สารจากประธานกรรมการ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่

ธนาคารเชื่อมั่นว่าการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนจะช่วยให้ธนาคารสามารถรับมือกับความท้าทายได้อย่างมีประสิทธิผล สามารถช่วยให้ลูกค้ามองเห็นโอกาสจากการเปลี่ยนผ่านของธุรกิจ และสามารถสร้างคุณค่าแก่ผู้มีส่วนได้เสียในระยะยาว ธนาคารดำเนินธุรกิจโดยมุ่งสนับสนุนด้านความรู้และด้านการเงิน เพื่อให้ลูกค้ามีผลประกอบการที่ดีอย่างยั่งยืน สามารถปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงและเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนในอนาคตได้อย่างมั่นใจ ธนาคารมุ่งมั่นสนับสนุนประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และเป้าหมายของความตกลงปารีส ควบคู่กับการสนับสนุนลูกค้าให้บรรลุเป้าหมายด้าน ESG ของตนเอง ขณะเดียวกัน ธนาคารปลูกฝังวัฒนธรรมด้านความยั่งยืนภายในองค์กร โดยการส่งเสริมให้พนักงานตระหนักถึงบทบาทที่สำคัญของ ธนาคารในการสนับสนุนการเติบโตอย่างทั่วถึงและยั่งยืน รวมทั้งการเปลี่ยนผ่านสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ธนาคารร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย เพื่อนำปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและภูมิอากาศมาผนวกกับการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นระบบและเพื่อสนับสนุนลูกค้าในการลดก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินธุรกิจ ในฐานะธนาคารชั้นนำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ธนาคารมุ่งมั่นสร้างอนาคตที่ยั่งยืนของภูมิภาคภายใต้กลยุทธ์เชื่อมโยงอาเซียนที่มุ่งเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันและส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนของภูมิภาค ผ่านการสนับสนุนด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ การเชื่อมโยงระบบการชำาระเงินในภูมิภาคและการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ธนาคารจะเดินหน้าสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสีเขียว พัฒนาความเป็นอยู่ของชุมชนและสังคม ดูแลพนักงานและลูกค้า และส่งเสริมธรรมาภิบาลที่ดีในองค์กร เพื่อยกระดับการดำเนินงาน ด้าน ESG ของธนาคาร เติมเต็มความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสีย พร้อมสร้างคุณค่าและอนาคตที่ยั่งยืนเพื่อคนรุ่นปัจจุบัน และรุ่นต่อไป

วิถีสู่ความยั่งยืน

แนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน


ในปัจจุบัน สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมมีความไม่แน่นอนและสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วจนเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายของธุรกิจ ธุรกิจที่สามารถปรับตัวและรับมือได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงทีจะมีความได้เปรียบทางการแข่งขันเหนือคู่แข่ง นอกจากนี้ ธุรกิจที่ดำเนินงานโดยคำนึงถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) จะมีมุมมองที่กว้างขวาง มองเห็นโอกาสและความเสี่ยงได้อย่างครอบคลุม ทำให้สามารถวางกลยุทธ์และมาตรการต่าง ๆ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจและลดความเสี่ยงด้าน ESG ได้อย่างเหมาะสม

ธนาคารตระหนักดีถึงความคาดหวังที่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มมีต่อการดำเนินงานด้านความยั่งยืนหรือด้าน ESG ของธนาคาร รวมถึงตระหนักถึงทิศทางนโยบายของหน่วยงานกำกับดูแลที่ต้องการผลักดันให้ธุรกิจมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมขับเคลื่อนประเทศไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2593 และคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2608 ธนาคารจึงกำหนดนโยบายด้านความยั่งยืนและวางกรอบการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ รวมถึงกำหนดกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนที่สอดคล้องกับบริบททางธุรกิจของธนาคารและความสนใจของผู้มีส่วนได้เสีย ธนาคารได้นำประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนที่ได้จากการประเมินแบบ 2 มิติ (Double Materiality) ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มเข้ามามีส่วนร่วม มาเป็นจุดตั้งต้นในการวางกลยุทธ์ พร้อมทั้งได้ระบุความมุ่งมั่น ตัวชี้วัด และเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวของแต่ละประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นตั้งใจดำเนินงานด้านความยุ่งยืนของธนาคาร ซึ่งนโยบายและกลยุทธ์ดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากผู้บริหารระดับสูงและได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการธนาคาร

นโยบายด้านความยั่งยืน


ธนาคารได้กำหนดนโยบายด้านความยั่งยืนอันประกอบด้วยการดำเนินงาน 4 แนวทาง ดังนี้

  1. การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบและรอบด้าน ครอบคลุมประเด็นที่มีนัยสำคัญทั้งในระยะสั้นและระยะยาว พร้อมติดตามสถานการณ์และประเมินโอกาสทางธุรกิจที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
  2. การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล การปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเป็นธรรม การดูแลความปลอดภัยและอาชีวอนามัยรวมถึงความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน และการพัฒนาทักษะความรู้ของพนักงาน
  3. การกำกับดูแลกิจการที่ดี
  4. การสร้างสรรค์คุณค่าที่ยั่งยืนต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมความรู้ทางการเงินและการเข้าถึงบริการทางการเงิน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคม และการส่งเสริมคู่ค้าให้ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ ธนาคารยังให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน การสื่อสารและการสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย และการเสริมสร้างศักยภาพของคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกระดับ เพื่อให้เกิดการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิผล




การระบุและประเมินความสำคัญของผู้มีส่วนได้เสีย

การมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความเข้าใจและการกระชับความสัมพันธ์เพื่อนำไปสู่เป้าหมายร่วมระหว่างธนาคารกับผู้มีส่วนได้เสีย การมีส่วนร่วมทำให้ธนาคารทราบความคาดหวังและความต้องการของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มตลอดจน ผลกระทบทั้งเชิงบวกและเชิงลบจากการดำเนินธุรกิจของธนาคาร ครอบคลุมด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงด้านสิทธิ มนุษยชน เพื่อนำมาปรับปรุงการดำเนินงานให้ตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้เสียได้ดียิ่งขึ้น ธนาคารให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียมาโดยตลอด โดยยึดหลักการตามมาตรฐานสากล AA1000 AccountAbility Principles (2018) ได้แก่ 1. การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม 2. การพิจารณาประเด็นที่สำคัญต่อธนาคารและผู้มีส่วนได้เสีย 3. การตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสีย และ 4. ผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสีย อีกทั้งมีการรายงานผลการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียต่อคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการเป็นประจำทุกปี


ขั้นตอนการวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้เสีย

  1. การระบุผู้มีส่วนได้เสีย: การระบุผู้มีส่วนได้เสียโดยอาศัยเกณฑ์ความรับผิดชอบ อำนาจโน้มน้าว ความสัมพันธ์ การพึ่งพา และผลกระทบ จากการดำเนินธุรกิจของธนาคารที่มีต่อผู้มีส่วนได้เสีย
  2. การประเมินระดับผลกระทบจากกิจกรรมของธนาคารที่มีต่อผู้มีส่วนได้เสีย: การประเมินผลกระทบเชิงบวกและเชิงลบที่เกิดจากการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจของธนาคารครอบคลุมด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิงแวดล้อม รวมถึงด้านสิทธิมนุษยชน
  3. การประเมินระดับอำนาจโน้มน้าวของผู้มีส่วนได้เสียที่มีต่อธนาคาร: การประเมินครอบคลุมอำนาจโน้มน้าวของผู้มีส่วนได้เสียในด้านการเงิน การดำเนินงาน กฎระเบียบข้อบังคับ ความเสี่ยง กลยุทธ์และทิศทางธุรกิจ
  4. การจัดลำดับความสำคัญของผู้มีส่วนได้เสีย: ผู้มีส่วนได้เสียของธนาคารแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ตามระดับผลกระทบของที่ผู้มีส่วนได้เสียได้รับจากการดำเนินงานของธนาคาร และระดับอำนาจโน้มน้าวที่ผู้มีส่วนได้เสียมีต่อธนาคาร ได้แก่ 1. ผลกระทบมาก อำนาจโน้มน้าวมาก 2. ผลกระทบมาก อำนาจโน้มน้าวน้อย 3. ผลกระทบน้อย อำนาจโน้มน้าวมาก และ 4. ผลกระทบน้อย อำนาจโน้มน้าวน้อย

การสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย

ธนาคารเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มสามารถแสดงความคิดเห็น ผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่ธนาคารกำหนด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ธนาคารทราบความคาดหวังและความต้องการของผู้มีส่วนได้เสีย และผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจของธนาคาร ธนาคารได้นำความคิดเห็นที่ได้รับมาพิจารณากำหนดแนวทางการตอบสนองต่อผู้มีส่วนได้เสียแต่ละกลุ่มอย่างเหมาะสม รวมถึงแสวงหาความร่วมมือเพื่อประโยชน์ร่วมกันของทุกกลุ่ม ผู้มีส่วนได้เสียของธนาคารแบ่งเป็น 7 กลุ่ม ได้แก่ 1. ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน 2. ลูกค้า (ลูกค้าธุรกิจและลูกค้าบุคคล) 3. พนักงาน 4. คู่ค้า (ผู้ขายสินค้า ผู้ให้บริการภายนอก และผู้รับเหมาจัดจ้าง) 5. เจ้าหนี้ 6. สถาบันการเงินอื่น และ 7. ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม (รวมถึงหน่วยงานกำกับดูแล ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน)

การกำหนดประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน

ธนาคารจัดให้มีการประเมินประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนแบบ 2 มิติ (Double Materiality) โดยพิจารณาจากทั้งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และสิทธิมนุษยชน อันเกิดจากกิจกรรมทางธุรกิจของธนาคารที่เกี่ยวข้องกับแต่ละประเด็นสำคัญ โดยอาศัยกระบวนการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย และผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของธนาคารไม่ว่าจะเป็นด้านการเงินหรือชื่อเสียงอันเป็นผลมาจากประเด็นสำคัญต่าง ๆ โดยผลการประเมินทั้ง 2 มิติ ถูกนำไปใช้ประกอบการพิจารณาคัดเลือกและจัดลำดับความสำคัญของประเด็นด้านความยั่งยืนของธนาคาร ทั้งนี้ ธนาคารมีการทบทวนประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนปีละครั้งเพื่อให้มั่นใจว่ามีความเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

กระบวนการประเมินประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนของธนาคาร

  1. การศึกษาทำความเข้าใจบริบทด้านความยั่งยืนขององค์กร
  2. การระบุและประเมินผลกระทบ
  3. การจัดลำดับความสำคัญประเด็นด้านความยั่งยืน
  4. การตรวจทานและทบทวนประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน

การจัดลำดับประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน ปี 2566-2568


Impact Valuation (ดาวน์โหลด PDF - ข้อมูลนี้จัดทำไว้เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น)

การดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

ธนาคารสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals: UNSDG) ผ่านการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของธนาคาร โดยธนาคารได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานด้านความยั่งยืนไว้ 5 แนวทาง แบ่งออกเป็นประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน 12 ประเด็น ซึ่งแต่ละประเด็นได้ถูกหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางธุรกิจของธนาคาร เพื่อตอบสนองความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม และร่วมสร้างคุณค่าต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อันจะส่งผลให้ธนาคารสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน

การมีส่วนร่วมขับเคลื่อนด้านความยั่งยืน และการสนับสนุนองค์กรภายนอก

ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นปัจจัยสำคัญในการนำาพาประเทศ ไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่ งยืน ธนาคารได้สนับสนุนและ ร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนงานด้านความยั่ งยืน มาโดยตลอด ในปี 2567 ธนาคารเป็นผู้สนับสนุนหลักของการ ประชุม The Economist Impact Asia Sustainability Week จัดโดยนิตยสาร The Economist เพื่อนำาเสนอการเปลี่ยนผ่านไป สู่ความยั่ งยืน บทบาทของภาคเอกชนในการสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero และการลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยผู้บริหารของธนาคารได้เข้าร่วมการเสวนาในหัวข้อ “ASEAN’s Sustainability Transition: Identifying Opportunities, Managing Challenges” นอกจากนี้ ธนาคารยังได้เข้าร่วมออก บูธบอกเล่าเรื่องราวการให้บริการทางการเงินของธนาคารในโอกาส ฉลองครบ 80 ปี ธนาคารกรุงเทพ รวมถึงนำาเสนอการดำาเนินงาน ต่าง ๆ ด้านความยั่ งยืนในงาน TMA 60 Years of Excellence และงาน Sustainability Expo 2024


