จริยธรรมทางธุรกิจ

ความมุ่งมั่น


การปฏิบัติตามจริยธรรมธุรกิจในระดับสูงสุด รวมถึงเคารพ สิทธิมนุษยชน เพื่อให้เป็นที่ไว้วางใจของผู้มีส่วนได้เสีย ด้วยการปลูกฝังจริยธรรมองค์กร สร้างความตระหนักรู้ และความเข้าใจของพนักงาน และใช้ระบบควบคุมภายในที่มีประสิทธิผล

ความสำคัญ


การดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม เคารพสิทธิมนุษยชน และ มีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มจะช่วยลดความเสี่ยงใน การดำเนินธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน สร้างความเชื่อมันแก่ผู้มีส่วนได้เสีย เสริมภาพลักษณ์ที่ดี นำมาซึ่งการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กร ในทางกลับกันการดำเนินธุรกิจโดย ไม่คำนึงถึงหลักจริยธรรมย่อมส่งผลกระทบทางลบต่อภาพลักษณ์ ชื่อเสียง สั่นคลอนความไว้วางใจของผู้มีส่วนได้เสีย และลดทอน โอกาสการเติบโต ธนาคารยึดถือแนวทางการดำเนินธุรกิจ ตามหลักจริยธรรมทางธุรกิจ พร้อมทั้งส่งเสริมให้เกิดการปฏิบัติ ทั่วทั้งองค์กร โดยการสร้างความตระหนักรู้และจัดการฝึกอบรมให้แก่พนักงาน ทุกระดับชั้น เพื่อมุ่งสู่การเป็นธนาคารที่ได้รับ ความไว้วางใจสูงสุดจากผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม
จรรยาบรรณธุรกิจและจรรยาบรรณพนักงาน
ธนาคารกำหนดจรรยาบรรณและจริยธรรมธุรกิจ เพื่อส่งเสริม การกำกับดูแลกิจการที่ดี และเป็นแนวทางการดำเนินงานให้แก่ กรรมการและพนักงานของธนาคาร โดยทุกคนได้ลงนามรับทราบ และผูกพันที่จะต้องปฏิบัติตามจรรยาบรรณและจริยธรรมธุรกิจ ของธนาคาร รวมถึงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องตามที่ได้ระบุไว้ใน สัญญาจ้าง ธนาคารกำหนดให้การปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับ และจรรยาบรรณและจริยธรรมธุรกิจของธนาคารเป็นหนึ่งในปัจจัย ที่ใช้ประกอบการพิจารณาประเมินผลการปฏิบัติงานและค่าตอบแทน ของพนักงานทุกระดับ อีกทั้งกำหนดให้พนักงานที่มีสิทธิได้รับโบนัส จะต้องไม่เป็นผู้ที่ได้รับโทษทางวินัยถึงขั้นปลดออกหรือเป็นผู้กระทำาความผิดฐานทุจริต ในกรณีที่พนักงานอยู่ในระหว่าง การสอบสวนความผิด พนักงานจะถูกระงับการจ่ายโบนัส ไว้ชั่วคราวจนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ หากสอบสวนแล้ว พบว่ามิได้กระทำความผิดก็จะมีสิทธิได้รับโบนัสตามปกติ นอกจากนี้ ธนาคารยังจัดอบรมหลักสูตรภาคบังคับเรื่องจรรยาบรรณและ จริยธรรมธุรกิจให้แก่พนักงานทุกระดับ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ และความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องเหมาะสม ธนาคารกำหนดจรรยาบรรณพนักงาน เพื่อเป็นหลักการและแนวปฏิบัติให้แก่กรรมการและพนักงานทุกคน มีการจัดทำคู่มือปฏิบัติตามจรรยาบรรณพนักงานเพื่อให้เกิดความชัดเจน ในทางปฏิบัติ และมีการสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจ ถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามจรรยาบรรณพนักงานอย่าง เคร่งครัดในวันปฐมนิเทศของกรรมการและพนักงาน รวมทั้ง มีการสื่อความภายในธนาคารอย่างต่อเนื่อง
การเคารพสิทธิมนุษยชน
การเคารพสิทธิมนุษยชน

