การแสดงความรับผิดชอบและสร้างคุณค่าต่อสังคม

ความมุ่งมั่น


การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยการสร้างคุณค่าร่วมกับสังคม การสนับสนุนชุมชนให้จัดการกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการสนับสนุนคู่ค้าให้ดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

ความสำคัญ


ความรับผิดชอบต่อสังคมของธนาคารนั้นมีขอบเขตกว้างขวางกว่าการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม เพราะยังรวมถึงการทำประโยชน์ในมิติอื่น ๆ ให้แก่สังคมด้วย ธนาคารมุ่งมั่นสร้างคุณค่าต่อสังคมผ่านการดำเนินโครงการที่หลากหลาย ทั้งที่ริเริ่มโดยธนาคารเองและที่เป็นความร่วมมือระหว่างธนาคารกับคู่ค้าหรือพันธมิตร โดยมุ่งหวังให้เกิดผลกระทบเชิงบวกในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม หรือศาสนาและศิลปวัฒนธรรม การดำเนินโครงการเพื่อสังคมเปิดโอกาสให้ธนาคารได้สานสัมพันธ์กับชุมชนจนเกิดเป็นความไว้วางใจ อีกทั้งยังสร้างแรงบันดาลใจให้แก่พนักงานธนาคารด้วย ในปี 2567 ธนาคารยังคงให้ความสำคัญกับโครงการที่ตอบโจทย์ความท้าทายสำคัญของประเทศ 3 ด้าน ได้แก่ การเข้าสู่สังคมอายุยืน ความเหลื่อมล้ำาทางเศรษฐกิจและสังคม และความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมถึงการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ธนาคารสืบสานโครงการเดิมและริเริ่มโครงการใหม่ที่เป็นประโยชน์ โดยมุ่งหวังว่าทุกโครงการจะมีส่วนช่วยพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมได้ไม่มากก็น้อย นอกจากการดำเนินโครงการเพื่อสังคมแล้ว ธนาคารยังแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมผ่านการจัดการห่วงโซ่อุปทานโดยคำนึงถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) พร้อมทั้งสนับสนุนให้คู่ค้าดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบตามที่ระบุในจรรยาบรรณคู่ค้าของธนาคาร
การบริหารจัดการ
ธนาคารกำหนดนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมทั้งสนับสนุนให้บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินของธนาคารนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละบริษัท ธนาคารพิจารณาดำเนินโครงการเพื่อสังคมโดยคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความสำคัญต่อชุมชนและสังคม เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ความสัมพันธ์กับหน่วยงานพันธมิตร และกลยุทธ์ทางธุรกิจและความเชี่ยวชาญของธนาคาร ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการต่าง ๆ จะสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกที่เป็นรูปธรรม อีกทั้งมีประโยชน์ต่อธนาคาร พนักงานที่เข้าร่วม และพันธมิตรที่ร่วมสนับสนุน ธนาคารมอบหมายให้ฝ่ายการประชาสัมพันธ์เป็นหน่วยงานกลางที่ทำหน้าที่ดูแลโครงการเพื่อสังคมของธนาคาร แต่ในขณะเดียวกันก็เปิดกว้างให้หน่วยงานอื่น ๆ สามารถริเริ่มโครงการของตนเองได้ด้วย
การดำเนินงานที่สำคัญ
การดำเนินงานเพื่อแสดงความรับผิดชอบและสร้างคุณค่าต่อสังคม

ธนาคารสนับสนุนให้พนักงานร่วมเป็นจิตอาสาในโครงการเพื่อสังคมตามความสนใจของพนักงาน โดยแบ่งโครงการออกเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ 1. การสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนและสังคม 2. การสนับสนุนบริการสุขภาพของกลุ่มเปราะบางและการพัฒนาทางการแพทย์ 3. การพัฒนาเยาวชนและส่งเสริมโอกาสทางการศึกษา 4. การสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคการเกษตรและเอสเอ็มอี 5. การส่งเสริมและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย และ 6. การทำนุบำรุงศาสนา โดยมีรายละเอียดดังนี้

