Mobile ID

บริการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล เพื่อรับบริการจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยใช้เบอร์โทรศัพท์มือถือ และแอป atta โดยธนาคารกรุงเทพ

สะดวก

ยืนยันตัวตนง่ายได้ด้วยตนเอง ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านแอป atta โดยธนาคารกรุงเทพ

รวดเร็ว

ทำธุรกรรมการเงินแบบดิจิทัลได้เต็มรูปแบบ โดยไม่ต้องมาแสดงตนที่สาขา หรือจุดบริการ

ไม่ต้องมีเอกสาร

ไม่ต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชน

ปลอดภัย

ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ร่วมกับเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนแบบหลายองค์ประกอบ (Multi-factor Authentication)

สมัครบริการ

สมัครบริการ Mobile ID ได้ที่สำนักบริการของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เข้าร่วมโครงการ Mobile ID
*ติดตามรายชื่อสำนักบริการที่สามารถสมัครบริการ Mobile ID ได้จากประกาศของผู้ให้บริการเครือข่ายแต่ละราย

ขั้นตอนการสมัคร

1. แสดงบัตรประจำตัวประชาชน

เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลตัวตน ด้วยเครื่องอ่านบัตรประจำตัวประชาชน

2. เจ้าหน้าที่ถ่ายรูปใบหน้า

เพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการพิสูจน์ตัวตน

3. ดาวน์โหลดแอปของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่

เพื่อใช้ยืนยันตัวตนสำหรับเข้าใช้งาน Mobile ID

4. ดาวน์โหลดแอป atta โดยธนาคารกรุงเทพ

สำหรับเข้าใช้งาน Mobile ID ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนเพื่อเปิดบัญชี e-Savings

หมายเหตุ: บริการยืนยันตัวตนด้วย Mobile ID เพื่อเปิดบัญชี e-Savings ปัจจุบันรองรับ Mobile ID จากเครือข่าย AIS, dtac และ TrueMove H (เครือข่าย NT จะพร้อมให้บริการเร็ว ๆ นี้)

ขั้นตอนการยืนยันตัวตนด้วย Mobile ID

เพื่อรองรับการเปิดบัญชี e-Savings ธนาคารกรุงเทพ ผ่านแอป atta

รายละเอียดบัญชี e-Savings

1.

ยืนยันตัวตนสำหรับการเปิดบัญชี e-Savings ธนาคารกรุงเทพ บนแอป atta

ระบุรหัสอ้างอิง 7 หลักที่ได้รับจากแอปโมบายแบงก์กิ้ง และเลขประจำตัวประชาชน

2.

ยืนยันตัวตนกับแอปผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ใช้สมัคร Mobile ID

- ระบุเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ใช้สมัคร Mobile ID
- ดำเนินการยืนยันตัวตนตามขั้นตอนบนแอปผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่

3.

