Online Banking
ลูกค้าบุคคล
- บัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง
- บัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง
- บัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง
- โมบายแบงก์กิ้ง
- โมบายแบงก์กิ้ง
- โมบายแบงก์กิ้ง
- บัวหลวง ไอฟันด์
หมายเหตุ:
1โรคร้ายแรงตามคำนิยามที่ระบุในสัญญาเพิ่มเติมเอไอเอ ซีไอ แคร์ (AIA CI Care) โดยให้ความคุ้มครอง (1) โรคร้ายแรงระดับต้นถึงระดับปานกลาง 1 ครั้งตลอดอายุสัญญา และกรมธรรม์ยังมีผลบังคับต่อไป หากได้รับการชำระเบี้ยประกันต่อเนื่อง และ (2) คุ้มครองโรคร้ายแรงระดับรุนแรง 1 โรค ตลอดอายุสัญญา โดยเมื่อบริษัทจ่ายผลประโยชน์แล้ว สัญญาจะสิ้นผลบังคับทันที
2ยกเว้น 4 กรณีที่สัญญาเพิ่มเติม เอไอเอ ซีไอ แคร์ (AIA CI Care) จะจ่ายผลประโยชน์สูงสุดไม่เกิน 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
|
ความคุ้มครอง |
ผลประโยชน์ |
|
|
กรณีได้รับการวินิจฉัย1 และหรือยืนยันจากแพทย์เป็นครั้งแรกในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ว่าเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรง2 |
โรคร้ายแรงระดับต้นถึงระดับปานกลาง 18 โรค/การรักษา |
40% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย (จ่ายครั้งเดียวตลอดอายุสัญญาเพิ่มเติม และกรมธรรม์ยังมีผลบังคับต่อไป หากได้รับการชำระเบี้ยประกันต่อเนื่อง) |
|
โรคร้ายแรงระดับรุนแรง 44 โรค/การรักษา |
100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย |
|
|
ผลประโยชน์ความคุ้มครองโรคร้ายแรงสูงสุด |
140% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย3 |
|
หมายเหตุ
1การวินิจฉัย หมายถึง กระบวนการซึ่งเป็นขั้นตอนในการตรวจโรคของแพทย์เพื่อให้ได้มาซึ่งสาเหตุของโรคร้ายแรงตามความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมนี้ โดยมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
2โรคร้ายแรงตามคำนิยามที่ระบุในสัญญาเพิ่มเติมเอไอเอ ซีไอ แคร์ (AIA CI Care)
3ยกเว้น 4 กรณีที่สัญญาเพิ่มเติม เอไอเอ ซีไอ แคร์ (AIA CI Care) จะจ่ายผลประโยชน์สูงสุดไม่เกิน 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
รายชื่อโรคร้ายแรงที่ให้ความคุ้มครอง
โรคร้ายแรงที่ให้ความคุ้มรองของสัญญาเพิ่มเติม เอไอเอ ซีไอ แคร์ (AIA CI Care)
รับประกันชีวิตโดย บริษัท เอไอเอ จำกัด
|
กลุ่มโรคร้ายแรง |
โรคร้ายแรงระดับต้นถึงระดับปานกลาง 18 โรค/การรักษา |
โรคร้ายแรงระดับรุนแรง 44 โรค/การรักษา |
|
กลุ่ม 1 โรคมะเร็งและเนื้องอก |
1. โรคมะเร็งระยะไม่ลุกลาม (Non-Invasive Cancers / Carcinoma in Situ) 2. การผ่าตัดเนื้องอกต่อมใต้สมองออก (Surgical Removal of Pituitary Tumor) |
1. โรคมะเร็งระยะลุกลาม (Invasive Cancers) 2. เนื้องอกในสมองชนิดที่ไม่ใช่มะเร็ง (Benign Brain Tumor) |
|
กลุ่ม 2 โรคหัวใจ ระบบหายใจ และ ระบบการไหลเวียนโลหิต |
3. โรคหลอดเลือดหัวใจตีบที่รักษาด้วยการสวนหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Disease Requiring Angioplasty) 4. การผ่าตัดลอกเยื่อหุ้มหัวใจ (Pericardiectomy) 5. การรักษาโรคลิ้นหัวใจด้วยการสวนหลอดเลือด (Less Invasive Treatments of Heart Valve Disease) 6. การรักษาโรคหลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์ต้าโดยวิธีใส่สายสวนทางหลอดเลือด (Endovascular Treatment of Aortic Disease) หรือภาวะการโป่งพองของหลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์ต้าที่ระดับอกหรือระดับท้อง (Aortic Aneurysm at Thoracic or Abdominal Aorta) 7. การใส่เครื่องกรองลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำใหญ่ (Vena-Cava Filter Placement) |
3. กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด (Acute Heart Attack) 4. การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ (Coronary Artery By-Pass Surgery) 5. โรคกล้ามเนื้อหัวใจ (Cardiomyopathy) 6. การผ่าตัดลิ้นหัวใจโดยวิธีการเปิดหัวใจ (Open Heart Surgery for the Heart Valve) 7. การผ่าตัดเส้นเลือดแดงใหญ่ เอออร์ต้า (Surgery to Aorta) 8. โรคแรงดันในหลอดเลือดแดงปอดสูงแบบปฐมภูมิ (Primary Pulmonary Arterial Hypertension) 9. โรคหลอดลมปอดอุดกั้นเรื้อรังขั้นรุนแรง หรือโรคปอดระยะสุดท้าย (Severe Chronic Obstructive Pulmonary Disease or End-Stage Lung Disease) 10. โรคโลหิตจางจากไขกระดูกไม่สร้างเม็ดโลหิต (Aplastic Anemia) |
|
กลุ่ม 3 โรคหลอดเลือดสมอง ระบบประสาทและกล้ามเนื้อ |
8. โรคหลอดเลือดสมองที่ต้องได้รับการผ่าตัดลอกหลอดเลือดแดงคาโรติค (Stroke Requiring Carotid Endarterectomy Surgery) 9. โรคหลอดเลือดสมองที่ต้องรักษาโดยวิธีใส่สายสวนเส้นเลือด แดงบริเวณคอ (Stroke Treatment by Carotid Angioplasty and Stent Placement) 10. โรคหลอดเลือดสมองโป่งพองที่รักษาโดยใช้ขดลวดผ่านสายสวนทางหลอดเลือด (Cerebral Aneurysm Treatment by Endovascular Coiling) 11. การผ่าตัดฝังท่อระบายในโพรงสมอง (Cerebral Shunt Insertion) |
11. โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน (Major Stroke) 12. โรคหลอดเลือดสมองโป่งพองที่ต้องรักษาโดยการผ่าตัด (Cerebral Aneurysm Requiring Brain Surgery) 13. ภาวะโคม่า (Coma) 14. โรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์ (Alzheimer's Disease)1 15. โรคเยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial Meningitis) 16. สมองอักเสบจากเชื้อไวรัส (Viral Encephalitis) 17. โรคพาร์กินสัน (Parkinson's Disease)1 18. โรคระบบประสาทมัลติเพิลสะเคลอโรสิส (Multiple Sclerosis) 19. โรคของเซลล์ประสาทควบคุมการเคลื่อนไหว (Motor Neuron Disease) 20. ภาวะอะแพลลิก (Apallic Syndrome or Vegetative State) 21. อัมพาตของกล้ามเนื้อแขนหรือขา (Paralysis) 22. โรคโปลิโอ (Poliomyelitis) 23. โรคกล้ามเนื้อเสื่อม (Muscular Dystrophy) |
|
กลุ่ม 4 โรคอวัยวะและระบบการทำงานที่สำคัญของร่างกาย |
12. การผ่าตัดตับออกหนึ่งกลีบ (Surgical Removal of One Lobe of Liver) 13. การผ่าตัดไตออกหนึ่งข้าง (Surgical Removal of One Kidney) 14. การผ่าตัดปอดออกหนึ่งข้าง (Surgical Removal of One Lung) |
24. ตับวาย (Chronic Liver Disease or End-Stage Liver Disease or Liver Failure) 25. ไตวายเรื้อรัง (Chronic Kidney Failure) 26. โรคลำไส้อักเสบเป็นแผลรุนแรง (Severe Ulcerative Colitis or Crohn's Disease) 27. การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะหรือปลูกถ่ายไขกระดูก (Major Organs Transplantation or Bone Marrow Transplantation) 28. โรคไวรัสตับอักเสบขั้นรุนแรง (Fulminant Viral Hepatitis) 29. ภาวะตับอ่อนอักเสบที่กลับเป็นซ้ำและเรื้อรัง (Chronic Relapsing Pancreatitis) 30. ไตอักเสบลูปูส จากโรคซิสเต็มมิค ลูปูส อิริเธมาโตซูส (SLE: Lupus Nephritis from Systemic Lupus Erythematosus) 31. ภาวะข้ออักเสบรูมาตอยด์ชนิดรุนแรง (Severe Rheumatoid Arthritis) |