  1. การสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนและสังคม

    • โครงการ Bualuang Save the Earth: รักษ์ท่าจีน

      ด้วยตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหาขยะทะเลที่ส่งผลต่อการดำรงชีวิตของสัตว์น้ำและมนุษย์ ธนาคารได้ริเริ่มการจัดการขยะบริเวณปากแม่น้ำท่าจีน ซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมต่ออ่าวไทย ภายใต้โครงการ “Bualuang Save the Earth: รักษ์ท่าจีน” ร่วมกับชุมชน หน่วยงาน ภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่ โดยได้เลือกพื้นที่คลองหลวงสหกรณ์และคลองพิทยาลงกรณ์ ตำบลโคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร เป็นพื้นที่นำร่อง ธนาคารได้จัดพิธีเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 ณ วัดสหกรณ์โฆสิตาราม โดยได้ส่งมอบเครื่องมือดักขยะในน้ำ ได้แก่ ทุ่นดักขยะ กระชังไม้ไผ่ดักขยะ และเครื่องมือดักขยะแบบปักหลัก พร้อมทั้งน้องจุดยักษ์เคลื่อนที่ ให้กับชุมชนไว้ใช้ในการจัดการขยะ ในปี 2567 เครื่องมือที่ได้ติดตั้งสามารถดักขยะในน้ำได้กว่า 27.4 ตัน ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการนำขยะไปฝังกลบได้ 95.79 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า โดยขยะที่สามารถรีไซเคิลได้จะถูกนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลต่อไป ในระยะต่อไป ธนาคารจะเดินหน้านำหลัก 3R: Reduce Reuse Recycle ไปใช้ในการจัดการขยะชุมชน ก่อนที่จะทิ้งลงแม่น้ำ โดยการสนับสนุนการจัดตั้งธนาคารขยะชุมชน เพื่อนาไปสู่การจัดการขยะอย่างครบวงจร อีกทั้งเป็นแหล่งรายได้ของชุมชน

       

    • การสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิอุทกพัฒน์

      ธนาคารร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน สานต่อพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยการสนับสนุนมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถ่ายทอดความรู้ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้แก่ชุมชนที่ขาดแคลนน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคและการเกษตร เพื่อให้สามารถรับมือกับปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งได้ อีกทั้งยังนำความสำเร็จไปถ่ายทอดต่อให้ชุมชนอื่น ๆ นำไปปรับใช้ ในปี 2567 ธนาคารสนับสนุนและมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ดังนี้ 1. โครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริระดับลุ่มน้ำ 2. โครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ ปีที่ 10 3. โครงการพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ 4. โครงการ เทิด ด้วย ทำ 5. โครงการถ่ายทอดและเผยแพร่ตัวอย่างความสำเร็จ และ 6. โครงการบริหารจัดการน้ำชุมชนสู่ความยั่งยืน

    • โครงการบัวหลวงร่วมชุมชนแก้ภัยแล้ง

      ธนาคารร่วมกับมูลนิธิบัวหลวงและมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ ดำเนินโครงการบัวหลวงร่วมชุมชนแก้ภัยแล้งต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ภายใต้แนวคิด “เปลี่ยนน้ำแล้ง...เป็นสุขล้น” เพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการน้ำของชุมชนผ่านการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ฝาย สระ อ่างเก็บน้ำ ระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบประปาภูเขา และระบบกรองน้ำดื่ม ให้แก่ 6 ชุมชน ใน 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พะเยา พิษณุโลก อุบลราชธานี ชัยภูมิ และจันทบุรี ครอบคลุมพื้นที่เกษตรกรรมกว่า 2,372 ไร่ มีผู้ได้รับประโยชน์กว่า 2,000 ครัวเรือน และมีปริมาณน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น 114,726 ลูกบาศก์เมตร

  2. การสนับสนุนบริการสุขภาพของกลุ่มเปราะบางและการพัฒนาทางการแพทย์

    • บัตรเครดิตและบัตรเดบิตที่สนับสนุนการเข้าถึงบริการทางการแพทย์

      ธนาคารให้การสนับสนุนโรงเรียนแพทย์ร่วมกับผู้ถือบัตรเครดิตไทเทเนียม โรงพยาบาลรามาธิบดี ธนาคารกรุงเทพ บัตรเครดิต วีซ่า แพลทินัม ศิริราช ธนาคารกรุงเทพ และบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท แรบบิท ศิริราช โดยธนาคารจะนำเงินค่าธรรมเนียมผู้ถือบัตรรายปี พร้อมสมทบเพิ่มอีกในอัตราร้อยละ 0.2 จากยอดใช้จ่ายผ่านบัตร ไปบริจาคให้แก่คณะแพทยศาสตร์ของโรงพยาบาล ณ สิ้นปี 2567 มีผู้ถือบัตรดังกล่าวรวมกว่า 1 ล้านราย ปี 2567 มียอดบริจาครวมกว่า 70 ล้านบาท ยอดบริจาคสะสมตั้งแต่เริ่มโครงการเท่ากับ 570 ล้านบาท