การประกอบธุรกิจด้วยความรับผิดชอบและเคารพสิทธิมนุษยชน เป็นประเด็นที่ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคประชาสังคม หรือภาคธุรกิจเอง เนื่องจากยังคงพบการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยภาคธุรกิจเป็นระยะ นำมาซึ่งความเสียหายต่อผู้ถูกละเมิดและผลกระทบทางลบต่อภาพลักษณ์ของภาคธุรกิจโดยรวม ธนาคารให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการ ด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน จากการดำเนินธุรกิจของธนาคารไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม ธนาคารปฏิบัติตามหลักการด้านสิทธิมนุษยชนที่สอดคล้องกับกฎหมายในประเทศและมาตรฐานสากล เช่น ปฏิญญาสากล ว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และอนุสัญญาหลักด้านสิทธิแรงงาน ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ พร้อมทั้งได้นำหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติมาใช้ ในการบริหารจัดการด้านสิทธิมนุษยชน ธนาคารได้จัดทำนโยบายและแนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชน และจัดให้มีกระบวนการตรวจสอบ ด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน เพื่อประเมินความเสี่ยงและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนที่อาจเกิดขึ้นจากกิจกรรมทางธุรกิจของธนาคารเอง กิจกรรมของคู่ค้า ลูกค้าตลอดห่วงโซ่คุณค่าของธนาคาร และบริษัทที่ธนาคารเข้าไปถือหุ้นมากกว่าร้อยละ 10 การประเมินดังกล่าวครอบคลุมกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มรวมถึง กลุ่มเปราะบาง เช่น แรงงานหญิง แรงงานเด็ก แรงงานต่างด้าว ลูกจ้างรายวัน ชนกลุ่มน้อย ผู้พิการ และผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ธนาคารกำหนดมาตรการป้องกันและบรรเทาความเสี่ยง ที่มีนัยสำคัญอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งกำหนดให้มีการทบทวน การตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านเป็นประจำทุก 3 ปี หรือเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญอันสมควรแก่การทบทวน

การเคารพสิทธิพนักงาน

ธนาคารเคารพสิทธิของพนักงานและปฏิบัติต่อพนักงานทุกคน อย่างเท่าเทียม โดยปราศจากการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมด้วยเหตุแห่งความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา การศึกษา สีผิว เพศ หรือเพศสภาพ อีกทั้งปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน และกฎระเบียบ ภายในธนาคารที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน การจ่ายค่าตอบแทน และสวัสดิการ การดูแลอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน ในกรณีที่ธนาคารมีความจำเป็นต้องเลิกจ้าง พนักงานโดยมีสาเหตุอื่นที่นอกเหนือจากการกระทำผิดหรือ การเกษียณอายุ ธนาคารจะจ่ายค่าชดเชยตามที่กฎหมายกำหนด และจ่ายเงินสงเคราะห์ครอบครัวตามระเบียบของธนาคาร ธนาคารจัดทำนโยบายการไม่เลือกปฏิบัติและการต่อต้าน การคุกคาม เพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการไม่ยอมรับการเลือกปฏิบัติ และการคุกคามในทุกรูปแบบ ครอบคลุมการคุกคามทางเพศและ ไม่ใช่ทางเพศ รวมทั้งเป็นแนวปฏิบัติแก่พนักงานเมื่อเผชิญกับ การเลือกปฏิบัติหรือการคุกคาม หากพบว่ามีการเลือกปฏิบัติ หรือการล่วงละเมิดที่ขัดกับนโยบายดังกล่าว ธนาคารจะดำเนินการ สืบสวนหา ข้อเท็จจริงและลงโทษทางวินัยกับผู้กระทำผิดตาม ระเบียบของธนาคาร ธนาคารเคารพสิทธิในการรวมกลุ่ม เพื่อเจรจาต่อรองของพนักงาน พนักงานทุกคนมีสิทธิที่จะสมัครเป็นสมาชิก สหภาพแรงงานและมีสิทธิที่จะรวมกลุ่มเพื่อเจรจาต่อรองหรือ ดำเนินกิจกรรมด้านสิทธิแรงงานภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย สหภาพแรงงานของธนาคารมีทั้งหมด 2 สหภาพ ได้แก่ สหภาพแรงงานธนาคารกรุงเทพ และสหภาพแรงงานผู้บังคับ บัญชาธนาคารกรุงเทพ ทั้งสองสหภาพไม่ได้เจรจาต่อรองเฉพาะเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ของสมาชิกสหภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ของพนักงานโดยรวมด้วย ธนาคารเปิดโอกาสให้ผู้แทนเจรจาของสหภาพแรงงานสามารถนำประเด็น ปัญหาที่สำคัญมาปรึกษาหารือกับธนาคาร เพื่อป้องกันและแก้ไข ปัญหาแรงงานสัมพันธ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต กลไกการปรึกษาหารือดังกล่าวมีส่วนช่วยให้ข้อเรียกร้องและข้อเสนอแนะต่าง ๆ ของสหภาพมักจะได้รับการตอบสนองจากธนาคารด้วยดีมาตลอด ในปี 2567 ทั้งสองสหภาพมีสมาชิกรวมกันทั้งสิ้น 9,238 คน คิดเป็นร้อยละ 49.06 ของพนักงานทั้งหมด นอกจากนี้ ธนาคารได้ จัดอบรมออนไลน์เพื่อสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจให้แก่ พนักงานทุกคนในเรื่องสิทธิมนุษยชน การไม่เลือกปฏิบัติ และ การต่อต้านการคุกคามและล่าสุดธนาคารได้พัฒนาหลักสูตร พื้นฐานแนวคิดการเห็นคุณค่าและการยอมรับความหลากหลายเพื่อความเสมอภาคสู่ความสำเร็จขององค์กร ทั้งหมดนี้เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมการไม่เลือกปฏิบัติ การเคารพสิทธิพนักงาน และการยอมรับความหลากหลายในองค์กร
การป้องกันการทุจริต คอร์รัปชัน
ธนาคารกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติในการต่อต้านคอร์รัปชัน เพื่อเป็นกรอบการปฏิบัติให้พนักงานทุกคน ครอบคลุมตั้งแต่การประเมินและการจัดการความเสี่ยงด้านการทุจริตคอร์รัปชัน จนถึงการแจ้งเบาะแส ข้อมูล หรือข้อร้องเรียน ธนาคารจัดให้มีการประเมินผลการปฏิบัติตามนโยบายเป็นประจำทุกปี พร้อมทั้งมีการจัดอบรมเพื่อสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการคอร์รัปชันและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นให้แก่พนักงานทุกคน หากพบว่าพนักงานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าว ธนาคารจะดำเนินการตรวจสอบตามกระบวนการทางวินัย และ จะลงโทษหากพบว่ามีความผิดจริง ตั้งแต่การตักเตือนไปจนถึงการปลดออกจากงานหรือการดำเนินคดีตามกฎหมาย

