การกำกับดูแลกิจการ

ความมุ่งมั่น


การปลูกฝังธรรมาภิบาลที่ดีในองค์กร ซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายในประเทศและมาตรฐานสากล เพื่อสร้างความไว้วางใจแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม พร้อมทั้งสร้างสรรค์คุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่ลูกค้าและสังคม

ความสำคัญ


การดำเนินธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใสตรวจสอบได้ นำไปสู่การบรรลุเป้าหมายขององค์กร รวมถึงสามารถสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้มีส่วนได้เสียภายใต้กระแสความท้าทายด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน ธนาคารมุ่งมั่นปฏิบัติตามกฎหมาย หลักเกณฑ์ และแนวทางปฏิบัติด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี ควบคู่กับการส่งเสริมวัฒนธรรมด้านธรรมาภิบาลที่ดีให้เกิดขึ้นทั่วทั้งองค์กร ผ่านการเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีอย่างต่อเนื่องแก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน เพื่อให้ธนาคารสามารถรับมือกับความเสี่ยงและฉกฉวยโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น มีผลประกอบการที่ดี มีความน่าเชื่อถือ และสามารถสร้างคุณค่าระยะยาวให้แก่สังคมและธนาคารเอง
นโยบายการกำกับดูแลกิจการ
เนื่องจากการกำกับดูแลกิจการที่ดีเป็นรากฐานสำคัญของการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กร ธนาคารจึงได้กำหนดนโยบายการกำกับดูแลกิจการพร้อมทั้งแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องกับกฎหมายและหลักการด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี ครอบคลุมหลักการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสีย การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส ความรับผิดชอบของคณะกรรมการ การควบคุมภายในและการบริหารความเสี่ยง และ จรรยาบรรณและจริยธรรมธุรกิจ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องสามารถปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ ธนาคารได้มอบหมายให้คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการทำหน้าที่กำหนดและทบทวนนโยบายและแนวทางปฏิบัติดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์และหลักเกณฑ์ของทางการ รวมทั้งทำหน้าที่ติดตามและทบทวนการปฏิบัติตามหลักการด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีของธนาคาร
โครงสร้างการกำกับดูแล

คณะกรรมการธนาคาร


คณะกรรมการธนาคารเป็นผู้บริหารสูงสุดของธนาคาร มีหน้าที่และความรับผิดชอบในการกำหนดและทบทวนวิสัยทัศน์ ภารกิจ นโยบาย เป้าหมายและทิศทางการดำเนินธุรกิจของธนาคาร การพิจารณาอนุมัติกลยุทธ์และแผนธุรกิจของธนาคาร และการกำกับดูแลการดำเนินงานให้เป็นไปตามกฎหมาย ข้อบังคับของธนาคาร และมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้น

 

คณะกรรมการธนาคาร


คณะกรรมการชุดย่อยได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการธนาคารเพื่อทำหน้าที่เสนอความเห็น ติดตาม และกำกับดูแลการดำเนินงานของธนาคาร ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการธนาคาร รวมทั้งรายงานผลการปฏิบัติงานและข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการธนาคารอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้คณะกรรมการธนาคารสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล คณะกรรมการชุดย่อยของธนาคารประกอบด้วย 5 คณะ ดังนี้

 