|
กลุ่ม 5 ภาวะติดเชื้อ การบาดเจ็บร้ายแรงและภาวะทุพพลภาพ |
15. แผลไหม้ชนิดรุนแรงน้อย (การเกิดแผลไหม้ระดับ 2) (Second Degree Burns) 16. การผ่าตัดเลือดคั่งใต้เยื่อหุ้มสมองอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุ (Surgery of Subdural Haematoma due to accident) 17. การสูญเสียแขนหรือขาหนึ่งข้าง หรือตาหนึ่งข้าง (Loss of One Limb or One Eye/Sight) 18. โรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตา (Diabetic Retinopathy) |
32. แผลไหม้ฉกรรจ์ (การเกิดแผลไหม้ระดับ 3) (Third Degree Major Burn) 33. การบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง (Major Head Trauma) 34. การสูญเสียการดำรงชีพอย่างอิสระ (Loss of Independent Living)1 35. การทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง (Total and Permanent Disability - TPD)1 - ไม่สามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเองอย่างถาวรตั้งแต่ 3 อย่างขึ้นไป ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 180 วัน หรือ - ไม่สามารถประกอบอาชีพใดๆ เพื่อรับค่าตอบแทนหรือกำไรได้ ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 180 วัน หรือ - การสูญเสีย สายตา มือ หรือ เท้า ทั้ง 2 ข้าง หรือสูญเสียมือ 1 ข้างและเท้า 1 ข้าง หรือสูญเสียสายตา 1 ข้างและมือ 1 ข้าง หรือสูญเสียสายตา 1 ข้างและเท้า 1 ข้าง 36. ตาบอด (Blindness) 37. การฉีกขาดของรากประสาทต้นแขน (Multiple Root Avulsions of Brachial Plexus) 38. การสูญเสียความสามารถในการพูด (Loss of Speech) 39. โรคเนื้อเยื่อพังผืดอักเสบติดเชื้อและเป็นเนื้อตาย (Necrotizing Fasciitis and Gangrene) 40. โรคเท้าช้าง (Elephantiasis) |
|
กลุ่ม 6 |
|
41. โรคไข้รูมาติกที่ทำให้หัวใจผิดปกติ (Rheumatic Fever with Heart Involvement) 42. โรคคาวาซากิที่ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนของหัวใจ (Kawasaki Disease with Heart Complications) 43. โรคเบาหวานชนิดที่ 1 (Type I Diabetes) 44. โรคน้ำไขสันหลังคั่งในโพรงสมองซึ่งเกิดภายหลังและต้องใส่ท่อระบาย (Acquired Hydrocephalus Requiring An External Shunt) |
หมายเหตุ :
1บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์นี้ ภายใต้เงื่อนไขว่า วันที่ผู้เอาประกันภัยได้รับการวินิจฉัยและหรือยืนยันจากแพทย์เป็นครั้งแรกในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ว่าเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรงนี้ได้เกิดขึ้นครั้งแรกก่อนวันครบรอบปีกรมธรรม์ภายหลังผู้เอาประกันภัยมีอายุครบ 80 ปีบริบูรณ์
2บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์ในข้อนี้ ภายใต้เงื่อนไขว่า วันที่ผู้เอาประกันภัยได้รับการวินิจฉัยและหรือยืนยันจากแพทย์เป็นครั้งแรกในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ว่าเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรงนี้ได้เกิดขึ้นครั้งแรกก่อนที่ผู้เอาประกันภัยมีอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์