ธนาคารได้รับการยอมรับในฐานะสถาบันการเงินที่มีส่วนสำคัญ ในการสนับสนุนการต่อต้านคอร์รัปชันโดยได้รับการรับรอง เป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2558 นอกจากนี้ ธนาคารยังได้เชิญชวนให้คู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจของธนาคารเข้าร่วมเป็นภาคีเครือข่าย แนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย เพื่อขยาย ความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชันออกไปในวงกว้างขึ้น

การจัดการความเสี่ยงด้านคอร์รัปชัน

ธนาคารมีการจัดการความเสี่ยงด้านคอร์รัปชันที่มีประสิทธิผลและเหมาะสมกับบริบททางธุรกิจของธนาคาร โดยมีขั้นตอนดังนี้


  1. การระบุประเด็นความเสี่ยงด้านคอร์รัปชันที่ธนาคารอาจเข้าไป มีส่วนเกี่ยวข้องผ่านการดำเนินธุรกิจของธนาคาร
  2. การประเมินความเสี่ยงด้านคอร์รัปชันและความรุนแรงของผลกระทบ
  3. การกำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมความเสี่ยง โดยผู้บริหารหน่วยงานหรือหัวหน้างานที่เกี่ยวข้องกับแต่ละประเด็นความเสี่ยงจะเป็นผู้ดำเนินการใน 3 ขั้นตอนแรกนี้เป็นประจำทุกปี ผลการประเมินและข้อมูลทั้งหมดจะถูกจัดเก็บรวบรวมไว้เพื่อใช้ในการวิเคราะห์และอ้างอิงต่อไป
  4. การติดตาม ดูแล และตรวจสอบภายใต้หลักการป้องกัน 3 ชั้น โดยในชั้นแรก ผู้รับผิดชอบหน่วยงานธุรกิจทำหน้าที่จัดการความเสี่ยงในหน่วยงานของตนในชั้นที่สอง หน่วยงานบริหารความเสี่ยงและหน่วยงานกำกับดูแลทำหน้าที่ดูแลและติดตามการจัดการความเสี่ยงและในชั้นสุดท้าย หน่วยงานตรวจสอบ และควบคุมทำหน้าที่ตรวจสอบการดำเนินงานอย่างเป็นอิสระ และรายงานต่อผู้รับผิดชอบตามสายการบังคับบัญชา