  • คณะกรรมการบริหาร มีหน้าที่ปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการธนาคาร รวมถึงพิจารณาอนุมัติการให้สินเชื่อ การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ การลงทุน ตลอดจนการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของธนาคาร และพิจารณาเรื่องอื่นซึ่งกำหนดให้ต้องได้รับการอนุมัติหรือความเห็นชอบจากคณะกรรมการธนาคารหรือที่ประชุมผู้ถือหุ้นตามกฎหมายหรือข้อบังคับของธนาคาร
  • คณะกรรมการตรวจสอบ มีหน้าที่สอบทานรายงานทางการเงินและการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดต่าง ๆ ของธนาคารให้มีความถูกต้อง สอบทานและประเมินผลให้มีระบบควบคุมและตรวจสอบภายในที่เหมาะสมและมีประสิทธิผล พิจารณารายการที่เกี่ยวโยงกันหรืออาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อกำหนดของทางการ ตลอดจนพิจารณาคัดเลือกและประสานงานกับผู้สอบบัญชีของธนาคาร
  • คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน มีหน้าที่พิจารณาคัดเลือกและเสนอชื่อบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการธนาคาร กรรมการในคณะกรรมการชุดย่อยต่าง ๆ และผู้บริหารระดับสูง รวมทั้งพิจารณาค่าตอบแทนและผลประโยชน์อื่นที่เหมาะสมสำหรับกรรมการธนาคาร กรรมการชุดย่อย และผู้บริหารระดับสูง
  • คณะกรรมการกำกับความเสี่ยง มีหน้าที่กำกับดูแลการบริหารความเสี่ยงของธนาคารให้เป็นไปอย่างมีระบบและต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และเป็นไปตามแผนกลยุทธ์และนโยบายบริหารความเสี่ยงโดยรวมของธนาคาร
  • คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการ มีหน้าที่สนับสนุนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการธนาคารในด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีและด้านความยั่งยืน โดยการดูแลให้หลักการด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีและด้านความยั่งยืนมีผลในทางปฏิบัติ การพิจารณาแผนยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนที่เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจของธนาคาร และการให้ความคิดเห็นต่อคณะกรรมการธนาคารในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและโอกาสด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล

 

การแบ่งแยกบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบ


ธนาคารมีการแบ่งแยกบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบระหว่างคณะกรรมการธนาคารและฝ่ายจัดการอย่างชัดเจน รวมทั้งแบ่งแยกตำแหน่งและอำนาจหน้าที่ของประธานกรรมการธนาคาร ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ โดยทั้งสามตำแหน่งไม่ได้เป็นบุคคลเดียวกัน เพื่อประสิทธิภาพและความโปร่งใสของการกำกับดูแลและการดำเนินงานภายในธนาคาร ฝ่ายจัดการมีหน้าที่ขับเคลื่อนและบริหารงานให้เป็นไปตามนโยบาย กลยุทธ์ และเป้าหมายที่ได้รับการอนุมัติโดยคณะกรรมการธนาคาร รวมทั้งพิจารณากำหนดแนวทางการดำเนินงาน แผนปฏิบัติการ ระบบงาน กระบวนการทำงาน ตลอดจนการบริหารทรัพยากรบุคคลและทรัพยากรอื่น ๆ ให้มีความเหมาะสมและสามารถนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ ฝ่ายจัดการยังมีหน้าที่ดำเนินการต่าง ๆ ภายใต้ขอบเขตอำนาจที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการธนาคาร
โครงสร้างและการส่งเสริมความหลากหลายของคณะกรรมการธนาคาร

โครงสร้างคณะกรรมการธนาคาร


ธนาคารกำหนดโครงสร้าง ขนาด และองค์ประกอบของคณะกรรมการให้เหมาะสมกับบริบททางธุรกิจของธนาคารและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแล ธนาคารกำหนดให้มีกรรมการอิสระอย่างน้อย 1 ใน 3 ของจำนวนกรรมการธนาคารทั้งหมด และกรรมการอิสระต้องมีคุณสมบัติตามข้อกำหนดของสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนมีหน้าที่คัดเลือกและเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งกรรมการธนาคารตามกระบวนการและหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยการคัดเลือกจะพิจารณาจากคุณสมบัติด้านความรู้ ความสามารถ และทักษะในสาขาวิชาชีพเฉพาะที่ธนาคารต้องการโดยใช้ตารางทักษะการทำงาน (Board Skill Matrix) รวมถึงพิจารณาจากประสบการณ์ทำงานที่สอดคล้องกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของธนาคาร และพิจารณาคุณสมบัติตามข้อกำหนดของทางการที่เกี่ยวข้อง ธนาคารจะเสนอชื่อบุคคลที่ผ่านการพิจารณาแล้วต่อธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อขอความเห็นชอบก่อนจะเสนอขออนุมัติแต่งตั้งเป็นกรรมการ

 

 

การส่งเสริมความหลากหลายของคณะกรรมการธนาคาร


ธนาคารตระหนักดีว่าคณะกรรมการที่มีความหลากหลายจะทำให้มีมุมมองที่แตกต่าง กว้างขวาง และครอบคลุมทุกมิติที่มีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของธนาคาร อันจะนำมาซึ่งการกำกับดูแลกิจการที่มีประสิทธิผลและผลประกอบการที่ดี ธนาคารจึงกำหนดนโยบายความหลากหลายของคณะกรรมการเพื่อเป็นหลักในการพิจารณาสรรหาและคัดเลือกกรรมการธนาคาร โดยกำหนดให้คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนพิจารณาคุณสมบัติของกรรมการธนาคารโดยคำนึงถึงความหลากหลายในด้านต่าง ๆ เช่น ทักษะ ความรู้ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ การศึกษา เพศ อายุ และวัฒนธรรม ตลอดจนมีการพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของโครงสร้าง ขนาด และความหลากหลายของคณะกรรมการธนาคารเป็นระยะ เพื่อพิจารณากำหนดแนวทางดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป
ประสิทธิภาพของคณะกรรมการธนาคาร
การประชุมคณะกรรมการ

ธนาคารกำหนดให้กรรมการทุกท่านมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการ โดยจะต้องเข้าประชุมไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของจำนวนการประชุมในรอบปีอันเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการเป็นประจำทุกเดือน พร้อมกำหนดนัดหมายการประชุมรอบปีไว้ล่วงหน้า เพื่อให้กรรมการสามารถจัดสรรเวลาเข้าร่วมประชุมได้อย่างพร้อมเพรียง และในการประชุมแต่ละครั้ง เลขานุการบริษัทจะจัดส่งหนังสือเชิญประชุมพร้อมเอกสารประกอบให้แก่กรรมการล่วงหน้าก่อนการประชุม เว้นแต่วาระที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ในปี 2566 มีจำนวนการประชุมคณะกรรมการทั้งสิ้น 12 ครั้ง กรรมการทุกท่านเข้าร่วมการประชุมมากกว่าร้อยละ 75 ของจำนวนการประชุมในรอบปี ค่าเฉลี่ยของสัดส่วนการเข้าร่วมประชุมของคณะกรรมการธนาคารเท่ากับร้อยละ 97.92 ของจำนวนการประชุมในรอบปี

การประเมินผลการปฏิบัติงาน

ธนาคารกำหนดให้มีการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการเป็นประจำทุกปี เพื่อให้กรรมการทุกท่านมีโอกาสทบทวนการปฏิบัติหน้าที่ในรอบปีที่ผ่านมา และนำผลการประเมินที่ได้รับมาใช้ในการพัฒนาการปฏิบัติหน้าที่ของตน ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคณะกรรมการธนาคาร การประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการธนาคารมี 2 วิธี คือ 1) การประเมินตนเองของกรรมการธนาคารทั้งคณะและรายบุคคล และ 2) การประเมินกรรมการท่านอื่นโดยใช้วิธีประเมินแบบไขว้ โดยทั้ง 2 วิธีใช้แบบประเมินที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการธนาคาร เลขานุการบริษัทมีหน้าที่จัดส่งและรวบรวมแบบประเมินกลับคืน พร้อมทั้งนำส่งให้แก่คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนเพื่อประมวลและสรุปผลการประเมิน และรายงานผลให้คณะกรรมการธนาคารรับทราบ

การพัฒนากรรมการธนาคาร

ธนาคารให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้กรรมการทุกท่านพัฒนาทักษะความรู้อย่างสม่ำเสมอ โดยการสนับสนุนให้เข้าร่วมอบรมหลักสูตรที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกรรมการ เช่น หลักสูตร Director Certification Program และหลักสูตร Director Accreditation Program ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย อีกทั้งยังสนับสนุนให้เข้าร่วมกิจกรรมอบรมและสัมมนาที่จัดขึ้นโดยหน่วยงานภายในและภายนอกองค์กร เพื่อพัฒนาทักษะความรู้ด้านต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการธนาคาร

การประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่และกำหนดค่าตอบแทนของผู้บริหารระดับสูง

คณะกรรมการธนาคารทำหน้าที่เป็นผู้ประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ โดยใช้แบบประเมินที่จัดทำขึ้นตามแนวทางของแบบประเมิน CEO ที่เผยแพร่โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หัวข้อหลักในการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ เช่น ความเป็นผู้นำ การกำหนดกลยุทธ์ การปฏิบัติตามกลยุทธ์ การวางแผนและผลปฏิบัติทางการเงิน ความสัมพันธ์กับคณะกรรมการ เป็นต้น ทั้งนี้ ประธานคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนจะเป็นผู้แจ้งผลการประเมินให้ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ทราบ คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนทำหน้าที่พิจารณากำหนดและนำเสนอค่าตอบแทนที่เหมาะสมของผู้บริหารตั้งแต่ระดับผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ รองผู้จัดการใหญ่ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไปจนถึงประธานกรรมการบริหาร เพื่อนำเสนอให้คณะกรรมการธนาคารพิจารณา การกำหนดค่าตอบแทนจะเชื่อมโยงกับตัวชี้วัดผลการดำเนินงานของธนาคารทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารแต่ละท่าน เช่น ตัวชี้วัดด้านการเงิน ด้านลูกค้า ด้านการปรับปรุงและพัฒนากระบวนการทำงาน ด้านการพัฒนาบุคลากร อัตรากำไรสุทธิต่อสินทรัพย์ (ROA) การเติบโตของรายได้ การเติบโตของสินเชื่อ คุณภาพของสินทรัพย์ ความพึงพอใจของลูกค้า การบริหารค่าใช้จ่าย ตลอดจนตัวชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของธนาคารเมื่อเทียบกับสถาบันการเงินและบริษัทชั้นนำอื่น ๆ ในประเทศไทย เช่น ผลตอบแทนผู้ถือหุ้นโดยรวม
การเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรด้านธรรมาภิบาลที่ดี
ธนาคารส่งเสริมและสนับสนุนให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคน มีความเข้าใจและยึดมั่นในหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ตลอดจนปฏิบัติตามนโยบายและแนวทางปฏิบัติด้านการกำกับดูแลกิจการของธนาคารอย่างเคร่งครัดจนเกิดเป็นวัฒนธรรมองค์กร ในการสร้างสรรค์วัฒนธรรมด้านธรรมาภิบาลที่ดีให้เกิดขึ้นในองค์กร ธนาคารมุ่งเน้นการสื่อสารนโยบายและแนวทางปฏิบัติที่ดีไปสู่ผู้บริหารและพนักงานทุกคน และสนับสนุนให้กรรมการและผู้บริหารเข้ารับการอบรมหรือเข้าร่วมสัมมนาในหัวข้อที่เกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการ รวมทั้งสนับสนุนให้ผู้บริหารและพนักงานทั้งองค์กรเรียนรู้หลักสูตรต่าง ๆ ที่ช่วยเสริมความเข้าใจในการปฏิบัติงานภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เช่น หลักสูตรการต่อต้านคอร์รัปชัน หลักสูตรการป้องกันการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง หลักสูตรจรรยาบรรณธุรกิจ หลักสูตรการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเป็นธรรม หลักสูตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น ความมุ่งมั่นตั้งใจพัฒนาการกำกับดูแลกิจการที่ดีอย่างต่อเนื่องของธนาคารสะท้อนให้เห็นได้จากการได้รับผลการสำรวจตามโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนประจำปี 2566 โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ในระดับ “ดีเลิศ”

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณ
ในทุกธุรกรรมทางการเงิน

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณในทุกธุรกรรมทางการเงิน

คุณกำลังจะออกจากเว็บไซต์ธนาคารกรุงเทพ