ธนาคารตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลป้องกันความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อันอาจเกิดจากการดำเนินงานของคู่ค้าในห่วงโซ่อุปทานของธนาคาร ธนาคารได้กำหนดจรรยาบรรณของคู่ค้าเพื่อแสดงความคาดหวังที่ธนาคารมีต่อคู่ค้าในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ซึ่งรวมถึงการเคารพสิทธิมนุษยชน สิทธิแรงงาน และสิทธิชุมชน พร้อมทั้งสื่อสารและสนับสนุนให้คู่ค้าทุกรายดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบตามที่ระบุในจรรยาบรรณคู่ค้าของธนาคาร นอกจากนี้ ธนาคารยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความเสี่ยงด้าน ESG ในห่วงโซ่อุปทาน การส่งเสริมการจัดซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการจัดกิจกรรมความรู้ด้าน ESG ให้แก่คู่ค้าของธนาคาร เพื่อร่วมกันกับคู่ค้าในการสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มีความมั่นคง มีประสิทธิภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีคุณค่าต่อสังคม
“คู่ค้า” ในห่วงโซ่อุปทานของธนาคารแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ 1. คู่ค้า คือ ผู้ส่งมอบวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจของธนาคาร โดยดำเนินการผ่านส่วนจัดซื้อของธนาคาร 2. ผู้รับจ้าง คือ ผู้ให้บริการงานซ่อมแซม ปรับปรุง และดูแลรักษาอุปกรณ์และอาคารสำนักงานต่าง ๆ ของธนาคาร) และ 3. ผู้ให้บริการภายนอก คือ ผู้ดำเนินการแทนธนาคารในงานเฉพาะด้านบางประเภท ในปี 2566 ธนาคารมีคู่ค้าที่ขึ้นทะเบียนกับธนาคารทั้งสิ้น 2,713 ราย ประกอบด้วยคู่ค้าในประเทศ 2,317 ราย และคู่ค้าต่างประเทศ 396 ราย โดยในจำนวนคู่ค้าที่ขึ้นทะเบียนมีคู่ค้ารายใหม่ 64 ราย และธนาคารได้ทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับคู่ค้ารวม 1,130 ราย
การบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลในห่วงโซ่อุปทาน
การบริหารจัดการด้าน ESG ในห่วงโซ่อุปทานของธนาคารประกอบด้วย การคัดกรองคู่ค้ารายใหม่โดยการนำประเด็นสำคัญด้าน ESG มาประกอบการพิจารณา การประเมินความเสี่ยงของคู่ค้าที่มีนัยสำคัญต่อธุรกิจของธนาคารเป็นประจำควบคู่กับการจัดการความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ การสื่อสารจรรยาบรรณคู่ค้าให้คู่ค้าทุกรายรับทราบ รวมทั้งมีกระบวนการติดตามการปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ค้าและพร้อมสนับสนุนให้คู่ค้าทุกรายสามารถปฏิบัติตามได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ ธนาคารยังสนับสนุนให้คู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจของธนาคารยกระดับการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ โดยการเชิญชวนให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกภาคีเครือข่ายแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย

นอกจากนี้ ธนาคารได้กำหนดนโยบายการใช้บริการจากบุคคลภายนอกด้านงานทั่วไป ครอบคลุมหลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้ให้บริการ การบริหารความเสี่ยง การควบคุมภายใน การรักษาความปลอดภัยและความลับของข้อมูล ตลอดจนการใช้แรงงาน ธนาคารมอบหมายให้คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้บริการจากบุคคลภายนอกทำหน้าที่กำกับดูแลการใช้บริการจากบุคคลภายนอกให้เป็นไปตามนโยบายดังกล่าว หน่วยงานที่ใช้บริการจากบุคคลภายนอกมีหน้าที่นำเสนองานที่ต้องการใช้บริการและผู้ให้บริการที่มีความเหมาะสมต่อคณะกรรมการกลั่นกรอง ดูแลการปฏิบัติตามสัญญาจ้าง ตลอดจนติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินงานของคู่ค้า ตลอดจนติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องกับกฎหมายและจรรยาบรรณคู่ค้าของธนาคาร โดยธนาคารจะนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ประกอบการพิจารณาทบทวนทะเบียนคู่ค้าในรอบปีถัดไปหรือเมื่อครบสัญญาจ้าง ธนาคารได้นำหลักการการป้องกันสามชั้นมาใช้ในการบริหารจัดการความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานของธนาคาร หน่วยงานกำกับดูแลมีหน้าที่ดูแลการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปตามระเบียบของธนาคาร ตลอดจนกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานตรวจสอบทำหน้าที่ตรวจสอบการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่มีผู้ได้รับผลกระทบเชิงลบจากการดำเนินงานหรือกิจกรรมของคู่ค้าที่ดำเนินการภายใต้สัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับธนาคาร ผู้ที่ได้รับผลกระทบสามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนมายังช่องทางการรับเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ ของธนาคารได้