ในปี 2567 ธนาคารไม่มีกรณีกล่าวโทษหรือข้อร้องเรียน ที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชันและการติดสินบน และการขัดกัน ของผลประโยชน์จากธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และสำนักงาน ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ธนาคารไม่สนับสนุนกิจกรรม ล็อบบี้และไม่สนับสนุนกิจกรรมทางการเมือง พรรคการเมือง นักการเมือง ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือ ผู้มีบทบาททางการเมืองทั้งทางตรงและทางอ้อม

การป้องกันการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย

การป้องกันการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายเป็นประเด็นที่ธนาคารให้ความสำคัญใน ระดับสูงมาโดยตลอด ธนาคารกำหนดนโยบายการป้องกันการฟอก เงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ซึ่งรวมถึงการป้องกันการสนับสนุนทางการเงินแก่การแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง เพื่อเป็นกรอบการดำเนินงานของธนาคารและเพื่อป้องกันไม่ให้ธนาคารถูกใช้เป็นช่องทางหรือ เป็นเครื่องมือเพื่อกระทำการดังกล่าว คณะกรรมการและพนักงาน ทุกคนมีหน้าที่ปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าวโดยเคร่งครัด ธนาคารมีกระบวนการทำความรู้จักลูกค้าและมีการกำหนด ความเข้มข้นในการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า ให้สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงของลูกค้า ในกรณีที่ลูกค้าเป็น ผู้ที่มีระดับความเสี่ยงสูง ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีสถานภาพทางการเมือง ธนาคารกำหนดให้มีการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ ลูกค้าดังกล่าวอย่างเข้มข้น พร้อมทั้งติดตามความเคลื่อนไหวทาง บัญชีในระดับที่เข้มข้นกว่าปกติ ธนาคารได้พัฒนาระบบงานภายใน ให้สามารถตรวจสอบรายชื่อลูกค้ากับรายชื่อในฐานข้อมูลบุคคลที่ ถูกกำหนด บุคคลต้องห้ามและบุคคลกลุ่มเสี่ยงสูงตามที่ทางการกำหนด เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่ของธนาคารในการตรวจสอบและจัดระดับความเสี่ยงของลูกค้า ธนาคารมีระบบ ตรวจทานบัญชีและติดตามความเคลื่อนไหวทางการเงินหรือ การทำธุรกรรมที่มีความน่าสงสัย และมีการเก็บรักษาเอกสารและข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเป็นระยะเวลา 10 ปี นอกจากนี้ ธนาคารยังมีระบบจัดการความเสี่ยง การกำกับดูแล ตรวจสอบ และติดตาม การดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามแนวทางการป้องกัน 3 ชั้น ตลอดจนมีการสื่อความและอบรมให้แก่พนักงานทุกคน อย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานของธนาคารเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของทางการ ในปี 2567 ธนาคาร ไม่มีกรณีกล่าวโทษ หรือได้รับข้อร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน หรือการใช้ข้อมูลภายใน

การจัดการภัยทุจริตทางการเงิน

การถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้โอนเงินผ่านเครือข่ายโทรศัพท์หรือช่องทางออนไลน์กำลังเป็นปัญหาที่สำคัญในสังคมไทย ธนาคารได้ร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการยกระดับมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงินตามแนวนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันมิให้มิจฉาชีพเข้าถึงประชาชน ตรวจจับและติดตามธุรกรรมต้องสงสัยหรือบัญชีที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการรับเงินและถ่ายโอนเงินจากการหลอกลวงของมิจฉาชีพ (บัญชีม้า) ตลอดจนตอบสนองและรับมือต่อเหตุการณ์เพื่อช่วยเหลือและเยียวยา ผู้ใช้บริการอย่างเหมาะสม โดยการยกระดับมาตรการดังกล่าวประกอบด้วยมาตรการ 2 กลุ่ม ดังนี้



มีการยกระดับการจัดการบัญชีม้าจากระดับบัญชีขึ้นเป็นระดับบุคคลโดยธนาคารมีการจัดระดับบุคคลตามความเสี่ยงและกำหนดมาตรการจัดการกับบัญชีที่ต้องสงสัยว่าถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดและเจ้าของบัญชีตามระดับความเสี่ยง เช่น การระงับช่องทางการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ การปฏิเสธ การเปิดบัญชีใหม่ การปรับระดับความเสี่ยงลูกค้าเป็นลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูงพร้อมกับดำเนินการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริง เกี่ยวกับลูกค้าในระดับเข้มข้น เป็นต้น โดยพิจารณาจากแหล่งข้อมูล ดังนี้