    • หน่วยแพทย์และทันตกรรมเคลื่อนที่

      หน่วยแพทย์และทันตกรรมเคลื่อนที่ ธนาคารร่วมสนับสนุนมูลนิธิหน่วยแพทย์และทันตแพทย์เคลื่อนที่ (มพท.) ในการจัดกิจกรรมออกหน่วยแพทย์และทันตแพทย์เคลื่อนที่ เพื่อให้บริการแก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่ชนบทและถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ ครอบคลุมการตรวจรักษาโรคทั่วไปและโรคเฉพาะทางบางโรค การอุดฟัน การถอนฟัน การผ่าฟันคุด การขูดหินปูน การเคลือบฟลูออไรด์ การเคลือบหลุมร่องฟัน และการใส่ฟันปลอม โดยไม่คิดค่ารักษาพยาบาล ในปี 2567 มีการออกหน่วยเคลื่อนที่รวม 4 ครั้ง ที่จังหวัดเชียงใหม่ ระนอง ชัยนาท และปราจีนบุรี

    •  

    • โครงการ 80 แสนซีซี 80 ปีธนาคารกรุงเทพ

      ธนาคารสนับสนุนการจัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ ณ อาคารสำนักงานใหญ่สีลม และอาคารพระราม 3 ร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย มาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 29 และในปี 2567 เนื่องในโอกาสครบรอบ 80 ปี ของการก่อตั้งธนาคาร ธนาคารจึงตั้งเป้าหมายการบริจาคไว้ที่ 80 แสนซีซี (8 ล้านซีซี) และด้วยความร่วมมือร่วมใจของผู้บริหารและพนักงาน ธนาคาร ลูกค้าและประชาชนทั่วไป ทำให้สามารถระดมยอดบริจาคโลหิตได้มากถึง 140 แสนซีซี นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของธนาคาร นอกจากนี้ ธนาคารยังมอบเงินจำนวน 100,000 บาท เพื่อร่วมจัดทำเสื้อยืดที่ระลึกมอบให้กับผู้บริจาคโลหิตเนื่องในโอกาส “วันผู้บริจาคโลหิตโลก ประจำปี 2567

    •  

  3. การพัฒนาเยาวชนและส่งเสริมโอกาสทางการศึกษา

    ธนาคารเชื่อมั่นว่าการศึกษาที่มีคุณภาพจะช่วยให้ประเทศพัฒนาได้อย่างยั่งยืน จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของครูและนักเรียน ร่วม “สร้างคุณค่า” และ “ร่วมพัฒนา” คุณภาพการศึกษาอย่างทั่วถึง

    • โครงการโรงเรียนคอนเน็กซ์อีดี

      “โรงเรียนคอนเน็กซ์อีดี” เป็นโครงการด้านการศึกษาที่ธนาคารให้ความสำคัญและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานธนาคารในการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาในโรงเรียนต่าง ๆ ธนาคารสนับสนุนให้ผู้จัดการสาขา 103 คน จาก 53 สาขา ทำหน้าที่เป็น School Partner ทำงานเชื่อมโยงกับครูและบุคลากรทางการศึกษากว่า 5,000 คน สนับสนุนให้เกิดกิจกรรมพัฒนาทักษะการเรียนรู้ใหม่หลายด้าน ครอบคลุมเด็กและเยาวชนกว่า 67,000 คน จาก 240 โรงเรียน ใน 54 จังหวัด

    • โครงการพัฒนาเชิงพื้นที่ “โรงเรียนโครงการกองทุนการศึกษา จ.บุรีรัมย์”

      ธนาคารน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลที่ 10 มาเป็นแนวทางการพัฒนาเครือข่าย “โรงเรียนโครงการกองทุนการศึกษา จ.บุรีรัมย์” โดยใช้โมเดลการพัฒนาเชิงพื้นที่ ธนาคารสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์กลางการเรียนรู้ชุมชน ที่โรงเรียนบ้านลำนางรอง อำเภอโนนดินแดง “โรงเรียนพี่” เพื่อให้ทำหน้าที่เชื่อมโยงและสนับสนุนโรงเรียนในเครือข่ายอีก 3 โรง “โรงเรียนน้อง” ธนาคาร ยังให้การสนับสนุนคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กแก่ “โรงเรียนน้อง” โรงเรียนละ 5 เครื่อง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการจัดการเรียนรู้ต่อไป

    • ทุนการศึกษาธนาคารกรุงเทพ

      ธนาคารมุ่งมั่นส่งเสริมการพัฒนาความรู้และโอกาสในการศึกษาต่อระดับปริญญาโทในสถาบันการศึกษาชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายในการมอบทุนการศึกษาให้แก่พนักงานและบุคคลทั่วไปปีละ 25 ทุน ในหลากหลายสาขาวิชา รวมถึงดิจิทัลและเทคโนโลยี ความยั่งยืน การบริหารธุรกิจ และการเงิน ในปี 2567 มีผู้รับทุนทั้งหมด 5 ทุน รวมมูลค่ากว่า 19 ล้านบาท นับถึงปัจจุบันธนาคารได้ มอบทุนการศึกษาไปแล้ว 196 ทุนรวมมูลค่ากว่า 345 ล้านบาท ผู้ได้รับทุนทั้งหมด (ร้อยละ 100) ได้กลับมาร่วมงานกับธนาคาร และมีนักเรียนทุนร้อยละ 29 สามารถเติบโตจากระดับพนักงานไปสู่ระดับบริหารได้

