ธนาคารกำหนดให้ความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศอันรวมถึงความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์เป็นประเด็นความเสี่ยงหลักที่ต้องมีการบริหารจัดการอย่างรัดกุม พร้อมทั้งกำหนดกรอบการบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศและความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เทียบเท่ากับมาตรฐานสากล นอกจากนี้ ธนาคารได้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการเฝ้าระวังและตรวจจับสถานการณ์หรือเหตุผิดปกติที่อาจสร้างความเสียหายต่อข้อมูลและระบบสารสนเทศของธนาคาร รวมทั้งมีการกำหนดมาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลในการให้บริการธนาคารทั้งระบบและมีการตรวจประเมินมาตรฐานดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอทั้งก่อนและหลังการให้บริการ ความมุ่งมั่นตั้งใจในการดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้ส่งผลให้ธนาคารได้รับรางวัลจากกิจกรรม “Prime Minister Awards: Thailand Cybersecurity Excellence Awards 2023” ที่จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ จำนวน 4 รางวัล ได้แก่ 1. รางวัล Cybersecurity Performance Excellence Awards 2023 หน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ (CII) 2. รางวัล Best Cybersecurity Performance Awards 2023 หน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ ด้านการเงินการธนาคาร (Banking and Finance) 3. รางวัล Best Cybersecurity Performance Awards 2023 หน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ สาขาการดำเนินการด้านความร่วมมือความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Cooperation) และ 4. รางวัล Best Cybersecurity Performance Awards 2023 หน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ สาขาการดำเนินการด้านการพัฒนาศักยภาพ
การกำกับดูแลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์
เพื่อให้การจัดการด้านความปลอดภัยของเทคโนโลยีสารสนเทศและความปลอดภัยทางไซเบอร์มีประสิทธิผล และสอดคล้องตามนโยบายและหลักการที่ธนาคารวางไว้ ธนาคารได้กำหนดขอบเขตความรับผิดชอบของผู้เกี่ยวข้องตั้งแต่ระดับคณะกรรมการจนถึงระดับจัดการ ดังนี้

นโยบายและมาตรการดูแลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์
ธนาคารจัดทำนโยบายความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศและความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ISO/IEC 27002 เพื่อเป็นแนวทางในการบริหารจัดการด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศและรับมือกับการโจมตีทางไซเบอร์ พร้อมทั้งจัดทำคู่มือการรักษาความปลอดภัยสารสนเทศและความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Information Security and Cybersecurity Handbook) เพื่อเป็นแนวทางสำหรับพนักงานในการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับนโยบายของธนาคาร ธนาคารกำหนดให้มีการพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของนโยบายเป็นประจำทุกปี เพื่อให้นโยบายครอบคลุมถึงเทคโนโลยีและภัยคุกคามทางไซเบอร์ใหม่ ๆ ในปี 2566 ธนาคารได้ปรับปรุงนโยบายความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศและความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยเพิ่มเติมประเด็นการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้งาน และการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับภัยคุกคาม นอกจากนี้ ธนาคารได้รับการรับรองมาตรฐานสากลของระบบการให้บริการทางการเงิน ISO/IEC 27001 : 2013 สำหรับระบบการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างสถาบันการเงิน (BATHNET) และระบบการหักบัญชีเช็คด้วยภาพและการจัดเก็บภาพเช็ค (ICAS) และกำลังอยู่ระหว่างการขอรับรองมาตรฐานความปลอดภัยข้อมูลบัตรชำระเงิน (PCI/DSS) เพื่ออำนวยให้การปฏิบัติงานของพนักงานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ตอบรับกับการทำงานรูปแบบใหม่ที่สามารถทำจากที่ใดก็ได้ ธนาคารได้กำหนดระเบียบการใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนที่ การเข้าถึงข้อมูลจากภายนอก และการจัดการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ให้สอดคล้องกับนโยบายความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศและความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์และนโยบายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องของธนาคาร และยังได้ติดตั้งระบบความปลอดภัยให้แก่อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ของธนาคารทั้งหมดเพื่อยกระดับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลให้มีประสิทธิภาพ อีกทั้งมีการตรวจจับมัลแวร์บนอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ ในปี 2566 ธนาคารได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลรั่วไหลจากแหล่งต่าง ๆ เช่น DarkWeb, GitHub, Pastebin พร้อมทั้งนำข้อมูลมาวิเคราะห์และแจ้งเตือนเจ้าของข้อมูลเพื่อให้เกิดการดำเนินการป้องกันเชิงรุก
การติดตามเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์