  1. บุคคลที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งควรได้รับการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ตามรายชื่อที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินกำหนด
  2. บุคคลต้องสงสัยที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเส้นทางการเงินที่ธนาคาร ได้รับแจ้งรายชื่อจากระบบ Central Fraud Registry ซึ่งเป็น ระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลเส้นทางการเงินของภาคธนาคารตามกฎหมาย
  3. บุคคลที่ธนาคารตรวจสอบแล้วเห็นว่ามีพฤติกรรมต้องสงสัยกระทำความผิด


ธนาคารได้ยกระดับความมั่นคงปลอดภัยของการให้บริการทางการเงินและการชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อป้องกัน การสวมรอยทำธุรกรรมแทนผู้ใช้บริการ เช่น การมีทางเลือกให้ลูกค้าสามารถล็อกเงินในบัญชีไม่ให้ทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์และกำหนดวิธีการปลดล็อกที่รัดกุมมากขึ้น การให้ลูกค้าสามารถปรับจำนวนเงินสูงสุดต่อรายการในการทำธุรกรรม โอนเงินแต่ละครั้งที่ต้องมีการยืนยันตัวตนเพิ่มเติมโดยการสแกน ใบหน้า การจำกัดการใช้บริการโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพของ ผู้ใช้บริการเพียง 1 บัญชีผู้ใช้งาน 1 หมายเลขโทรศัพท์มือถือ และจำกัดให้ใช้งานบน 1 อุปกรณ์ของผู้ใช้บริการเท่านั้น

การให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม
การให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม บริการที่เป็นธรรมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ลูกค้าพึงได้รับ และ เป็นหัวใจของการให้บริการที่มีคุณภาพอันนำมาซึ่งความสัมพันธ์ ที่ดีระหว่างธนาคารกับลูกค้า ธนาคารจึงกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติด้านการให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรมเพื่อให้กรรมการ และพนักงานทุกคนยึดถือปฏิบัติ ดังนี้