    • วิทยาศาสตร์เพื่ออนาคต

      ธนาคารร่วมสนับสนุนสมาคมเคมีแห่งประเทศไทย จัดโครงการฝึกอบรมเคมีแบบย่อส่วน (BBL-CST Small Scale Chemistry Workshop Program) สำหรับครูวิทยาศาสตร์ระดับมัธยมศึกษา ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2560 เพื่อพัฒนาความสามารถและเสริมประสบการณ์ให้กับครูวิทยาศาสตร์ อีกทั้งพัฒนาการเรียนการสอนในห้องเรียนและห้องปฏิบัติการเพื่อกระตุ้นให้นักเรียน เกิดความสนใจที่จะศึกษาค้นคว้าด้านเคมีในอนาคต จนถึงปัจจุบัน มีครูวิทยาศาสตร์เข้ารับการอบรมไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 2,100 คน จากประเทศไทย กัมพูชา เมียนมา เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เนปาล ศรีลังกา และอินเดีย

  4. การสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคการเกษตรและเอสเอ็มอี

    • โครงการเกษตรก้าวหน้า

      ธนาคารให้ความสำคัญกับการส่งเสริมภาคการเกษตรมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ธนาคารเริ่มสนับสนุนสินเชื่อการเกษตรตั้งแต่ปี 2505 และได้ริเริ่มโครงการเกษตรก้าวหน้าขึ้นในปี 2542 เพื่อทำงานส่งเสริมภาคการเกษตรอย่างจริงจัง ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน โครงการเกษตรก้าวหน้าได้ดำเนินงานในหลากหลายมิติ ครอบคลุมการสนับสนุนด้านความรู้เพื่อเพิ่มผลิตภาพและพัฒนาคุณภาพสินค้า การสนับสนุนการสร้างเครือข่ายเกษตรกรเพื่อแบ่งปันความรู้ และสร้างโอกาสทางการตลาดร่วมกัน และการสนับสนุนด้านการตลาดและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ผ่านการจัดกิจกรรมหลากหลายโดยเฉพาะงานสัมมนาและการศึกษาดูงาน ในปี 2567 ธนาคารได้จัดงานสัมมนาและงานเสวนาในหัวข้อที่น่าสนใจ เช่น “การก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลางของเกษตรกรไทย”, “เครือข่ายชาวนามืออาชีพ จ.ร้อยเอ็ด”, “ การจัดการสวนทุเรียนภาคใต้แบบมืออาชีพ” และ “Sustainability Era: การปรับตัวของภาคเกษตรไทยสู่ความยั่งยืน” มีผู้เข้าร่วมงานรวมกว่า 1,000 คน นอกจากนี้ ธนาคารยังจัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับการวางแผนทางการเงินที่เหมาะสมกับบริบทเฉพาะของภาคการเกษตรไทยให้แก่เกษตรกรรายย่อยบนพื้นที่สูงและผู้ที่อยู่ในห่วงโซ่คุณค่าของสินค้าเกษตรจำนวน 2 ครั้ง ด้วยความร่วมมือจากพันธมิตร ได้แก่ บริษัท ฮิลล์คอฟฟ์ จำกัด บริษัท ลำปางฟู้ด จำกัด และสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ธนาคารจัดงาน “วันเกษตรก้าวหน้า 67” เปิดพื้นที่บริเวณด้านหน้าอาคารสำนักงานใหญ่ สีลม ให้เกษตรกรได้นำสินค้ามาจำหน่ายให้ผู้บริโภคโดยตรง ภายใต้แนวคิด “80 ปี ธนาคาร กรุงเทพ เพื่อนคู่คิดมิตรคู่เกษตรไทย” ธนาคารได้คัดสรรสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพจากทั่วทุกภูมิภาคของไทย จำนวน 55 ร้านค้า ทั้งสินค้าเกษตรนวัตกรรม สินค้าชุมชน และสินค้าเกษตรปลอดภัยต่อสุขภาพ มาให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อ มีผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 2,000 คน สร้างยอดขายได้กว่า 3 ล้านบาท ภายในงานดังกล่าวยังจัดสัมมนาพิเศษ “เกษตรก้าวหน้า 2567” เพื่อเตรียมความพร้อมให้เกษตรกรไทยรับมือกับความท้าทายจากกติกาการค้าใหม่ด้านสิ่งแวดล้อมอย่าง EUDR และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI มาปรับใช้ในภาคการเกษตร ธนาคารได้มอบรางวัลเกษตรก้าวหน้า ปี 2567 ดังนี้ ประเภทเกษตรกรผู้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลดีเด่น ได้แก่ คุณธนโชติ ศรีรินทร์ชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.ที.ฟาร์ม จำกัด ประเภทผู้บริหารห่วงโซ่การผลิตทางการเกษตรดีเด่น ได้แก่ คุณ นฤมล ทักษอุดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิลล์คอฟฟ์ จำกัด ประเภทเกษตรกรรุ่นใหม่ดีเด่น ได้แก่ คุณสุจิต จิตทิชานนท์ กรรมการ บริษัท เนวิลล์ ฟู้ด เซอร์วิส จำกัด

    • ชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี

      ธนาคารมุ่งมั่นเสริมสร้างศักยภาพของเอสเอ็มอี พร้อมทั้งพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือ โดยการสนับสนุนการจัดตั้งและดำเนินงานของชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอีต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 20 ปี ธนาคารสนับสนุนการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของชมรม เช่น การจัดอบรมสัมมนา การศึกษาดูงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ การจับคู่ทางธุรกิจ การจัดทำาวารสาร SME NEWS และการเปิดพื้นที่บริเวณหน้าอาคารสำนักงานใหญ่ สีลม ให้สมาชิกชมรมนำสินค้ามาจำหน่ายให้กับพนักงานธนาคารและประชาชนทั่วไป และในโอกาสครบรอบ 80 ปีของการก่อตั้งธนาคาร ธนาคารได้เปิดพื้นที่ให้ชาวบัวหลวงเอสเอ็มอี 80 ราย มานำเสนอสินค้าและต่อยอดธุรกิจในงาน “บัวหลวงเอสเอ็มอีแฟร์ ครั้งที่ 15” ภายใต้แนวคิด “ปรับตัว เติบโต ยั่งยืน” มีผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 1,000 คน สร้างยอดขายในวันเดียวได้กว่า 10 ล้านบาท ในปี 2567 ธนาคารยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ของ ชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี โดยเฉพาะการจัดงานสัมมนาในหัวข้อที่เป็นที่สนใจของเอสเอ็มอีทั้งในรูปแบบออนไลน์และออนไซต์ เช่น “วิจัยนำการเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ความยั่งยืน”, “จีนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ SME ได้อย่างไร”, “จากรุ่นสู่รุ่นธุรกิจครอบครัวยุคดิจิทัล”, “Megatrend ที่สำคัญและการทำ Transformation สำหรับธุรกิจ SME”, “SME ไทยก้าวไกลด้วยนวัตกรรม”, “การเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของ SME ไปพร้อมกับการหยุดสภาวะโลกเดือดด้วยการดำเนินธุรกิจแบบคาร์บอนต่ำ”, “SME Green Productivity”, “SMART FACTORY AI ในยุคดิจิทัล” และ “Digital Transformation For SME” ทุกงานสัมมนาล้วนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากสมาชิกชมรมและผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิก มีผู้เข้าร่วมงานสัมมนาทั้งสิ้นกว่า 2,000 คน นอกจากนี้ ธนาคารร่วมกับธนาคารเพอร์มาตาสนับสนุนการจัดกิจกรรมศึกษาดูงานที่ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเรียนรู้ด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม สำรวจตลาดและเปิดโอกาสในการจับคู่ธุรกิจ มีเอสเอ็มอีเข้าร่วม 30 ราย

  5. การส่งเสริมและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

    • ศูนย์สังคีตศิลป์ ธนาคารกรุงเทพ

      ธนาคารก่อตังศูนย์สังคีตศิลป์ ธนาคารกรุงเทพ ขึ้นในปี 2522 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการอนุรักษ์และส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทย เช่น ดนตรีไทย นาฏศิลป์ ศิลปะการแสดง และการละเล่นพื้นบ้าน ศูนย์สังคีตศิลป์ ธนาคารกรุงเทพ ได้จัดหลากหลายกิจกรรมที่น่าสนใจ รวมถึงกิจกรรมสังคีตสราญรมย์ การประกวดดนตรีไทย “ประลองเพลง ประเลงมโหรี” และโครงการสร้างสรรค์วรรณศิลป์ “กวีปากกาทอง” อีกทั้งยังเผยแพร่ศิลปะการแสดงอันทรงคุณค่าผ่าน Facebook และ YouTube “ศูนย์สังคีตศิลป์ ธนาคารกรุงเทพ” ในปี 2567 ศูนย์สังคีตศิลป์ ธนาคารกรุงเทพ ร่วมกับกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดการประกวดดนตรีไทยระดับมัธยมศึกษา “ประลองเพลง ประเลงมโหรี” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 36 โดยมีเยาวชนให้ความสนใจเข้าร่วมประกวดเป็นจำนวนมาก จากการส่งเสริมการอนุรักษ์ดนตรีไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธนาคารได้รับรางวัล “องค์กรสนับสนุนการพัฒนาเด็ก และเยาวชนดีเด่น” ในงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2567 จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อประกาศเกียรติคุณในฐานะองค์กรที่ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน ด้วยการจัดการประกวดดนตรีไทยประเภท วงมโหรีระดับมัธยมศึกษา “ประลองเพลง ประเลงมโหรี” มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2529 จนถึงปัจจุบัน

    • โครงการรางวัลชมนาด ครั้งที่ 14

      ธนาคารร่วมกับบริษัท สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น จำกัด จัดโครงการประกวดรางวัลชมนาด ซึ่งเป็นรางวัลแห่งความสำเร็จของสตรีในแวดวงวรรณกรรมไทย เปิดเวทีให้นักเขียนหญิงไทยได้แสดงความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงาน และเปิดเส้นทางสานฝันสู่อาชีพนักเขียน ธนาคารมุ่งหวังว่าโครงการนี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเขียนหญิงรุ่นใหม่ อีกทั้งช่วยส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและยกระดับวงการวรรณกรรมไทยให้ทัดเทียมกับต่างประเทศ

  6. การทำนุบำรุงศาสนา

    • กิจกรรมทอดผ้าพระกฐินพระราชทาน

      ธนาคารน้อมถวายผ้าพระกฐินพระราชทานเพื่อร่วมสืบสานพระพุทธศาสนาเป็นประจำทุกปีต่อเนื่องเป็นปีที่ 58 โดยเป็นสถาบันการเงินแห่งแรกที่ได้รับสนองพระมหากรุณาธิคุณ ให้น้อมอัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวาย ยังพระอารามหลวงหมุนเวียนไปทั่วทุกภูมิภาค รวมถึงวัดไทยในต่างประเทศ ในปี 2567 ในวาระโอกาสครบรอบ 80 ปี ของการก่อตั้งธนาคาร ธนาคารได้รับพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวาย ณ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กรุงเทพมหานคร กรรมการ ผู้บริหารและพนักงานธนาคาร ลูกค้าและผู้มีจิตศรัทธา ทั่วประเทศ ได้ร่วมทำบุญกฐินพระราชทานประจำปี 2567 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 22,564,929 บาท

    • กิจกรรมถวายเครื่องสักการะเนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา

      ธนาคารให้ความสำคัญกับการอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาและธำรงรักษากิจกรรมทางพุทธศาสนา โดยเฉพาะการถวายสักการะพระเถระผู้ใหญ่ในโอกาสเทศกาลเข้าพรรษา ซึ่งถือเป็นประเพณีปฏิบัติประจำปีของธนาคาร ในปี 2567 ธนาคารได้นำเครื่องสักการะไปถวายแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อัมพร อมฺพโร) สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก องค์ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม พร้อมทั้งกรรมการ มหาเถรสมาคม (ม.ส.) 20 รูป ที่ปรึกษามหาเถรสมาคมและพระเถระผู้ใหญ่ รวมทั้งสิ้น 37 รูป จำพรรษา ณ 23 พระอาราม

    • พิธีฉลองเปรียญธรรม 9 ประโยค

      ธนาคารจัดพิธีฉลองพระเปรียญธรรม 9 ประโยคประจำปี 2567 เพื่อถวายมุทิตาธรรมสักการะและร่วมแสดงความชื่นชมยินดีแด่พระภิกษุสามเณรผู้สำเร็จปริญญาบัณฑิต ระดับเปรียญธรรม 9 ประโยค ต่อเนื่องเป็นปีที่ 51 โดยในปีนี้ พระพรหมโมลี เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ กรรมการมหาเถรสมาคม แม่กองบาลีสนามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายสิงห์ ตังทัตสวัสดิ์ รองประธานกรรมการบริหารของธนาคาร เป็นประธานฝ่ายฆราวาส มีพระภิกษุและสามเณรสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค ทั้งสิ้น 76 รูป รวมถึงสามเณรภานุวัฒน์ กองทุ่งมน อายุ 17 ปี จากวัดโมลีโลกยาราม ซึ่งเป็นสามเณรอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค
การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน

ธนาคารให้ความสำคัญกับการจัดการความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) อันเนื่องมาจากการดำเนินงานของคู่ค้าของธนาคาร ธนาคารได้จัดทำจรรยาบรรณของคู่ค้าที่ครอบคลุมประเด็นด้าน ESG รวมถึงการเคารพสิทธิมนุษยชน สิทธิแรงงานและสิทธิชุมชน และเพื่อแสดงความคาดหวังที่ธนาคารมีต่อการดำเนินงานของคู่ค้า ธนาคารได้สื่อสารจรรยาบรรณคู่ค้าไปยังคู่ค้าทุกราย และยินดีที่จะสนับสนุนคู่ค้าในดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบตามที่ระบุในจรรยาบรรณคู่ค้าของธนาคาร นอกจากนี้ ธนาคารส่งเสริมการจัดซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งจัดกิจกรรมความรู้ด้าน ESG ให้แก่คู่ค้าของธนาคารเป็นประจำทุกปี เพื่อร่วมกันสร้างห่วงโซ่อุปทานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

