สารจากประธานกรรมการ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่

สังคมไทยยังคงมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องตามแนวโน้มสำคัญอันได้แก่ การรวมกลุ่มของประเทศในภูมิภาค การเข้าสู่ยุคดิจิทัล การขยายตัวของเมือง และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการมีธรรมาภิบาล (Environment Social Governance: ESG) รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ปัจจัยเหล่านี้มีความสำคัญต่อธุรกิจของธนาคารและลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ธนาคารได้เริ่มดำเนินการในด้านต่าง ๆ เพื่อตอบสนองปัจจัยดังกล่าว เช่น การให้สินเชื่อแก่ลูกค้าเพื่อปรับปรุงที่อยู่อาศัยและธุรกิจให้ประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น การสนับสนุนเงินทุนสำหรับโครงการพลังงานหมุนเวียนและขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ การสนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า การให้สินเชื่อเพื่อการปรับตัว การจัดจำหน่ายตราสารหนี้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน การเสริมสร้างความรู้ทางการเงิน การขยายการเข้าถึงบริการทางการเงินให้ทั่วถึงยิ่งขึ้นผ่านตัวแทนธนาคาร การขยายสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย การปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานจากการใช้เอกสารมาสู่ระบบดิจิทัล การเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยเพื่อป้องกันลูกค้าจากภัยทุจริตทางการเงิน และการทำงานเพื่อร่วมแก้ปัญหาของชุมชน นอกจากการให้บริการทางการเงิน ธนาคารยังจัดทำโครงการเพื่อให้ความรู้แก่ลูกค้าในการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับข้อกำหนดใหม่ๆด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล

วิถีสู่ความยั่งยืน

แนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน


ในปัจจุบันสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมมีความไม่แน่นอนและสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วจนเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายของธุรกิจ ธุรกิจที่สามารถปรับตัวและรับมือได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงทีจะมีความได้เปรียบทางการแข่งขันเหนือคู่แข่ง นอกจากนี้ ธุรกิจที่ดำเนินงานโดยคำนึงถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) จะมีมุมมองที่กว้างขวาง มองเห็นโอกาสและความเสี่ยงได้อย่างครอบคลุม ทำให้สามารถวางกลยุทธ์และมาตรการต่าง ๆ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจและลดความเสี่ยงด้าน ESG ได้อย่างเหมาะสม

ธนาคารตระหนักดีถึงความคาดหวังที่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มมีต่อการดำเนินงานด้านความยั่งยืนหรือด้าน ESG ของธนาคาร รวมถึงตระหนักถึงทิศทางนโยบายของหน่วยงานกำกับดูแลที่ต้องการผลักดันให้ธุรกิจมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมขับเคลื่อนประเทศไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2593 และคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2608 ธนาคารจึงกำหนดนโยบายด้านความยั่งยืนและวางกรอบการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ รวมถึงกำหนดกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนที่สอดคล้องกับบริบททางธุรกิจของธนาคารและความสนใจของผู้มีส่วนได้เสีย ธนาคารได้นำประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนที่ได้จากการประเมินแบบ 2 มิติ (Double Materiality) ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มเข้ามามีส่วนร่วม มาเป็นจุดตั้งต้นในการวางกลยุทธ์ พร้อมทั้งได้ระบุความมุ่งมั่น ตัวชี้วัด และเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวของแต่ละประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นตั้งใจดำเนินงานด้านความยุ่งยืนของธนาคาร ซึ่งนโยบายและกลยุทธ์ดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากผู้บริหารระดับสูงและได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการธนาคาร

นโยบายด้านความยั่งยืน


ธนาคารได้กำหนดนโยบายด้านความยั่งยืนอันประกอบด้วยการดำเนินงาน 4 แนวทาง ดังนี้

  1. การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบและรอบด้าน ครอบคลุมประเด็นที่มีนัยสำคัญทั้งในระยะสั้นและระยะยาว พร้อมติดตามสถานการณ์และประเมินโอกาสทางธุรกิจที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
  2. การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล การปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเป็นธรรม การดูแลความปลอดภัยและอาชีวอนามัยรวมถึงความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน และการพัฒนาทักษะความรู้ของพนักงาน
  3. การกำกับดูแลกิจการที่ดี
  4. การสร้างสรรค์คุณค่าที่ยั่งยืนต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมความรู้ทางการเงินและการเข้าถึงบริการทางการเงิน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคม และการส่งเสริมคู่ค้าให้ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ ธนาคารยังให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน การสื่อสารและการสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย และการเสริมสร้างศักยภาพของคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกระดับ เพื่อให้เกิดการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิผล




การมีส่วนร่วมและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสีย

ธนาคารเชื่อว่าการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียเป็นพื้นฐานสำคัญของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดี นำไปสู่ประโยชน์ร่วมกันระหว่างธนาคารและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ธนาคารให้ความสำคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมและการสื่อสารกับผู้มีส่วนได้เสียมาโดยตลอด เพื่อให้ทราบถึงความคาดหวัง ความต้องการ ตลอดจนผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจของธนาคารที่มีต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ทั้งเชิงบวกและลบในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม หรือสิ่งแวดล้อม ในการสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย ธนาคารยึดหลักการตามมาตรฐานสากล AA1000 Account Ability Principles (2018) 4 ประการ ได้แก่ 1. การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม 2. การพิจารณาประเด็นที่สำคัญต่อธนาคารและผู้มีส่วนได้เสีย 3.การตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสีย และ 4. ผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสีย โดยมุ่งหวังให้กระบวนการมีส่วนร่วมของธนาคารเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ธนาคารกำหนดให้มีการรายงานผลการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียต่อคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการเป็นประจำทุกปี


ขั้นตอนการวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้เสีย

  1. การระบุผู้มีส่วนได้เสีย: การระบุกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย โดยพิจารณาความเกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้เสีย เช่น ความรับผิดชอบ อำนาจโน้มน้าวความสัมพันธ์ การพึ่งพา และผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจของธนาคารที่มีต่อผู้มีส่วนได้เสีย
  2. การประเมินระดับผลกระทบจากกิจกรรมของธนาคารที่มีต่อผู้มีส่วนได้เสีย: การประเมินและจัดระดับผลกระทบทั้งเชิงบวกและลบที่กลุ่มผู้มีส่วนได้เสียได้รับจากการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจของธนาคาร ครอบคลุมด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม รวมถึงด้านสิทธิมนุษยชน
  3. การประเมินระดับอำนาจโน้มน้าวของผู้มีส่วนได้เสียที่มีต่อธนาคาร: การประเมินอำนาจโน้มน้าวของผู้มีส่วนได้เสียที่มีต่อธนาคาร ครอบคลุมด้านการเงิน การดำเนินงาน กฎระเบียบข้อบังคับ ชื่อเสียง ความเสี่ยง และกลยุทธ์
  4. การจัดลำดับความสำคัญของผู้มีส่วนได้เสีย: ผู้มีส่วนได้เสียของธนาคารแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ตามระดับผลกระทบของที่ผู้มีส่วนได้เสียได้รับจากการดำเนินงานของธนาคาร และระดับอำนาจโน้มน้าวที่ผู้มีส่วนได้เสียมีต่อธนาคาร ได้แก่ 1. ผลกระทบมาก อำนาจโน้มน้าวมาก 2. ผลกระทบมาก อำนาจโน้มน้าวน้อย 3. ผลกระทบน้อย อำนาจโน้มน้าวมาก และ 4. ผลกระทบน้อย อำนาจโน้มน้าวน้อย

การสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย

ธนาคารเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มแสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางต่าง ๆ ของธนาคาร เพื่อให้ธนาคารเข้าใจถึงผลกระทบ ความต้องการ และความคาดหวัง ธนาคารจะนำข้อมูลความคิดเห็นต่าง ๆ มาใช้ประกอบการกำหนดแนวทางการดำเนินการเพื่อตอบสนองต่อผู้มีส่วนได้เสียแต่ละกลุ่มอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งแสวงหาความร่วมมือเพื่อประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ผู้มีส่วนได้เสียของธนาคารแบ่งเป็น 7 กลุ่ม ได้แก่ 1. ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน 2. ลูกค้า (ลูกค้าธุรกิจและลูกค้าบุคคล) 3. พนักงาน 4. คู่ค้า (ผู้ขายสินค้า ผู้ให้บริการภายนอก และผู้รับเหมาจัดจ้าง) 5. เจ้าหนี้ 6. สถาบันการเงินอื่น และ 7. ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม (รวมถึงหน่วยงานกำกับดูแล ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน) ผู้มีส่วนได้เสียแต่ละกลุ่มมีประเด็นที่ให้ความสำคัญแตกต่างกัน รวมทั้งมีรูปแบบและช่องทางการมีส่วนร่วมที่หลากหลาย

การประเมินประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน

ธนาคารจัดให้มีการทบทวนประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนเป็นประจำ ทุก 2 ปี ในปี 2566 ธนาคารได้ปรับปรุงการประเมินประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน โดยนำแนวทางการประเมินประเด็นสำคัญแบบ 2 มิติ มาใช้ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานการจัดทำรายงานความยั่งยืน Global Reporting Initiative (GRI) ฉบับปี 2021 แนวทางดังกล่าวเน้นการประเมินว่ากิจกรรมทางธุรกิจของธนาคารในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนนั้นมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างไร โดยอาศัยกระบวนการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย นอกจากนี้ ยังมีการประเมินว่าประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนมีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของธนาคารอย่างไร ผลการประเมินทั้ง 2 มิตินี้ จะถูกนำไปใช้ประกอบการพิจารณาคัดเลือกและจัดลำดับความสำคัญของประเด็นด้านความยั่งยืนของธนาคารต่อไป

กระบวนการประเมินประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนของธนาคาร

  1. การศึกษาทำความเข้าใจบริบทด้านความยั่งยืนขององค์กร
  2. การระบุและประเมินผลกระทบ
  3. การจัดลำดับความสำคัญประเด็นด้านความยั่งยืน
  4. การตรวจทานและทบทวนประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนการพิจารณาทบทวนประเด็นสําคัญด้านความยั่งยืน

การจัดลำดับประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน ปี 2566-2568


Impact Valuation (ดาวน์โหลด PDF - ข้อมูลนี้จัดทำไว้เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น)

การดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

ธนาคารสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals: UNSDG) ผ่านการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของธนาคาร โดยธนาคารได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานด้านความยั่งยืนไว้ 5 แนวทาง แบ่งออกเป็นประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน 12 ประเด็น ซึ่งแต่ละประเด็นได้ถูกหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางธุรกิจของธนาคาร เพื่อตอบสนองความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม และร่วมสร้างคุณค่าต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อันจะส่งผลให้ธนาคารสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน

การสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ธนาคารจึงมุ่งมั่นพัฒนาการดำเนินงานให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ มาตรฐาน และความคิดริเริ่มด้านความยั่งยืนทั้งในระดับประเทศและระดับสากล พร้อมทั้งให้การสนับสนุนและทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนงานด้านความยั่งยืนมาโดยตลอด ในปี 2566 ธนาคารได้แสดงเจตจำนงในการเข้าร่วมสนับสนุนการดำเนินงานตามเป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (Bangkok Goals on BCG Economy) ซึ่งได้รับฉันทามติจากการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคที่ประเทศไทยเมื่อปี 2565 โดยการประกาศเป้าหมาย ขยะฝังกลบเป็นศูนย์ที่อาคารสำนักงานพระราม 3 ภายในปี 2568 นอกจากนี้ ธนาคารในฐานะสมาชิกสมาคมธนาคารไทยได้เข้าร่วมจัดทำคู่มือมาตรฐานอุตสาหกรรมว่าด้วยเรื่องการดำเนินธุรกิจสถาบันการเงินโดยคำนึงถึงมิติด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Industry Handbook: Internalizing Environmental And Climate Change Aspects Into Financial Institution Business For Banks) เพื่อตอบรับแนวนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยที่คาดหวังให้สถาบันการเงินสามารถประเมินโอกาสและความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตลอดจนกำหนดกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งมีผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainable Finance Products) นอกจากนี้ ธนาคารได้เข้าร่วมกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดด้านความยั่งยืนของภาคการธนาคารร่วมกับธนาคารสมาชิกสมาคมธนาคารไทยเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของภาคการธนาคารอย่างเป็นรูปธรรมหลังจากที่ได้ร่วมกันประกาศเจตนารมย์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG Declaration) ไว้เมื่อปี 2565


การเป็นสมาชิกขององค์กรต่าง ๆ

ธนาคารให้ความสำคัญกับการสนับสนุนและร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน ตลอดจนมุ่งสู่เป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศและเป้าหมายตามความตกลงปารีส ผ่านการเข้าร่วมเป็นสมาชิกในองค์กรต่าง ๆ รวมถึงการให้ผู้บริหารของธนาคารเข้าร่วมดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการและคณะทำงานของเครือข่ายหรือสมาคมธุรกิจต่าง ๆ เพื่อให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายด้านการลดก๊าซเรือนกระจก (Climate Change Mitigation) และการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานทดแทนและพลังงานสะอาด (Energy Transition) ต่อหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนภาคส่วนต่าง ๆ ให้สามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำได้ตามเป้าหมายของประเทศ ผ่านการดำเนินโครงการต่าง ๆ การจัดกิจกรรมความรู้ และการประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้ การเข้าร่วมในคณะกรรมการหรือคณะทำงานดังกล่าวของผู้บริหารธนาคารจะต้องได้รับการอนุมัติจากฝ่ายจัดการ และการเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายหรือสมาคมธุรกิจต่าง ๆ ของธนาคารจะต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการธนาคาร โดยพิจารณาจากวัตถุประสงค์และกิจกรรมของเครือข่ายหรือสมาคมธุรกิจว่าสอดคล้องกับเป้าหมาย นโยบาย และแนวทางการดำเนินธุรกิจของธนาคารหรือไม่ รวมทั้งประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมที่เกิดขึ้นจากการเข้าร่วมเป็นสมาชิก


