การดูแลสวัสดิการและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน

ความมุ่งมั่น


เสริมสร้างการทำงานที่มีความสุขและเอื้อต่อการคิดริเริมสิ่งใหม่ เพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน กระชับความสัมพันธ์และความผูกพันกับธนาคาร รวมทั้งรักษาผลิตภาพการทำงานไว้ได้ในระยะยาว

ความสำคัญ


พนักงานคือหัวใจขององค์กร การดำเนินงานต่าง ๆ จะไม่สามารถสำเร็จได้หากปราศจากความร่วมมือของพนักงาน ธนาคารเชื่อมั่นว่าการปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม การจัดสรรค่าตอบแทนและสวัสดิการอย่างเหมาะสม การดูแลด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย และการดูแลความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานจะส่งผลทำให้พนักงานมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี เพิ่มความรักความผูกพันต่อธนาคาร สามารถปฏิบัติงานได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งจะส่งผลให้ธนาคารเติบโตและมีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง ในทางกลับกันการเลือกปฏิบัติการจัดสรรสวัสดิการที่ไม่เหมาะสมและเพียงพอการละเลยไม่เอาใจใส่ในสุขภาพอนามัย ความปลอดภัยของพนักงานและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน อาจทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลง อัตราการลาออก การเจ็บป่วย และการบาดเจ็บจากการทำงานสูงเกินควร ความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กรลดน้อยลง ซึ่งจะทำให้องค์กรมีต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น มีขีดความสามารถในการแข่งขันลดลงและในที่สุดแล้ว อาจไม่สามารถขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายได้ ด้วยความสำคัญดังกล่าว ธนาคารจึงกำหนดให้การดูแลสวัสดิการและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนของธนาคารและถือเป็นเรื่องสำคัญที่จำเป็นต้องมีการดำเนินงานและติดตามอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ
การบริหารจัดการ
ธนาคารมีการจ้างงานและการปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม โดยไม่แบ่งแยกเพศ เชื้อชาติ ศาสนา การศึกษา หรือสีผิว เป็นสิ่งที่ธนาคารให้ความสำคัญมาโดยตลอด ธนาคารคำนึงถึงประเด็นอ่อนไหวทางเพศ ไม่ยอมรับการเลือกปฏิบัติทางเพศทุกรูปแบบทั้งในการจ้างงานและการทำงาน และไม่ยอมรับการคุกคามทางวาจา กายภาพ และทางเพศ อันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายทางจิตวิทยาหรือทางกายภาพ ธนาคารให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ โดยเฉพาะการให้โอกาสในการพัฒนาทักษะความรู้ และความก้าวหน้าในหน้าที่การงานอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม
ค่าตอบแทน สวัสดิการ และสิทธิประโยชน์
ธนาคารกำหนดค่าตอบแทน สวัสดิการ และผลประโยชน์แก่พนักงานอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติบนพื้นฐานของความแตกต่างทางเพศ อายุ ศาสนา และเชื้อชาติของพนักงาน นอกจากนี้ การกำหนดค่าตอบแทน สวัสดิการ และผลประโยชน์ต้องสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ และสามารถแข่งขันได้กับธนาคารพาณิชย์ชั้นนำอื่น ๆ ในประเทศไทย ธนาคารมีการทบทวนการจัดสรรค่าตอบแทนสวัสดิการและผลประโยชน์ให้กับพนักงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีมีกำลังใจที่จะปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถ พร้อมร่วมสร้างสรรค์งานต่าง ๆ กับธนาคารในระยะยาว

ค่าตอบแทน

ธนาคารกำหนดค่าตอบแทนของพนักงาน โดยพิจารณาจากผลการปฏิบัติงาน ทักษะ ประสบการณ์ หน้าที่และความรับผิดชอบของพนักงาน แต่ละคน เพื่อจูงใจให้พนักงานพัฒนาทักษะความสามารถและสร้างผลงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ธนาคารยังคำนึงถึงขวัญและกำลังใจของพนักงานที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยง เช่น บริเวณพื้นที่เสี่ยงชายแดนภาคใต้ เป็นต้น ดังนั้น ธนาคารจึงได้จ่ายเงิน ค่าตอบแทนพิเศษให้แก่พนักงานทุกคนที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดนภาคใต้เพื่อเป็นการเสริมสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงาน

สวัสดิการเงินกู้

ธนาคารจัดให้มีสวัสดิการเงินกู้ของพนักงานที่มีอัตราดอกเบี้ยพิเศษพร้อมเงื่อนไขการผ่อนชำระที่ยืดหยุ่น เพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิตและยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงาน รวมทั้งช่วยผ่อนคลายความกังวลและแบ่งเบาภาระทางการเงินของพนักงานและครอบครัว สวัสดิการ เงินกู้ดังกล่าวครอบคลุมเงินกู้เพื่อการซื้อที่อยู่อาศัย การซ่อมแซม ต่อเติม และปรับปรุงที่อยู่อาศัย การซื้อรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ การศึกษาบุตร การรักษาพยาบาลของสมาชิกครอบครัว ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการครองชีพ การศึกษาต่อระดับปริญญาโท การชำระหนี้ที่กู้ยืมจากบุคคลภายนอก และกรณีฉุกเฉินจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทั้งนี้ การอนุมัติสวัสดิการเงินกู้ดังกล่าวจะพิจารณาถึงหนี้สินเดิมที่มีอยู่ และความสามารถในการชำระเงินกู้ของพนักงานด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาหนี้สินล้นพ้นตัว

สิทธิประโยชน์

ธนาคารจัดสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้แก่พนักงาน ครอบคลุมทั้งสิทธิประโยชน์ที่นายจ้างต้องจัดให้ตามกฎหมาย และสิทธิประโยชน์ที่ธนาคารให้เพิ่มเติมจากที่กฎหมายกำหนด เพื่อส่งเสริมให้พนักงานสามารถดำรงชีพได้ตามฐานานุรูปและมีคุณภาพชีวิตที่ดี

การทำงานที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดิจิทัลและค่านิยมของคนรุ่นใหม่ได้ผลักดันให้เกิดการพัฒนารูปแบบและวิธีการทำงานที่แตกต่างไปจากเดิม ธนาคารได้ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลระบบการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล และระบบการทำงานอัตโนมัติแบบหุ่นยนต์ มาประยุกต์ใช้ในการทำงาน เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และคล่องตัวในการทำงานนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ในบางสายงานธนาคารอนุญาตให้พนักงานสามารถเข้าออกงานในช่วงเวลาที่แตกต่างกันได้ตามที่ ได้ตกลงกับผู้บังคับบัญชาและในบางตำแหน่งงาน เช่น ที่ปรึกษา บุคลากรทางการแพทย์ในหน่วยบริการสุขภาพของธนาคาร ธนาคารอนุญาตให้พนักงานสามารถปฏิบัติงานแบบพาร์ตไทม์ได้ และธนาคารยังอนุญาตให้พนักงานแต่งชุดลำลองได้ในวันศุกร์ เพื่อสร้างบรรยากาศการทำงานที่มีความผ่อนคลายมากขึ้น

บริการสุขภาพ

ธนาคารตั้งหน่วยบริการสุขภาพขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางในการดูแล และให้บริการด้านสุขภาพแก่พนักงานแบบครบวงจร โดยมีบริการเกี่ยวกับด้านสุขภาพ ดังนี้

 

บริการด้านการตรวจรักษาและการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล


  • การรักษาพยาบาลภายในธนาคาร
    การจัดให้มีแพทย์ทั่วไป แพทย์เฉพาะทาง และพยาบาล มาให้บริการตรวจรักษาและให้คำปรึกษาด้านสุขภาพแก่พนักงาน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายที่ “บริการสุขภาพ” ชั้น 4 อาคาร สำานักงานใหญ่สีลม
  • บริการตรวจสุขภาพประจำปี
    การจัดบริการตรวจสุขภาพประจำปีแก่พนักงาน ครอบคลุม การตรวจความสมบูรณ์ของเลือด ระดับน้ำตาลและไขมัน ระบบการทำงานของตับและไต การตรวจไฟฟ้าคลื่นหัวใจ การเอกซเรย์ปอด และการตรวจหาภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบบี ทุก 3 ปี นอกจากนี้ พนักงานชายที่มีอายุ 50 ปี ขึ้นไป สามารถรับการตรวจประเมินความเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก ส่วนพนักงานหญิงได้รับสิทธิการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม โดยสามารถเบิกค่าตรวจได้ตามอัตราที่ธนาคารกำหนด
  • บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ชนิด 4 สายพันธุ์
    การจัดบริการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ที่มีการแพร่ระบาดตามฤดูกาลให้กับพนักงานเป็นประจำทุกปีตามจุดให้บริการที่กำหนด
  • การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลและทันตกรรมและการออกหนังสือส่งตัวเพื่อเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาล
    พนักงานที่เข้ารับการตรวจรักษาที่สถานพยาบาลภายนอกหรือเข้ารับบริการด้านทันตกรรม สามารถเบิกค่าตรวจและค่ายาได้ที่บริการสุขภาพตามอัตราที่ธนาคารกำหนดไว้ ในกรณีที่พนักงานมีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล พนักงานสามารถขอหนังสือส่งตัวกับบริการสุขภาพได้ โดยธนาคารจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นการช่วยลดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายให้แก่พนักงาน

บริการให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตและการจัดการความเครียด

ความเครียดจากสภาพเศรษฐกิจ สังคมและการทำงานในยุคปัจจุบัน มีผลต่อสุขภาพจิตของพนักงาน บริการสุขภาพจึงจัดให้มีจิตแพทย์ออกตรวจสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และในกรณีที่พนักงานไปใช้บริการที่เกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพจิตจากสถานพยาบาลภายนอก พนักงานสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามอัตราที่ธนาคารกำหนด นอกจากนี้ บริการสุขภาพได้นำบริการ “iSTRONG Mental Health” เพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการบริการให้คำปรึกษาและพูดคุยปัญหาด้านสุขภาพจิตของพนักงานผ่านช่องทางออนไลน์ โดยมีนักจิตวิทยาและนักจิตบำบัดที่มากประสบการณ์มารับฟังเรื่องราวปัญหา ให้กำลังใจ และร่วมหาแนวทางการแก้ไข หรือทางออกที่ดีที่สุดให้กับพนักงาน บริการดังกล่าวเป็นพื้นที่ปลอดภัยในการดูแลรักษาสุขภาพจิตของพนักงาน ข้อมูลการพูดคุยปรึกษาจะถูกเก็บเป็นความลับไม่มีการเปิดเผยหรือรายงานต่อธนาคาร

การให้ความรู้และจัดอบรมด้านสุขภาพ

บริการสุขภาพจัดทำบทความให้ความรู้เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ โรคระบาดตามฤดูกาล และคำแนะนำในการดูแลรักษาสุขภาพกายและใจให้แข็งแรง โดยจัดให้มีการเผยแพร่ผ่านช่องทางการสื่อสาร ภายในธนาคารเป็นประจำ อีกทั้งมีการจัดบรรยายโดย ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและให้ข้อแนะนำเกี่ยวกับแนวทางป้องกันหรือหลีกเลี่ยงการเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ แก่พนักงาน นอกจากนี้ ธนาคารยังมีการจัดอบรมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การช่วยฟื้นคืนชีพและการใช้เครื่องกระตุกหัวใจ เพื่อให้พนักงานสามารถช่วยเหลือตนเองและบุคคลอื่นในสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างถูกต้องก่อนที่ผู้ป่วยจะถูกนำส่งถึงโรงพยาบาล ช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาฟื้นฟูหรือโอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วย
การสำรวจระดับความผูกพันของพนักงาน
ธนาคารทำการสำรวจระดับความผูกพันของพนักงานในหน่วยงานต่าง ๆ ทุกปี ครอบคลุมคำถามที่เกี่ยวข้องกับจุดประสงค์และแรงบันดาลใจในการทำงาน ความพึงพอใจเกี่ยวกับงาน โอกาสในการเรียนรู้ ความสุขในการทำงาน ความเครียดจากการทำงานและผลตอบแทน ในปี 2567 ธนาคาร ตั้งเป้าหมายระดับความผูกพันของพนักงานไว้ที่ ร้อยละ 70 อย่างไรก็ดี ผลการสำรวจพบว่าระดับความผูกพันอยู่ที่ร้อยละ 65 ธนาคารจะทำการวิเคราะห์สาเหตุและ หาแนวทางการปรับปรุงเพื่อยกระดับความผูกพันให้ได้ตามเป้าหมายต่อไป
อาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน
ธนาคารให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงาน เพื่อสวัสดิภาพของผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นพนักงานของธนาคาร ลูกค้า ผู้มาติดต่อ หรือบุคคล ภายนอกที่เข้ามาติดต่อหรือปฏิบัติงานในพื้นที่ของธนาคาร ธนาคารได้กำหนดนโยบายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อเป็นกรอบในการดำเนินงานด้านความปลอดภัย และอาชีวอนามัยของธนาคาร ตลอดจนการจัดสภาพแวดล้อมในการทำงานให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับระเบียบข้อบังคับและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและ สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีของผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นสำคัญ

โครงสร้างการดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน

โครงสร้างการดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ประกอบไปด้วยคณะทำงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน และคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (คปอ.) ประจำอาคารต่าง ๆ

  • คณะทำงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทำงาน
    คณะทำงานด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทำงานประกอบด้วยผู้แทนจากหลายหน่วยงาน เช่น กำกับดูแล สายทรัพยากรบุคคล บริการสุขภาพ ฝ่ายอาคารสำนักงานและทรัพย์สิน บริหารแรงงานสัมพันธ์ และทีมงานด้านความยั่งยืน เป็นต้น คณะทำงานฯ มีหน้าที่ดูแลให้เกิดการปฏิบัติตามนโยบาย ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เช่น การระบุและประเมินความเสี่ยงหรือสิ่งบ่งชี้อันตรายในสถานที่ทำงาน การกำหนดมาตรการป้องกันบรรเทาความเสี่ยงที่เหมาะสม การกำหนดแผนปฏิบัติการ และเป้าหมายเชิงปริมาณ การขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย อีกทั้งยังดูแลและติดตามการทำงานของคณะกรรมการความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (คปอ.) ประจำาอาคารต่าง ๆ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด คณะทำงานฯ มีการประชุมเป็นรายไตรมาสและรายงานผลการประชุมให้ผู้บริหารระดับสูงที่ดูแลรับผิดชอบรับทราบทุกครั้ง

การประเมินความเสี่ยงและการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน

ธนาคารจัดให้มีการประเมินหรือทบทวนความเสี่ยงด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเป็นประจำทุกปี เพื่อระบุและจัดลำดับความสำคัญของความเสี่ยงและสิ่งชี้บ่งอันตรายที่สำคัญ กำหนดมาตรการควบคุมหรือลดความเสี่ยงที่เหมาะสม และกำหนดแผนปฏิบัติงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ผ่านมา ธนาคารได้มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในสถานที่ทำงานและปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อ การทำงานที่มีประสิทธิภาพ เช่น การทำความสะอาดพื้นที่ทำงานเป็นประจำ การปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องใช้ให้มีความปลอดภัยและเหมาะสมกับการทำงานต่าง ๆ การออกแบบให้ห้องถ่ายเอกสารและทำลายเอกสารแยกห่างจากบริเวณที่นั่งทำงาน การบำรุงรักษาระบบปรับอากาศในอาคารอย่างสม่ำเสมอ การกำหนดแผนป้องกันและระงับอัคคีภัย ซึ่งรวมถึงการจัดสถานที่ทำงานเพื่อลดความเสี่ยงด้านอัคคีภัย ธนาคารจัดจ้างผู้รับเหมาและผู้ตรวจสอบภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะให้ตรวจประเมินสภาพแวดล้อมการทำงานภายในธนาคารเป็นประจำทุกปี ซึ่งรวมถึงการตรวจความปลอดภัยของตัวอาคาร ระบบไฟฟ้า ระดับเสียงและคุณภาพอากาศในพื้นที่ทำงานให้สอดคล้องกับกฎหมายและมาตรฐานในประเทศ ตลอดจนมาตรฐานสากล เช่น Singapore Standard SS 544:2009 Code of Practice for Indoor Air Quality for Air-Conditioned Buildings นอกจากนี้ ในกรณีที่มีพนักงานเกิดการบาดเจ็บ หรือเจ็บป่วยอันเนื่องมาจากการทำงานหรือสภาพแวดล้อมในการทำงาน ธนาคารจะดำเนินการสอบสวนและวิเคราะห์หาสาเหตุจัดการแก้ไข และกำาหนดมาตรการควบคุมและป้องกันที่เหมาะสม ต่อไป

การดำเนินงานเพื่อเตรียมรับและตอบสนองต่อ สถานการณ์ฉุกเฉิน

ธนาคารจัดทำแผนปฏิบัติการและจัดเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลาเพื่อให้สามารถรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงท อีกทั้งจัดให้มีแผนการฝึกซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟเป็นประจำทุกปีในพื้นที่อาคารสำนักงาน และสาขาของธนาคารทั่วประเทศ พื่อให้พนักงานสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงหรือลด ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้

การให้ความรู้ด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย

ธนาคารจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยและอาชีวอนามัยภายในอาคารเบื้องต้นให้แก่พนักงานใหม่ทุกคน เช่น การใช้อุปกรณ์ดับเพลิงแต่ละชนิด ขั้นตอนการอพยพหนีไฟ และช่องทางในการรับแจ้งเหตุไฟไหม้ นอกจากนี้ ธนาคารได้จัดอบรมหลักสูตรเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยเพื่อให้พนักงานเข้าใจถึงบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยของธนาคาร รวมถึงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของอาคาร

 

การเตรียมความพร้อมให้พนักงานก่อนเกษียณ และการดูแลพนักงานหลังเกษียณ

การเตรียมความพร้อมให้พนักงานก่อนเกษียณ

ธนาคารจัดให้มีการบรรยายให้ความรู้แก่พนักงานที่ใกล้วัยเกษียณ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุข ครอบคลุมประเด็นสำคัญหลากหลาย เช่น การวางแผนจัดการเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การเลือกนโยบายการลงทุน การคงเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การรับเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สิทธิประโยชน์ทางภาษีของกองทุนสำารองเลี้ยงชีพสำหรับ ผู้ที่เกษียณและการบริหารเงินหลังเกษียณ นอกจากนี้ ธนาคารจัดงานปัจฉิมนิเทศให้แก่พนักงานผู้เกษียณอายุเป็นประจำทุกปี เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติและให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตหลังเกษียณ เช่น การจัดการชีวิตหลังเกษียณให้มีความสุข สิทธิการรักษาพยาบาลของธนาคาร สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า บำเหน็จบำนาญชราภาพ ประกันสังคม เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ สวัสดิการ อื่น ๆ ของภาครัฐ สิทธิประโยชน์และสวัสดิการที่ธนาคารจัดให้สำหรับพนักงานเกษียณ เป็นต้น