“คู่ค้า” ในห่วงโซ่อุปทานของธนาคารแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ 1. คู่ค้า คือ ผู้ส่งมอบวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจของธนาคาร โดยดำเนินการผ่านส่วนจัดซื้อของธนาคาร 2. ผู้รับจ้าง คือ ผู้ให้บริการงานซ่อมแซม ปรับปรุง และดูแลรักษาอุปกรณ์และอาคารสำนักงานต่าง ๆ ของธนาคาร) และ 3. ผู้ให้บริการภายนอก คือ ผู้ดำเนินการแทนธนาคารในงานเฉพาะด้านบางประเภท ในปี 2567 ธนาคารมีคู่ค้าที่ขึ้นทะเบียนกับธนาคารทั้งสิ้น 2,756 ราย ประกอบด้วยคู่ค้าในประเทศ 2,357 ราย และคู่ค้าต่างประเทศ 399 ราย โดยในจำนวนคู่ค้าที่ขึ้นทะเบียนมีคู่ค้ารายใหม่ 35 ราย และธนาคารได้ทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับคู่ค้ารวม 1,398 ราย

การบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลในห่วงโซ่อุปทาน

การจัดการด้าน ESG ในห่วงโซ่อุปทานของธนาคารมีกระบวนการ ดังต่อไปนี้ การคัดกรองคู่ค้ารายใหม่ ซึ่งมีการนำประเด็นสำคัญด้าน ESG มาประกอบการพิจารณาการประเมินความเสี่ยงด้าน ESG ของคู่ค้าที่มีนัยสำคัญต่อธุรกิจของธนาคารเป็นประจำ การจัดการความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้การสื่อสาร จรรยาบรรณคู่ค้าให้คู่ค้าทุกรายรับทราบ รวมทั้งมีกระบวนการติดตามการปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ค้า ธนาคารสนับสนุนให้คู่ค้าทุกรายปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ค้าอย่างครบถ้วน อีกทั้งสนับสนุนให้คู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจของธนาคารยกระดับการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ โดยการเชิญชวนให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกภาคีเครือข่ายแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย ธนาคารได้กำหนดนโยบายการใช้บริการจากบุคคลภายนอก ด้านงานทั่วไป ครอบคลุมหลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้ให้บริการ การบริหารความเสี่ยง การควบคุมภายใน การรักษาความปลอดภัยและความลับของข้อมูล ตลอดจนการปฏิบัติด้านแรงงาน คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้บริการจากบุคคลภายนอกมีหน้าที่กำกับดูแลการใช้บริการจากบุคคลภายนอก หน่วยงานที่ต้องการใช้บริการจากบุคคลภายนอกจะทำเป็นผู้นำเสนองานที่ต้องการใช้บริการและผู้ให้บริการที่มีความเหมาะสมต่อคณะกรรมการกลั่นกรอง อีกทั้งต้องดูแลการปฏิบัติตามสัญญาจ้าง ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินงานของคู่ค้า และติดตาม ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องกับกฎหมาย และจรรยาบรรณคู่ค้าของธนาคาร ซึ่งจะถูกนำไปใช้ประกอบการพิจารณาทบทวนทะเบียนคู่ค้าในรอบปีถัดไปหรือเมื่อครบสัญญาจ้าง นอกจากนี้ ธนาคารได้นำหลักการการป้องกันสามชั้นมาใช้ในการจัดการความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานของธนาคาร โดยหน่วยงานกำกับดูแลมีหน้าที่ดูแลการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปตามระเบียบของธนาคาร ตลอดจนกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานตรวจสอบมีหน้าที่ตรวจสอบการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่มีผู้ได้รับผลกระทบเชิงลบจากการดำเนินงานหรือกิจกรรมของคู่ค้าที่ดำเนินการภายใต้สัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับธนาคาร ผู้ที่ได้รับผลกระทบสามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนมายังช่องทางการรับเรื่องร้องเรียนของธนาคารได้