การสนับสนุนองค์กรภายนอก

ธนาคารให้การสนับสนุนแก่องค์กรและเครือข่ายต่าง ๆ ในรูปแบบค่าธรรมเนียมสมาชิกและเงินสนับสนุนการจัดกิจกรรมที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและสังคม และเพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสถาบันการเงิน ภาคธุรกิจ และประเทศ ทั้งนี้ ธนาคารไม่ให้การสนับสนุนแก่กิจกรรมทางการเมืองและล็อบบี้ยิสต์


กิจกรรม

จำนวนเงิน (ล้านบาท)

2563

2564

2565

2566

กิจกรรมการล็อบบี้หรือเป็นไปเพื่อประโยชน์ขององค์กร

0

0

0

0

กิจกรรมทางการเมืองในระดับท้องถิ่น ภูมิภาคหรือประเทศ

0

0

0

0

สมาคมการค้าหรือกลุ่มที่ได้รับการยกเว้นทางภาษี

22.54

26.51

50.10

47.54

อื่น ๆ (เช่น ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการลงคะแนนเสียงหรือการลงประชามติ)

0

0

0

0

รวม

22.54

26.51

50.10

47.54


5 กลุ่มประเด็นด้านความยั่งยืน

 


การบริหารจัดการเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านสุขภาพการเงินของลูกค้าและธนาคาร และสร้างความมั่นใจว่าธนาคารสามารถตอบสนองต่อภาวะวิกฤตและความท้าทายต่าง ๆ รวมถึงฟื้นตัวสู่ภาวะปกติได้อย่างยั่งยืน

การจัดการความเสี่ยงและภาวะวิกฤต

การดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบสนับสนุนกิจกรรมที่สร้างความยั่งยืน ส่งเสริมการให้ความรู้ทางการเงินและการเข้าถึงบริการอย่างทั่วถึง เสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน และดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม

การเงินเพื่อความยั่งยืน

การให้บริการทางการเงินอย่างทั่วถึง

การแสดงความรับผิดชอบและสร้างคุณค่าต่อสังคม

การลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนฟุตพริ้นท์

การดำเนินธุรกิจโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการรูปแบบใหม่ ส่งมอบประสบการณ์การใช้บริการที่ปลอดภัยและไร้รอยต่อ ตลอดจนสร้างเสริมและรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า

การให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม

การจัดการด้านลูกค้าสัมพันธ์

การดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์และคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีความปลอดภัยและเอื้อต่อการปฏิบัติงาน ปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมพนักงานสามารถพัฒนาทักษะได้อย่างต่อเนื่องและเติมเต็มความใฝ่ฝันทั้งในด้านส่วนตัวและหน้าที่การงาน

การดึงดูดและพัฒนาพนักงาน

การดูแลสวัสดิการและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน

การปลูกฝังธรรมาภิบาลที่ดีในองค์กร ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของทางการ สนับสนุนให้คู่ค้าปฏิบัติตามหลักจริยธรรมทางธุรกิจ ควบคู่ไปกับการเคารพสิทธิมนุษยชนและ ไม่ยอมรับการทุจริตคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ

การกำกับดูแลกิจการ

จรรยาบรรณธุรกิจ

แบบ 56-1 One Report / รายงานประจำปี และรายงานความยั่งยืน

รายงานความยั่งยืน
ปี 2567

ฉบับเต็ม (ดาวน์โหลด)

*แบบ 56-1 One Report เริ่มปี 2564
*แบบ 56-1 One Report เริ่มปี 2564

รายงานความยั่งยืนปี 2565

ฉบับเต็ม

*แบบ 56-1 One Report เริ่มปี 2564

แบบ 56-1 One Report
ปี 2564

ฉบับเต็ม เอกสารแนบ

รายงานความยั่งยืนปี 2564

ฉบับเต็ม

*แบบ 56-1 One Report เริ่มปี 2564

รายงานประจำปี 2563

ดาวน์โหลด PDF

รายงานความยั่งยืนปี 2563

ดาวน์โหลด PDF

รายงานประจำปี 2562

ดาวน์โหลด PDF

รายงานความยั่งยืนปี 2562

ดาวน์โหลด PDF

ความยั่งยืน

โครงการ The Great Green Transition

สร้างความพร้อมให้กับธุรกิจ เพื่อก้าวสู่ยุคเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณ
ในทุกธุรกรรมทางการเงิน

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณในทุกธุรกรรมทางการเงิน

คุณกำลังจะออกจากเว็บไซต์ธนาคารกรุงเทพ