กระบวนการคัดเลือกคู่ค้า
ธนาคารเคารพสิทธิคู่ค้าและปฏิบัติต่อคู่ค้าอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม ธนาคารมีแนวทางการคัดกรองคู่ค้าที่ครอบคลุมประเด็นสำคัญอย่างครบถ้วน เช่น ความสามารถในการผลิตสินค้าและให้บริการ คุณภาพของสินค้าและบริการ ความมั่นคงและน่าเชื่อถือ ตลอดจนการดำเนินการด้าน ESG ของคู่ค้า คู่ค้าทุกรายทั้งรายใหม่และรายเดิมจะต้องทำแบบประเมินตนเองด้าน ESG ที่ครอบคลุมประเด็นสำคัญต่าง ๆ เช่น การบริหารจัดการผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม การเคารพสิทธิมนุษยชนตามหลักการและมาตรฐานสากล การเคารพสิทธิขั้นพื้นฐานในที่ทำงานตามอนุสัญญาหลักด้านสิทธิแรงงานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ การไม่ใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับ การป้องกันและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน การรับเรื่องร้องเรียน เป็นต้น คู่ค้าต้องผ่านเกณฑ์ประเมินตามที่ธนาคารกำหนดไว้ก่อนจึงจะสามารถขึ้นทะเบียนคู่ค้าและทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับธนาคารได้ หลังจากที่ผ่านการคัดกรองคู่ค้าแล้ว ธนาคารอาจเชิญคู่ค้ามานำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการพร้อมทั้งรับทราบแนวทางปฏิบัติต่อคู่ค้าของธนาคาร ธนาคารอาจมีการประเมินคุณสมบัติของคู่ค้าตามเกณฑ์การประเมินด้านศักยภาพการให้บริการและความน่าเชื่อถือเพิ่มเติม รวมทั้งอาจมีการเข้าเยี่ยมชมกิจการของคู่ค้าเพื่อตรวจสอบและประเมินผลเพิ่มเติมตามความเหมาะสม นอกจากนี้ ธนาคารได้นำวิธีการประมูลออนไลน์ (e-Auction) มาใช้ในการจัดซื้อเพื่อให้เกิดการแข่งขันที่โปร่งใสและเป็นธรรม
การประเมินความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลในห่วงโซ่อุปทาน
ธนาคารมีการประเมินความเสี่ยงด้าน ESG ของคู่ค้าเป็นประจำ โดยเน้นไปที่กลุ่มคู่ค้าที่มีความสำคัญสูง (Critical Supplier) ได้แก่ คู่ค้าที่ธนาคารซื้อสินค้าและบริการคิดเป็นมูลค่าสูง คู่ค้าที่ผลิตสินค้าและบริการที่จำเป็นต่อการดำเนินงานของธนาคาร และคู่ค้าที่ผลิตสินค้าและบริการซึ่งไม่สามารถหาจากแหล่งอื่นมาใช้ทดแทนได้ ธนาคารได้ระบุประเด็นความเสี่ยงที่สำคัญ โดยพิจารณาจากโอกาสในการเกิดและความรุนแรงของผลกระทบ ดังนี้ ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย 1. การปล่อยก๊าซเรือนกระจก 2. การจัดการด้านพลังงาน และ 3. การจัดการของเสียและวัตถุอันตราย ความเสี่ยงด้านสังคม ประกอบด้วย 1. สิทธิมนุษยชน 2. การปฏิบัติต่อพนักงานและ 3. อาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน ความเสี่ยงด้านธรรมาภิบาล ประกอบด้วย 1. การคอร์รัปชัน 2. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ 3. การทุจริต ในกรณีที่พบว่าความเสี่ยงอยู่ในระดับสูงกว่าที่ธนาคารยอมรับได้ ธนาคารจะพิจารณากำหนดมาตรการป้องกันความเสี่ยงเพิ่มเติมหรือที่เข้มข้นกว่าเดิม ในปี 2566 ความเสี่ยงด้าน ESG ของคู่ค้ายังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ อีกทั้งความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจของคู่ค้าไม่มีผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของธนาคาร
การจัดซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ธนาคารสนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือคาร์บอนต่ำ โดยได้ทำการจัดซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหลากหลายรายการ เช่น กระดาษถ่ายเอกสารที่ใช้เยื่อกระดาษที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แบบฟอร์มที่ผลิตจากกระดาษรีไซเคิล ผงหมึกพิมพ์ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมระดับสากล เครื่องแบบพนักงานที่ได้รับฉลากคูลโหมด เครื่องดับเพลิงแบบละอองน้ำชนิดปลอดสาร CFC ของที่ระลึกที่ผลิตโดยการอัพไซเคิล สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ วัสดุและเฟอร์นิเจอร์สำนักงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล