธีใช้ฟีเจอร์ความปลอดภัยจากโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพเพิ่มเติมได้ที่ คลิก
ไม่มีเงินกู้แบบไร้เงื่อนไข
มิจฉาชีพทุกวันนี้ไม่ได้มาแบบ “หลอกล่อโจ่งแจ้ง” แต่ “แนบเนียน” และ “มีข้อมูลจริงบางส่วน” ที่ทำให้เรารู้สึกไว้ใจ โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาสวมรอยว่าเป็นธนาคารหรือหน่วยงานของรัฐ ในวันหนึ่งทุกคนอาจจะเจอกับมิจฉาชีพที่ดูน่าเชื่อถือมาก ๆ สิ่งสำคัญคือ…
“อย่ารีบตัดสินใจ”
“อย่าโอนให้ใครที่ไม่รู้จัก”
“อย่าเชื่อแค่เพราะอีกฝั่งมีข้อมูลบางส่วนของเรา”
หากระวังไว้ก่อนก็ลดโอกาสเสียหายได้มากและหากเกิดเหตุจริง และการมีฟีเจอร์อย่าง “ล็อกบัญชี (Lock & Unlock)” และ “ล็อกและควบคุมการใช้บัตรเครดิต” จากแอปธนาคารกรุงเทพ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ใช้งานป้องกันความเสี่ยงจากมิจฉาชีพได้ดียิ่งขึ้น
รู้ทันกลโกงยอดฮิตของมิจฉาชีพยุคใหม่ พร้อมจุดสังเกต วิธีป้องกัน และสิ่งที่ต้องทำเมื่อเผลอ “พลาด” ไปแล้ว
เตือนภัยมิจฉาชีพเพจปลอมที่พัก พร้อมจุดสังเกตและวิธีรับมือ
พอกันทีกับการตกเป็นเหยื่อภัยไซเบอร์ กับ 4 พฤติกรรมเสี่ยงที่ควรต้องหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่ออีกต่อไป
กลยุทธ์ใหม่มิจฉาชีพ หลอกให้ "โอนเงิน" เพื่อตรวจสอบ ปลดล็อกบัญชี หรือขอสินเชื่อ อย่าหลงเชื่อทำตาม
อย่าหลงเชื่อทำตาม ไม่คุย ไม่บอกข้อมูลส่วนตัวมิจฉาชีพ แอบอ้างชื่อ 'กรมบัญชีกลาง' หลอกลวงผู้รับบำนาญและบุคคลในครอบครัว
วิธีสังเกตเว็บไซต์ปลอม ตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนทำธุรกรรม เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจในการทำธุรกรรมออนไลน์
มิจฉาชีพ ส่ง QR Code หรือ ส่งไอดีไลน์ให้เพิ่มเพื่อน หลอกล้วงข้อมูล เตือนอย่ากดลิงก์ที่อาจเป็นมิจฉาชีพ ธนาคารไม่มีนโยบายการส่ง SMS แบบแนบลิงก์
ป้องกันการถูกมิจฉาชีพดูดเงินออกจากบัญชี โดยส่ง SMS แอบอ้างเป็นธนาคารหลอกลวงให้กดลิงก์หรือดาวน์โหลดแอปปลอมลงบนสมาร์ทโฟน ธนาคารขอแนะนำผู้ใช้มือถือปิดโหมดใช้งาน