กระบวนการคัดเลือกคู่ค้า

ในกระบวนการคัดเลือกคู่ค้า ธนาคารมีแนวทางการคัดกรองที่ครอบคลุมประเด็นสำคัญอย่างครบถ้วน เช่น คุณภาพของสินค้าและบริการ ความมั่นคงและน่าเชื่อถือ ความสามารถในการผลิตสินค้าและให้บริการ ตลอดจนการดำเนินการด้าน ESG ของคู่ค้า คู่ค้าทุกรายทั้งรายใหม่ และรายเดิมจะต้องทำแบบประเมินตนเองด้าน ESG ที่ครอบคลุมประเด็นสำคัญต่าง ๆ เช่น การบริหารจัดการผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม การเคารพสิทธิมนุษยชนตามหลักการและมาตรฐานสากล การเคารพสิทธิขั้นพื้นฐานในที่ทำงานตามอนุสัญญาหลักด้านสิทธิแรงงานขององค์การ แรงงานระหว่างประเทศ การไม่ใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับ การป้องกันและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน การรับเรื่องร้องเรียน เป็นต้น คู่ค้าต้องผ่านเกณฑ์ประเมินตามที่ธนาคารกำหนดไว้ก่อนจึงจะสามารถขึ้นทะเบียนคู่ค้าและทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับธนาคารได้ หลังจากที่ผ่านการคัดกรองคู่ค้าแล้ว ธนาคารจะเชิญคู่ค้ามานำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการพร้อมทั้งให้รับทราบ แนวทางปฏิบัติต่อคู่ค้าของธนาคาร ทั้งนี้ ธนาคารอาจมีการประเมินคุณสมบัติของคู่ค้าตามเกณฑ์การประเมินด้านศักยภาพการให้บริการและความน่าเชื่อถือเพิ่มเติม รวมทั้งอาจมีการเข้าเยี่ยมชมกิจการของคู่ค้าเพื่อตรวจสอบและประเมินตามความเหมาะสม

การประเมินความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลในห่วงโซ่อุปทาน

ธนาคารมีการประเมินความเสี่ยงด้าน ESG ของคู่ค้าเป็นประจำ โดยเน้นไปที่กลุ่มคู่ค้าที่มีความสำคัญสูง (Critical Supplier) ได้แก่ คู่ค้าที่ธนาคารซื้อสินค้าและบริการคิดเป็นมูลค่าสูง คู่ค้าที่ผลิตสินค้าและบริการที่จำเป็นต่อการดำเนินงานของธนาคาร และคู่ค้าที่ผลิตสินค้าและบริการซึ่งไม่สามารถหาจากแหล่งอื่นมาใช้ทดแทนได้ ธนาคารได้ระบุประเด็นความเสี่ยงที่สำคัญ โดยพิจารณาจากโอกาสในการเกิดและความรุนแรงของผลกระทบ ดังนี้

  • ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย 1. การปล่อยก๊าซเรือนกระจก 2. การจัดการด้านพลังงาน และ 3. การจัดการของเสียและวัตถุอันตราย
  • ความเสี่ยงด้านสังคม ประกอบด้วย 1. สิทธิมนุษยชน 2. การปฏิบัติต่อพนักงาน และ 3. อาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน
  • ความเสี่ยงด้านธรรมาภิบาล ประกอบด้วย 1. การคอร์รัปชัน 2. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ 3. การทุจริต

ในกรณีที่พบว่าความเสี่ยงอยู่ในระดับสูงกว่าที่ธนาคารยอมรับได้ ธนาคารจะพิจารณากำหนดมาตรการป้องกันความเสี่ยงเพิ่มเติมหรือกำหนดให้เข้มข้นกว่าเดิม ในปี 2567 ความเสี่ยงด้าน ESG ของคู่ค้าอยู่ในระดับที่ยอมรับได้และความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจของคู่ค้าไม่มีนัยสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของธนาคาร

การจัดซื้อที่โปร่งใสและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ธนาคารได้นำวิธีการประมูลออนไลน์มาใช้ในการจัดซื้อเพื่อให้เกิดการแข่งขันที่โปร่งใสและเป็นธรรม อีกทั้งสนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือคาร์บอนต่ำ ธนาคารได้ทำการจัดซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหลากหลายรายการ เช่น กระดาษถ่ายเอกสารที่ใช้เยื่อกระดาษที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แบบฟอร์มที่ผลิตจากกระดาษรีไซเคิล ผงหมึกพิมพ์ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมระดับสากล เครื่องแบบพนักงานที่ได้รับฉลากคูลโหมด เครื่องดับเพลิงแบบละอองน้ำาชนิดปลอดสาร CFC ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยกระบวนการรีไซเคิลและอัพไซเคิล การเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์น้ำดื่มเป็นขวด rPET สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ วัสดุที่ใช้ในอาคารสำนักงานที่ได้รับมาตรฐานการออกแบบเพื่อความเป็นผู้นําทางด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม เฟอร์นิเจอร์สำนักงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลด้านสิ่งแวดล้อม

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณ
ในทุกธุรกรรมทางการเงิน

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณในทุกธุรกรรมทางการเงิน

คุณกำลังจะออกจากเว็บไซต์ธนาคารกรุงเทพ