  1. วัฒนธรรมองค์กร และบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูง
    คณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูงของธนาคารมีหน้าที่ ผลักดันให้การให้บริการอย่างเป็นธรรมเป็นวัฒนธรรมองค์กร
  2. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ช่องทางการให้บริการ และ การจัดกลุ่มลูกค้า
    การพัฒนาผลิตภัณฑ์และช่องทางการให้บริการที่เหมาะสมกับความต้องการ ความสามารถทางการเงินและความสามารถในการทำความเข้าใจของลูกค้าเป้าหมายแต่ละกลุ่ม รวมทั้งมีความเหมาะสมกับความสามารถในการขาย และความเข้าใจของพนักงาน ระบบงาน และความสามารถ ในการควบคุมดูแลคุณภาพการขาย เพื่อให้ลูกค้าได้รับ ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและมีคุณภาพ ทั้งนี้การกำหนด เงื่อนไขของผลิตภัณฑ์ ซึ่งรวมถึงสิทธิประโยชน์ ราคา และ ค่าธรรมเนียม ต้องคำนึงถึงความเป็นธรรมและต้นทุนที่ แท้จริง ต้องไม่ร่วมกับผู้ให้บริการอื่นในการกำหนดเงื่อนไข ที่ทำให้ลูกค้าเสียประโยชน์ และต้องไม่บังคับขายพ่วงผลิตภัณฑ์หนึ่งกับอีกผลิตภัณฑ์หนึ่ง เว้นแต่ผลิตภัณฑ์ที่ขายพ่วงนั้นจะมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์หลักเป็นสำคัญ
  3. การจ่ายค่าตอบแทน
    การกำหนดค่าตอบแทนและมาตรการลงโทษของพนักงาน ที่เกี่ยวข้องและผู้บริหารที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแล รวมทั้ง การกำหนดตัวชี้วัดที่เหมาะสมเพื่อจูงใจและป้องกันไม่ให้ เกิดการเสนอขายหรือการให้คำแนะนำที่ขาดความรับผิดชอบต่อลูกค้า
  4. กระบวนการขาย
    การเสนอขายผลิตภัณฑ์และบริการแก่ลูกค้าโดยไม่รบกวน ความเป็นส่วนตัว มีการให้ข้อมูลสำคัญอย่างครบถ้วน ไม่เกินจริง และไม่บิดเบือน เพื่อให้ลูกค้าได้รับผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะกับความต้องการและความสามารถทางการเงิน มีระบบตรวจสอบคุณภาพการขายอย่างสม่ำเสมอ เช่น การโทรศัพท์ตรวจสอบคุณภาพบริการ และการสุ่มตรวจสอบ โดยลูกค้าจำลอง
  5. การสื่อสารและการให้ความรู้แก่พนักงา
    ธนาคารสื่อสารและจัดอบรมเกี่ยวกับการให้บริการอย่างเป็นธรรมให้แก่พนักงานที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาครอบคลุมรายละเอียดของผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ วิธีการขายโดยใช้ ภาษาที่เข้าใจได้ง่าย สิทธิของลูกค้า และแนวทางการดูแล คุ้มครองลูกค้า เพื่อให้พนักงานปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง
  6. การดูแลคุ้มครองข้อมูลของลูกค้า
    ธนาคารดูแลคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าโดยการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ธนาคารได้ออกแบบพัฒนาและทดสอบระบบงานให้มีความมั่นคงปลอดภัยและได้ กำหนดอำนาจหน้าที่ของพนักงานที่ดูแลรักษาความปลอดภัย ของข้อมูลภายใต้แนวทางป้องกัน 3 ชั้น
  7. การแก้ไขปัญหาและจัดการเรื่องร้องเรียน
    ธนาคารจัดให้มีกระบวนการแก้ไขปัญหา จัดการเรื่อง ร้องเรียน และชดเชยเยียวยาที่มีประสิทธิภาพ ชัดเจน รวดเร็ว และยุติธรรม
  8. การควบคุม กำกับ และตรวจสอบ
    ธนาคารจัดให้มีกระบวนการควบคุม กำกับ และตรวจสอบ การปฏิบัติงาน อีกทั้งมีการตรวจจับความเสี่ยงและความผิดปกติและมีระบบการติดตามตรวจสอบภายหลังการขายหรือให้บริการ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติที่ธนาคารกำหนด
  9. การปฏิบัติงานและแผนรองรับการปฏิบัติงาน
    ธนาคารมีระบบปฏิบัติงานและแผนรองรับการปฏิบัติงาน ทั้งในสถานการณ์ปกติและฉุกเฉิน พร้อมทั้งได้จัดทำคู่มือปฏิบัติและรายการตรวจสอบการปฏิบัติงานเพื่อให้มั่นใจว่าความ ประสงค์ของลูกค้าจะได้รับการตอบสนองอย่างถูกต้อง ครบถ้วน ทันเวลา และป้องกันไม่ให้เกิด ความผิดพลาดในการปฏิบัติงาน


ธนาคารให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการให้บริการลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ที่มีความรู้ทางการเงินอย่างจำกัดหรือยังไม่มีประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์และบริการและกลุ่มผู้ที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น ธนาคารได้กำหนด แนวปฏิบัติในการให้บริการลูกค้ากลุ่มเปราะบางเป็นการเฉพาะ โดยการเสนอขายผลิตภัณฑ์และให้บริการแก่ลูกค้ากลุ่มนี้จะต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ พนักงานต้องทำความรู้จักลูกค้า เพื่อให้ทราบถึงความประสงค์ ความสามารถทางการเงิน และ ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของลูกค้า การอธิบายรายละเอียด ความเสี่ยง เงื่อนไข สิทธิ และข้อยกเว้นของผลิตภัณฑ์และ บริการ ต้องคำนึงถึงความสามารถในการทำความเข้าใจของลูกค้า เน้นย้ำจุดที่สำคัญ ให้ข้อมูลอย่างเพียงพอ ชัดเจน เข้าใจง่าย หากลูกค้ามีข้อสงสัย ให้พนักงานอธิบายจนมั่นใจว่าลูกค้าไม่มีข้อสงสัย นอกจากนี้พนักงานต้องให้เวลาแก่ลูกค้าในการ ทำความเข้าใจผลิตภัณฑ์และบริการและต้องไม่เร่งรัดให้ตัดสินใจ