การเป็นสมาชิกขององค์กรต่าง ๆ

ธนาคารเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์กรและเครือข่ายสมาคมต่าง ๆ เพื่อพัฒนาระบบสถาบันการเงิน สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับภาคธุรกิจ แลกเปลี่ยนความรู้หรือหลักปฏิบัติที่ดี ตลอดจนสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนและเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกทั้งในระดับองค์กรและระดับประเทศ ล่าสุด ในปี 2567 ธนาคารได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของ Partnership for Carbon Accounting Financials (PCAF) ซึ่งเป็นองค์กรความร่วมมือระดับสากลที่จัดทำามาตรฐานการวัดและเปิดเผยข้อมูลปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นจากการให้สินเชื่อและการลงทุนของธนาคาร และได้สนับสนุนกิจกรรมของเครือข่ายธุรกิจห่วงโซ่อุปทานแห่งประเทศไทย ซึ่งธนาคารเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งโดยการส่งผู้บริหารของธนาคารไปให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อสนับสนุนการลดก๊าซเรือนกระจกและปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแก่คู่ค้าของเครือข่ายดังกล่าว



5 กลุ่มประเด็นด้านความยั่งยืน

การบริหารจัดการเพื่อดูแลสุขภาพการเงินของลูกค้าและธนาคาร พร้อมสร้างความมั่นใจว่าธนาคารสามารถต้านทานหรือฟื้นตัวจากภาวะวิกฤตและความท้าทายต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

การจัดการความเสี่ยงและภาวะวิกฤต

การดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ สนับสนุนกิจกรรมที่สร้างความยั่งยืน ส่งเสริมการให้ความรู้ทางการเงินและการเข้าถึงบริการอย่างทั่วถึง เสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งสนับสนุนให้เกิดห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน

การเงินเพื่อความยั่งยืน

การให้บริการทางการเงินอย่างทั่วถึง

การแสดงความรับผิดชอบและสร้างคุณค่าต่อสังคม

การลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนฟุตพริ้นท์

การดำเนินธุรกิจโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ ส่งมอบประสบการณ์การใช้บริการที่ปลอดภัยและไร้รอยต่อ ตลอดจนสร้างเสริมและรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า

การให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล

การจัดการด้านลูกค้าสัมพันธ์

การดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

การสร้างสรรค์ที่ทำงานที่ปราศจากการเลือกปฏิบัติ มีความปลอดภัย เอื้อต่อการปฏิบัติงานและพัฒนาทักษะต่อเนื่อง เติมเต็มความใฝ่ฝันของพนักงานทั้งด้านการงานและชีวิตส่วนตัว

การดึงดูดและพัฒนาพนักงาน

การดูแลสวัสดิการและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน

การดำเนินธุรกิจตามหลักจริยธรรม ปลูกฝังธรรมาภิบาลที่ดีในองค์กร ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของทางการ ควบคู่ไปกับการเคารพสิทธิมนุษยชนและไม่ยอมรับการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ

การกำกับดูแลกิจการ

จรรยาบรรณธุรกิจ

แบบ 56-1 One Report / รายงานประจำปี และรายงานความยั่งยืน

*แบบ 56-1 One Report เริ่มปี 2564
*แบบ 56-1 One Report เริ่มปี 2564

รายงานความยั่งยืนปี 2565

ฉบับเต็ม

*แบบ 56-1 One Report เริ่มปี 2564

แบบ 56-1 One Report
ปี 2564

ฉบับเต็ม เอกสารแนบ

รายงานความยั่งยืนปี 2564

ฉบับเต็ม

*แบบ 56-1 One Report เริ่มปี 2564

รายงานประจำปี 2563

ดาวน์โหลด PDF

รายงานความยั่งยืนปี 2563

ดาวน์โหลด PDF

ความยั่งยืน

โครงการ The Great Green Transition

สร้างความพร้อมให้กับธุรกิจ เพื่อก้าวสู่ยุคเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณ
ในทุกธุรกรรมทางการเงิน

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณในทุกธุรกรรมทางการเงิน

คุณกำลังจะออกจากเว็บไซต์ธนาคารกรุงเทพ