สัญญาเพิ่มเติมนี้จะไม่คุ้มครองการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงหรือความผิดปกติซึ่งแพทย์ยืนยันและมีหลักฐานชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรงที่ได้รับความคุ้มครองภายใต้สัญญาเพิ่มเติมนี้ ที่เกิดขึ้นภายใน 60 วันนับตั้งแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมนี้ หรือหากมีการต่ออายุสัญญาเมื่อสัญญาเพิ่มเติมสิ้นผลบังคับ (Reinstatement) ให้นับแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามการต่ออายุครั้งสุดท้าย หรือวันที่บริษัทอนุมัติให้เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัยของสัญญาเพิ่มเติมนี้ แล้วแต่วันใดจะเกิดขึ้นภายหลัง ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทอนุมัติให้เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัย บริษัทจะไม่คุ้มครองเฉพาะในส่วนของจำนวนเงินเอาประกันภัยที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น
บริษัทจะไม่จ่ายผลประโยชน์ตามสัญญาเพิ่มเติมนี้ สำหรับความผิดปกติซึ่งแพทย์ยืนยันและมีหลักฐานชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรงหรือโรคร้ายแรง ที่เกิดขึ้นก่อนวันเริ่มมีผลคุ้มครอง หรือก่อนวันที่ให้มีการต่ออายุสัญญาเมื่อสัญญาเพิ่มเติมสิ้นผลบังคับ (Reinstatement) หรือก่อนวันที่บริษัทอนุมัติให้เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัย แล้วแต่วันใดจะเกิดขึ้นภายหลัง รวมถึง ความบกพร่องทางร่างกาย การเจ็บป่วย หรือการบาดเจ็บ ที่เกี่ยวข้องกับการทุพพลภาพที่แพทย์ยืนยันและมีหลักฐานชัดเจน ซึ่งผู้เอาประกันภัยทราบอยู่แล้ว แต่ไม่ได้แถลงให้บริษัททราบ ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทอนุมัติให้เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัย บริษัทจะไม่คุ้มครองเฉพาะในส่วนของจำนวนเงินเอาประกันภัยที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น เว้นแต่ ผู้เอาประกันภัย ได้แถลงให้บริษัททราบและบริษัทยินยอมรับความเสี่ยงภัย โดยไม่มีเงื่อนไขยกเว้นความคุ้มครองดังกล่าว
จำนวนเงินเอาประกันภัยที่ซื้อได้ต่อรายชีวิต:
ทั้งนี้ จำนวนเงินเอาประกันภัยสูงสุดของวงเงินโรคร้ายแรงทั้งหมดที่มีผลบังคับรวมกันสูงสุดต่อรายชีวิต (ขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์การพิจารณาของบริษัท) ไม่เกิน 50,000,000 บาท ต่อรายชีวิต สำหรับ ผู้ขอเอาประกันภัยที่ประกอบอาชีพและมีรายได้ และไม่เกิน 30,000,000 บาท ต่อรายชีวิต สำหรับผู้ขอเอาประกันภัยที่ไม่มีรายได้
|
อายุ (ปี) |
เบี้ยประกันภัยรายปี (บาท) |
|
|
เพศหญิง |
เพศชาย |
|
|
15 วัน - 15 ปี |
1.95 |
2.24 |
|
16 วัน - 75 ปี |
1.81 - 68.29 |
1.54 - 122.09 |
|
76 - 98 ปี (เฉพาะปีต่ออายุ) |
90.08 - 374.52 |
153.3 - 394.01 |
สัญญาเพิ่มเติมเป็นสัญญาประกันภัยที่มีระยะเวลาเอาประกันภัย 1 ปี ซึ่งอาจต่ออายุได้ ทั้งนี้ บริษัทสงวนสิทธิ์ในการปรับเบี้ยประกันภัยในรอบปีกรมธรรม์ อันเนื่องมาจากปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ ขั้นอาชีพ ประสบการณ์การจ่ายสินไหมทดแทนของบริษัท เป็นต้น ทั้งนี้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน โดยบริษัทจะแจ้งให้ผู้เอาประกันภัยทราบล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรไม่น้อยกว่า 30 วัน
การคำนวณเบี้ยประกันภัยรายงวดโดยประมาณ ดังนี้
ปรึกษาและรับคำแนะนำเพื่อวางแผนทำประกันชีวิตได้ที่ ธนาคารกรุงเทพสาขาที่ให้บริการ หรือโทร.1333
บริษัท เอไอเอ จำกัด โทร. (66) 0 2353 8855 เว็บไซต์ www.aia.co.th
รับประกันชีวิตโดย บริษัท เอไอเอ จำกัด
หมายเหตุ