การติดตามทวงถามหนี้และเรียกเก็บหนี้บุคคลธรรมดา

ธนาคารกำหนดนโยบาย หลักเกณฑ์ ขั้นตอนการดำเนินการ ตลอดจนแนวทางปฏิบัติในการติดตามทวงถามหนี้สำหรับบุคคลธรรมดา อันเป็นไปตามพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 ประกาศคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ แนวปฏิบัติในการติดตามทวงถามหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทย พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ. 2545 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีเนื้อหาครอบคลุมถึงระเบียบและวิธีการในการติดตามทวงถามหนี้ การแสดงตนและการให้ข้อมูลเพื่อการทวงถามหนี้ สถานที่หรือบุคคลที่ลูกหนี้ระบุไว้เพื่อการติดต่อทวงถามหนี้ วัน เวลา และจำนวนครั้งในการติดต่อทวงถามหนี้ อัตราค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายในการทวงถามหนี้ (ถ้ามี) สิทธิและช่องทางการร้องเรียนของลูกหนี้ และมาตรการลงโทษผู้ทวงถามหนี้หรือคู่สัญญาที่ธนาคารว่าจ้างหากไม่ปฏิบัติตามนโยบายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าธนาคารดำเนินการติดตามทวงถามหนี้อย่างเหมาะสม สุจริต และไม่กระทำการใดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและจริยธรรมอันดี

รายชื่อบริษัทภายนอกที่ได้รับจ้างจากธนาคารให้เป็นผู้ติดตามทวงถามหนี้บุคคลธรรมดาแทน*


  1. บริษัท ชลินท์ธรและที่ปรึกษา จำกัด (Chalinthon and counsellor Co., Ltd.)
  2. บริษัท สำนักกฎหมายประชาชน จำกัด (Prachachon Law Office Co., Ltd.)
  3. บริษัท กฎหมายธรรมศิริรัฐ จำกัด (Dharmsirirat Law Co., Ltd.)
  4. บริษัท นิสิต แอนด์ พาร์ทเนอร์ จำกัด (Nisit and Partners Co., Ltd.)
  5. บริษัท ลีดเดอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (Leader Group Co., Ltd.)
  6. บริษัท ลอว์เยอร์ สมาร์ท กรู๊ป จำกัด (Lawyer Smart Group Company Limited)
  7. บริษัท แม็คซ์กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MaxGroup Corporation Company Limited )
  8. บริษัท นิติรัฐ ลอว์ แอนด์ คอลเลคชั่น จำกัด (Nitirat Law and collection Co.,Ltd.)
  9. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.เอส.ซี ลอว์ (S.S.C.Law Office)
  10. บริษัท บาเก้น พอยท์ จำกัด (Bargain Point Co., Ltd.)
  11. บริษัท เดอะพรีเมี่ยม ซุปเปอร์ริช คอร์ปอเรชั่น จำกัด (The Premium Superrich Co., Ltd.)
  12. บริษัท ณัฐทรงรัฐ จำกัด (Nutsongrut Co., Ltd.)
  13. บริษัท ออล ควอลิตี้ จำกัด (All quality Co., Ltd.)

หมายเหตุ: *บริษัทภายนอกที่ธนาคารว่าจ้างเป็นเพียงผู้ดำเนินการติดต่อเพื่อชี้แจงและให้ข้อมูลเพื่อการทวงถามหนี้เท่านั้น หลักการว่าจ้างเป็นไปตามหลักเกณฑ์การใช้บริการจากผู้ให้บริการภายนอก (Outsourcing) ในการประกอบธุรกิจของสถาบันการเงินตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายชื่อบริษัทภายนอกโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
การจัดการเบาะแสหรือข้อร้องเรียน
ธนาคารกำหนดนโยบายการแจ้งเบาะแสหรือข้อร้องเรียน เพื่อเป็นแนวปฏิบัติให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มในการแจ้งเบาะแสหรือ ร้องเรียนที่เกี่ยวกับการกระทำของธนาคาร รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน และลูกจ้างของธนาคาร ที่สงสัยว่า เป็นการทุจริต การทำผิดกฎหมายหรือกฎระเบียบของทางการ การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจรรยาบรรณและจริยธรรมธุรกิจ นโยบายและ ระเบียบการปฏิบัติงานของธนาคาร การรายงานทางการเงินที่ไม่ถูกต้อง ตลอดจนการควบคุมภายในที่บกพร่อง ดังนี้


ในปี 2567 ธนาคารได้รับเรื่องร้องเรียนทั้งสิ้น 298 กรณี โดยได้พิจารณาแล้วเสร็จและยุติเรื่องแล้ว 278 กรณี แบ่งเป็นกรณี ที่เกิดจากการปฏิบัติงานบกพร่อง ผิดพลาด และล่าช้าของพนักงาน 20 กรณี เกิดจากระบบปฏิบัติงานบกพร่อง 11 กรณี ที่เหลืออีก 247 กรณี เกิดจากการที่ลูกค้าเข้าใจการปฏิบัติงานของธนาคาร คลาดเคลื่อนและสาเหตุอื่น ๆ ที่มิใช่ข้อบกพร่องของธนาคาร เช่น การปฏิเสธรายการใช้บัตรเครดิตและชำระสินค้าและบริการ และการขอตรวจสอบรายการในบัญชีเงินฝาก การเปิดบัญชี ปิดบัญชี และบัญชีอายัด