ธนาคารกำหนดแนวปฏิบัติที่ชัดเจนในการเฝ้าระวังเหตุการณ์ทางไซเบอร์ที่อาจกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล พร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาในการยกระดับเหตุการณ์และแจ้งเหตุให้ผู้เกี่ยวข้องรับทราบ เพื่อให้มีการติดตามและจัดการเหตุได้อย่างทันท่วงทีก่อนที่ความเสียหายจะลุกลาม นอกจากนี้ ธนาคารยังมุ่งมั่นพัฒนาทักษะความรู้ของพนักงานในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีความพร้อมในการป้องกันและรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์อยู่เสมอ ในปี 2566 ธนาคารจัดให้มีการอบรมเพื่อเพิ่มพูนทักษะความรู้ด้านต่าง ๆ เช่น Secure Software Development, Threat hunting , PCI Professional Training รวมทั้งส่งพนักงานเข้าร่วมการแข่งขันด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในเวทีระดับสากลและระดับภาคการธนาคาร เพื่อพัฒนาการวิเคราะห์เชิงเทคนิคในสถานการณ์จำลอง พนักงานที่พบเหตุการณ์ต้องสงสัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและความปลอดภัยทางไซเบอร์สามารถรายงานเหตุการณ์ผ่านหน่วยงาน Service Desk ตามช่องทางที่ธนาคารกำหนดไว้ ในปี 2566 ธนาคารไม่พบกรณีการละเมิดความปลอดภัยข้อมูลสารสนเทศหรือเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์

การยกระดับความพร้อมในการรับมือเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์
หน่วยงานจัดการความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศจัดให้มีการทดสอบและซ้อมแผนรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์เป็นประจำทุกปี อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยมีการปรับเปลี่ยนสถานการณ์ที่ใช้ในการซ้อมทุกปี เพื่อเตรียมความพร้อมของบุคลากรและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ธนาคารยังได้เข้าร่วมการซักซ้อมแผนรับมือเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์กับธนาคารอื่นที่อยู่ภายใต้ศูนย์ประสานงานด้านความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศภาคการธนาคาร (TB-CERT) อย่างต่อเนื่อง โดยผลลัพธ์ที่ได้จากการซักซ้อมดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ปรับปรุงกระบวนการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ของธนาคารให้มีประสิทธิผลยิ่งขึ้น ในปี 2566 ธนาคารจัดซ้อมแผนรับมือเหตุการณ์ด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์จำนวน 2 ครั้ง แบ่งออกเป็น การซักซ้อมสถานการณ์ภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นกับผู้ให้บริการภายนอกและมีผลกระทบต่อการให้บริการของธนาคาร และการซักซ้อมในระดับภาคการธนาคารเกี่ยวกับเหตุการณ์การโจมตีระบบจัดเก็บข้อมูลอ่อนไหวที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจว่าระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของธนาคารได้รับการปกป้องเป็นอย่างดี และสามารถป้องกันภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที ธนาคารจัดให้มีการตรวจสอบกระบวนการจัดการด้านความปลอดภัยของเทคโนโลยีสารสนเทศปีละ 2 ครั้ง โดยหน่วยงานรับรองอิสระภายนอก การตรวจสอบดังกล่าวครอบคลุมการควบคุมทั่วไปด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการควบคุมเฉพาะระบบงาน ในขณะเดียวกัน ธนาคารกำหนดกระบวนการจัดการช่องโหว่ พร้อมทั้งจัดให้มีการประเมินช่องโหว่ของระบบงานที่สำคัญ และการทดสอบเจาะระบบจากผู้เชี่ยวชาญทั้งภายในและภายนอกเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ ธนาคารจัดให้มีการสร้างสถานการณ์จำลอง โดยการจัดส่ง Phishing Email ให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานเป็นประจำทุกปี เพื่อทดสอบการตอบสนองของผู้ได้รับอีเมล และนำผลการทดสอบดังกล่าวมาใช้ในการสื่อสารเพื่อเพิ่มความตระหนักรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการสังเกตและรับมือกับ Phishing Email ในปี 2566 ธนาคารได้มีการทดสอบจัดส่ง Phishing Email ที่มีหัวข้อและเนื้อหาแตกต่างกันตลอดทั้งปี พบว่ามีพนักงานที่ถูกหลอกลวงน้อยลง และมีการรายงานการพบหรือสงสัยว่าเป็น Phishing Email มากขึ้น
ความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกเพื่อสร้างความปลอดภัยทางไซเบอร์
ธนาคารสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกทั้งในระดับประเทศและระดับสากล ได้แก่ ศูนย์ประสานงานด้านความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศภาคการธนาคาร (TB-CERT) ศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ThaiCERT) และศูนย์บริการการเงิน การแบ่งปัน และวิเคราะห์ข้อมูล (FS-ISAC) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศและภัยคุกคามทางไซเบอร์ ตลอดจนพัฒนาขีดความสามารถของภาคการธนาคารในการเฝ้าระวังและตอบสนองต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ ในปี 2566 ธนาคารได้เข้าร่วมหารือถึงแนวทางป้องกันหรือลดความเสี่ยงจากการหลอกลวงผ่านแพลตฟอร์ม Facebook และ Google พร้อมทั้งได้ร่วมพัฒนากระบวนการแจ้งเหตุไปยัง Facebook เพื่อเสริมศักยภาพในการจัดการกับเพจปลอมของ Facebook และได้ทำการทดสอบ Safe Browsing ร่วมกับ Google