ธนาคารตระหนักว่าการดำเนินธุรกิจของธนาคารส่งผลต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ในขณะเดียวกัน ธนาคารก็เข้าใจดีว่าการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมนั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเติบโตทางธุรกิจของธนาคารในระยะยาว ธนาคารจึงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม สนับสนุนและร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อรับมือกับความท้าทายต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อร่วมสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง มีภูมิคุ้มกันและสามารถปรับตัวรับความท้าทายได้ด้วยตนเอง ตลอดจนสร้างสรรค์สังคมที่มีความเท่าเทียมและใช้ทรัพยากรที่มีจำกัดอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นรากฐานของการเติบโตอย่างยั่งยืนสืบไป
ธนาคารได้กำหนดกิจกรรมเพื่อสังคม โดยพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ ความท้าทายสำคัญต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและหน่วยงานพันธมิตร ประโยชน์ทางสังคมและธุรกิจ ตลอดจนกลยุทธ์ทางธุรกิจ ความเชี่ยวชาญ ทรัพยากร และภาพลักษณ์ของธนาคาร ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจว่ากิจกรรมทางสังคมที่ธนาคารสนับสนุนหรือมีส่วนร่วมจะนำมาซึ่งคุณประโยชน์และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงต่อทั้งชุมชนและสังคม และต่อธนาคารโดยรวมและพนักงานของธนาคารที่เข้าร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งนี้ ธนาคารสื่อสารและสนับสนุนให้พนักงานมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคมของธนาคาร ตามโอกาสที่เหมาะสม ความถนัดและความสนใจ เพื่อร่วมสร้างประโยชน์ต่อส่วนรวมและค้นหาแรงบันดาลใจในการทำงานหรือทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดต่อไป
นอกเหนือจากการส่งเสริมและสืบสานศิลปะและวัฒนธรรมไทยที่ทรงคุณค่า และการทำนุบำรุงศาสนา ซึ่งธนาคารให้ความสำคัญและได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ธนาคารได้กำหนดกลยุทธ์การดำเนินกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม ในปี 2563-2565 โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนหรือมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการรับมือกับความท้าทายสำคัญที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ 3 ประการ ได้แก่ 1. การเข้าสู่สังคมอายุยืน 2. ความเหลื่อมล้ำ และ 3. ความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีรายละเอียดของแต่ละประเด็นโดยสังเขป ดังนี้
1. การเข้าสู่สังคมอายุยืน
(เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน: เป้าหมายที่ 1 ขจัดความยากจน)
คนไทยมีอายุยืนมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ยังต้องเผชิญกับความท้าทายสำคัญ ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงทางการเงินทั้งระดับบุคคลและครัวเรือน เช่น
- การใช้จ่ายฟุ่มเฟือย จนเกิดเป็นหนี้สินเกินตัว
- การออมที่ไม่เพียงพอและขาดการวางแผนเตรียมพร้อมทางการเงินหลังเกษียณ
- ขีดความสามารถในการสร้างรายได้ของกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้มีรายได้น้อย
2. ความเหลื่อมล้ำในหลากหลายมิติ
(เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน: เป้าหมายที่ 4 การศึกษาที่เท่าเทียม และเป้าหมายที่ 10 ลดความเหลื่อมล้ำ)
ภัยคุกคามใหม่ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น โดยเฉพาะการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ตอกย้ำปัญหาความเหลื่อมล้ำในหลากหลายมิติ ซึ่งจะกระทบต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว ความเหลื่อมล้ำในมิติสำคัญรวมถึง
- ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการและความรู้ทางการเงิน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น คนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้มีรายได้น้อย
- ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงทักษะความรู้และเงินทุนของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และเกษตรกร
- ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการศึกษา
3. ความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม
(เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน: เป้าหมายที่ 6 การจัดการน้ำและสุขาภิบาล เป้าหมายที่ 13 การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป้าหมายที่ 14 การใช้ประโยชน์จากมหาสมุทรและทรัพยากรทางทะเล และเป้าหมายที่ 15 การใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศทางบก)
ภาวะโลกร้อน การพัฒนาเมืองอย่างรวดเร็ว และการใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือยไร้ประสิทธิภาพ กำลังส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน และขีดความสามารถในการเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศ ประเด็นท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญรวมถึง
- ภัยแล้ง
- ขยะล้นเมือง รวมทั้งขยะพลาสติก และการจัดการขยะที่ขาดประสิทธิภาพ
- การตัดไม้ทำลายป่า
- ปัญหามลพิษ