การดูแลพนักงานหลังเกษียณ

ด้วยตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของพนักงานที่กำลังจะเกษียณ ซึ่งได้อุทิศตนทำงานสร้างคุณประโยชน์ให้แก่ธนาคารมายาวนาน ธนาคารจึงจัดให้มีกิจกรรมปัจฉิมนิเทศประจำปีเพื่อประกาศเกียรติคุณ และในปี 2567 ธนาคารได้มอบของที่ระลึกพร้อมเงินช่วยเหลือเฉพาะกาลให้แก่พนักงานเกษียณอายุตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนดคนละ 200,000 บาท อีกทั้งให้สิทธิการรักษาพยาบาลและรับยาที่บริการสุขภาพแก่พนักงานเกษียณอายุที่มีอายุงานมากกว่า 30 ปี โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีหลังเกษียณ ธนาคารให้การสนับสนุนชมรมบัวใหญ่ ซึ่งเป็นชมรมที่พนักงานเกษียณของธนาคารได้ร่วมกันก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้สมาชิกได้มาพบปะสังสรรค์ในโอกาสอันสำคัญ เช่น งานปีใหม่ งานวันสงกรานต์ และงานกฐินพระราชทาน และเพื่อร่วมกันช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อนสมาชิกและครอบครัวตามความเหมาะสม สมาชิกชมรมบัวใหญ่ได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากธนาคาร รวมถึงสิทธิการรักษาพยาบาลและรับยาที่บริการสุขภาพของธนาคาร และเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจ จำนวน 5,000 บาท นอกจากนี้ ธนาคารได้จัดตั้งกองทุนชาตรี โสภณพนิช ขึ้นเพื่อช่วยเหลืออดีตพนักงานที่มีความเดือดร้อนทางการเงินหลังเกษียณ โดยการให้เงินช่วยเหลือกรณีเจ็บป่วยร้ายแรงหรือถึงแก่กรรม และการให้ทุนการศึกษาบุตร

การจ้างพนักงานที่เกษียณแล้ว


ในปี 2567 ธนาคารจัดโครงการจัดรับพนักงานที่เกษียณแล้ว “60 YOUNG WOW” ขึ้น 2 รอบ เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานที่เกษียณแล้วแต่ยังมีแรงจูงใจในการทำงาน มีสุขภาพแข็งแรง ต้องการสร้างคุณค่าให้กับตนเองและธนาคาร และอยากมีรายได้หลังเกษียณ สามารถกลับเข้ามาปฏิบัติงานในฐานะลูกจ้างตามสัญญาในตำแหน่งที่เปิดรับ ในช่วงเวลานั้น โดยจะได้ค่าจ้างและสวัสดิการตามที่ระบุในสัญญาจ้างของแต่ละตำแหน่ง


 

ข้อมูลสถิติที่เกี่ยวข้องกับพนักงาน
ความหลากหลาย

รายละเอียด

ร้อยละ

อายุ

< 30 ปี

16.02

30 - 50 ปี

57.51

> 50 ปี

26.47

เพศ

พนักงานหญิงต่อพนักงานทั้งหมด

66.68

ผู้บริหารหญิงต่อผู้บริหารทั้งหมด

55.29

ผู้บริหารหญิงต่อผู้บริหารระดับสูงทั้งหมด

36.51

ผู้บริหารหญิงต่อผู้บริหารระดับต้นทั้งหมด

57.81

ผู้บริหารหญิงที่อยู่ในหน่วยงานที่สร้างรายได้ให้แก่องค์กร

53.50

ผู้บริหารและพนักงานหญิงที่ดำรงตำแหน่งเกี่ยวข้องกับ STEM

48.10

สัญชาติ

พนักงานที่มีสัญชาติไทยต่อพนักงานทั้งหมด

99.71

ผู้บริหารที่มีสัญชาติไทยต่อผู้บริหารทั้งหมด

97.55


ค่าตอบแทนและสวัสดิการ


อัตราส่วนค่าตอบแทนระหว่างพนักงานชายต่อพนักงานหญิง

ผู้บริหารระดับสูง (ฐานเงินเดือนเท่านั้น)

1:0.57

ผู้บริหารระดับสูง (ฐานเงินเดือนและค่าตอบแทนอื่น ๆ)

1:0.56

ผู้บริหาร (ฐานเงินเดือนเท่านั้น)

1:0.92

ผู้บริหาร (ฐานเงินเดือนและค่าตอบแทนอื่น ๆ)

1:0.93

พนักงาน (ฐานเงินเดือนเท่านั้น)

1:0.91

ค่าเฉลี่ยของค่าตอบแทนรายปีเฉลี่ยของพนักงานทั้งหมดยกเว้น CEO (บาท)

791,549


เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณ
ในทุกธุรกรรมทางการเงิน

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณในทุกธุรกรรมทางการเงิน

คุณกำลังจะออกจากเว็บไซต์ธนาคารกรุงเทพ