การจัดการข้อร้องทุกข์ของพนักงาน

ธนาคารจัดให้มีช่องทางร้องทุกข์เกี่ยวกับการถูกเลือกปฏิบัติ โดยไม่เป็นธรรมในการทำงาน และการถูกข่มขู่หรือคุกคามใน สถานที่ทำงานในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจา หรือทางเพศ โดยเมื่อเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ผู้ถูกกระทำสามารถแจ้งต่อผู้กระทำให้หยุดกระทำโดยทันที หากผู้กระทำยังไม่หยุด ผู้ถูกกระทำสามารถ รายงานหรือปรึกษาหัวหน้างานเพื่อหาทางจัดการแก้ไข และหากยังไม่สามารถจัดการแก้ไขจนเป็นที่พอใจ ผู้ถูกกระทำก็สามารถแจ้งร้องทุกข์ เป็นลายลักษณ์อักษรผ่านแรงงานสัมพันธ์ สายทรัพยากรบุคคล ซึ่งจะส่งเรื่องต่อไปยังคณะกรรมการวินิจฉัยเรื่องราวร้องทุกข์ (หน่วยงานแรงงานสัมพันธ์สอบสวนหาข้อเท็จจริงและนำข้อสรุปเข้าที่ประชุมคณะกรรมการวินิจฉัยเรื่องราวร้องทุกข์ภายใน 60 วัน นับจากวันที่รับเรื่องร้องทุกข์) หากคณะกรรมการวินิจฉัยเรื่องราว ร้องทุกข์พิจารณาว่ามีการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมหรือข่มขู่หรือคุกคาม เกิดขึ้นจริง และเป็นการทำที่ผิดระเบียบข้อบังคับของธนาคาร หรือผิดกฎหมาย ก็จะส่งเรื่องต่อไปยังสายตรวจสอบและควบคุม และต้นสังกัดของพนักงานเพื่อพิจารณาความผิดและโทษทางวินัย ซึ่งเริ่มจากการตักเตือน การลดค่าตอบแทน ไปจนถึงการให้ออกจากงาน ทั้งนี้ ธนาคารจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ที่เกี่ยวข้อง มีกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างโปร่งใสและเป็นธรรมมีการคุ้มครองและรักษาความลับของผู้ร้องทุกข์และมีการดูแลช่วยเหลือผู้ถูกกระทำอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม

ในปี 2567 ไม่มีกรณีร้องทุกข์ที่เกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติ โดยไม่เป็นธรรมและการถูกข่มขู่หรือคุกคาม

 

การจัดอบรม
การสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจแก่พนักงาน

ธนาคารส่งเสริมการสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจแก่พนักงาน ผ่านการจัดอบรมหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับการดำาเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม หลากหลายหลักสูตร เพื่อปลูกฝังวัฒนธรรมการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมในองค์กร ดังนี้



นอกจากนี้ ธนาคารยังได้จัดบรรยาย Executive Forum ด้าน AML / CFT ประจำาปี 2567 ในหัวข้อ “กฎหมายสำหรับ การควบคุมและมาตรการลงโทษระหว่างประเทศเกี่ยวกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงและสินค้าที่ใช้ได้สองทาง” ให้แก่ กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน จำนวน 937 คน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ทราบถึงข้อกำหนด กฎเกณฑ์ และแนวโน้มด้าน AML / CFT ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของธนาคาร และ วิธีการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าอย่างเข้มข้น เมื่อมีการทำธุรกรรมเกี่ยวข้องกับประเทศที่มีความเสี่ยงสูง และ บรรยาย Anti-Corruption Executive Virtual Forum ในหัวข้อ “บทบาทผู้บริหารและพนักงานในการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน” ให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของธนาคาร จำนวน 598 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บุคลากรของธนาคารได้ทราบและตระหนักถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามนโยบายต่อต้าน การทุจริตคอร์รัปชัน จรรยาบรรณ และจริยธรรมธุรกิจ

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณ
ในทุกธุรกรรมทางการเงิน

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณในทุกธุรกรรมทางการเงิน

คุณกำลังจะออกจากเว็บไซต์ธนาคารกรุงเทพ