ระบบจะแสดงผลการยืนยันตัวตน

- จากนั้นดำเนินการเปิดบัญชีตามขั้นตอนในแอปโมบาย
แบงก์กิ้งต่อไป

คำถามที่พบบ่อย

บริการ Mobile ID คืออะไร
Digital ID รูปแบบหนึ่งซึ่งเชื่อมโยง “เบอร์โทรศัพท์มือถือ” กับ “ชุดข้อมูลจากบัตรประจำตัวประชาชน” ซึ่งเจ้าของ ID ได้สมัครเป็นผู้ใช้บริการ กับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทย ทำให้สามารถใช้เบอร์โทรศัพท์มือถือในการยืนยันตัวตนได้
คุณสมบัติของผู้สมัครบริการ Mobile ID
  • บุคคลธรรมดา ผู้มีสัญชาติไทย และมีบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ตการ์ด
  • ผู้ใช้งานสมาร์ตโฟนที่รองรับการใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS เวอร์ชัน 11.0 ขึ้นไป และ Android เวอร์ชัน 7.0 ขึ้นไป และ
    มีซิมการ์ดที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้
  • เป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทยที่รองรับในแพลตฟอร์ม Mobile ID โดยปัจจุบัน ได้แก่ AIS, dtac, TrueMove H และ NT
สมัครบริการ Mobile ID ต้องทำอย่างไร
สามารถสมัครบริการ Mobile ID ได้ที่สำนักบริการของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เข้าร่วมเป็นผู้ให้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตนภายใต้โครงการ Mobile ID
Mobile ID มีประโยชน์อย่างไร
Mobile ID เป็น “ทางเลือก” ในการยืนยันตัวตนด้วยเบอร์โทรศัพท์มือถือเพื่อเข้าถึงการให้บริการของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ด้านบริการในรูปแบบออนไลน์ Mobile ID ช่วยให้การยืนยันตัวตนสะดวก ทำได้ทุกที่ทุกเวลา และลดเวลาในการเดินทางไปแสดงตัวตนที่สาขาหรือสำนักงานด้วยตนเอง ด้านบริการในรูปแบบออฟไลน์ บริการนี้จะช่วยลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก เช่น การกรอกข้อมูลและการส่งเอกสารแสดงตน โดยผู้ใช้บริการสมัคร Mobile ID และพิสูจน์ตัวตนกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่เพียงครั้งเดียว จะสามารถยืนยันตัวตนเพื่อสมัครใช้บริการอื่นๆ ได้หลากหลาย รวมถึงบริการที่จะทยอยเปิดเพิ่มเติม เช่น การเข้าใช้บริการภาครัฐ การขอสินเชื่อ การสมัครประกัน รวมไปถึงบริการที่เกี่ยวโยงกับภาคการศึกษาและสาธารณสุข เป็นต้น
แอปพลิเคชัน atta โดยธนาคารกรุงเทพ กับบริการยืนยันตัวตนด้วย Mobile ID เกี่ยวข้องกันอย่างไร
atta คือ แอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน พัฒนาโดยธนาคารกรุงเทพ เพื่อให้บริการยืนยันตัวตนโดยใช้เบอร์โทรศัพท์มือถือ (Mobile ID) ช่วยให้การยืนยันตัวตนเพื่อทำธุรกรรมต่างๆ เป็นไปอย่างสะดวก ง่าย และปลอดภัยยิ่งขึ้น
บริการ Mobile ID ปลอดภัยหรือไม่
Mobile ID เป็นแพลตฟอร์มกลางที่เชื่อมโยงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บริการยืนยันตัวตน และแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ซึ่งการแลกเปลี่ยนข้อมูลจะทำได้เมื่อลูกค้าซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลให้ความยินยอม (Consent) เท่านั้น นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังถูกออกแบบให้มีความปลอดภัยสูงตามมาตรฐานสากล ร่วมกับการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนและเทคโนโลยีชีวมิติเข้ามาใช้ในการบริหารจัดการข้อมูลตัวตนอีกด้วย โดยแพลตฟอร์ม Mobile ID นี้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน กสทช.
กรณีมีหลายเบอร์โทรศัพท์มือถือ สามารถสมัคร Mobile ID ได้กี่เบอร์
สมัครได้หลายเบอร์ ภายใต้เจ้าของ Mobile ID เดียวกัน เช่น ผู้ใช้บริการมี 3 เบอร์โทรศัพท์มือถือ ก็สามารถลงทะเบียนได้ 3 Mobile ID เช่น 1 เบอร์กับเครือข่าย A และ 2 เบอร์กับเครือข่าย B
กรณีเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ จะต้องทำอย่างไร
  • กรณีเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ แต่ใช้ซิมการ์ดเบอร์โทรศัพท์เดิม: ไม่มีผลต่อการใช้งาน Mobile ID และไม่จำเป็นต้องสมัคร Mobile ID ใหม่ เนื่องจาก Mobile ID เป็นการเชื่อมกับ “เบอร์โทรศัพท์มือถือ” ไม่ได้เชื่อมกับ “เครื่องโทรศัพท์”
  • กรณีเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือใหม่: ผู้ใช้บริการจำเป็นต้องติดต่อเพื่อขอสมัคร Mobile ID กับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเบอร์โทรศัพท์มือถือใหม่อีกครั้ง เนื่องจาก Mobile ID ที่สมัครไว้กับผู้ให้บริการเครือข่ายเดิมจะสิ้นสุดทันทีตามคำขอยกเลิกการใช้งานของเบอร์โทรศัพท์มือถือของผู้ใช้งาน
กรณีใดบ้างที่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องทำการลงทะเบียน Mobile ID ใหม่
เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการสวมสิทธิ กำหนดให้ข้อมูล Mobile ID ต้องมีการอัปเดตให้เป็นปัจจุบันเสมอเช่นเดียวกับข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชน ดังนั้น กรณีย้ายค่ายเบอร์เดิม กรณีบัตรประจำตัวประชาชนหายหรือถูกทำลาย กรณีบัตรเดิมหมดอายุ กรณีเปลี่ยนชื่อตัวหรือชื่อสกุลและทำบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ ผู้ใช้บริการมีหน้าที่ในการนำบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ไปแจ้งขออัปเดต Mobile ID ใหม่ที่สาขาหรือจุดบริการของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่
Mobile ID มีวันหมดอายุหรือไม่
มี โดย Mobile ID จะมีวันหมดอายุเช่นเดียวกับวันหมดอายุของบัตรประจำตัวประชาชน
มีค่าใช้จ่ายในการสมัครและใช้บริการยืนยันตัวตนหรือไม่
ในปัจจุบัน ยังไม่มีค่าใช้จ่ายในการสมัครและใช้บริการ

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณ
ในทุกธุรกรรมทางการเงิน

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณในทุกธุรกรรมทางการเงิน

คุณกำลังจะออกจากเว็บไซต์ธนาคารกรุงเทพ