อัปเดตข่าวสาร

x

ธนาคารกรุงเทพรายงานกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 1 ปี 2566 จำนวน 10,129 ล้านบาท

20 เมษายน 2566

ในไตรมาส 1 ปี 2566 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการจ้างงานและการบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน การส่งออกเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวขึ้นบ้างจากที่หดตัวในช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ดี ในระยะข้างหน้าเศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับความเสี่ยงจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว อัตราเงินเฟ้อที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ และสถานการณ์ปัญหาสถาบันการเงินในประเทศเศรษฐกิจหลัก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป

ภายใต้ทิศทางภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน ธนาคารกรุงเทพยังคงดำเนินธุรกิจตามหลัก ความระมัดระวังรอบคอบ ให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยง ควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพฐานะการเงิน สภาพคล่อง และเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ธนาคารให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการดูแลลูกค้า อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจตามแนวโน้มของสภาวะตลาด ที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งด้านดิจิทัลเทคโนโลยี นวัตกรรมแห่งโลกอนาคต รวมถึงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ภายใต้เจตนารมณ์ของ การเป็น “เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน”

ธนาคารกรุงเทพรายงานกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 1 ปี 2566 จำนวน 10,129 ล้านบาท

ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยรายงานกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 1 ปี 2566 จำนวน 10,129 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4 ปี 2565 โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ในระดับเดียวกับไตรมาสก่อน จากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นตามการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย สุทธิกับค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เงินรับฝากและการปรับอัตราเงินนำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเข้าสู่ระดับเดิมที่ ร้อยละ 0.46 ต่อปี และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 2.84 สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่มาจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเครื่องมือทางการเงินซึ่งเป็นไปตามสภาวะตลาด และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สำหรับอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานลดลงเป็นร้อยละ 46.8 ธนาคารตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 8,474 ล้านบาท โดยพิจารณาถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า

ธนาคารกรุงเทพยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ พร้อมทั้งรักษาเสถียรภาพฐานะการเงิน สภาพคล่อง และเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2566 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 2,640,090 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยที่ ร้อยละ 1.6 จากสิ้นปี 2565 ส่วนใหญ่จากสินเชื่อลูกค้าธุรกิจและสินเชื่อลูกค้ากิจการต่างประเทศ สำหรับอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อรวมยังคงอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ที่ร้อยละ 3.1 ทั้งนี้ จากการที่ธนาคารยึดหลักการตั้งสำรองด้วยความระมัดระวังและรอบคอบอย่างต่อเนื่อง ทำให้อัตราส่วน ค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ร้อยละ 265.1

ธนาคารมีเงินรับฝาก ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2566 จำนวน 3,205,989 ล้านบาท อยู่ในระดับใกล้เคียงกับ สิ้นปี 2565 และมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากอยู่ที่ร้อยละ 82.3 ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของต่อสินทรัพย์เสี่ยง ของธนาคารและบริษัทย่อยอยู่ที่ร้อยละ 19.2 ร้อยละ 15.7 และร้อยละ 14.9 ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในระดับที่ สูงกว่าอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด

x

ธนาคารกรุงเทพ เตรียมฉลอง 80 ปี ชวนคนไทยสร้างสรรค์สิ่งดีเพื่อสังคม จับมือสภากาชาดไทย ระดมพลังบริจาคโลหิต ‘80 แสนซีซี 80 ปี ธนาคารกรุงเทพ’ ยึดมั่นจุดยืน ‘เพื่อนคู่คิด’ พร้อมเคียงข้างสังคมไทยในทุกสถานการณ์

19 เมษายน 2566

ธนาคารกรุงเทพ จัดโครงการใหญ่ เตรียมฉลอง 80 ปี สร้างสรรค์สิ่งดีเพื่อสังคม จับมือศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ตั้งโครงการ “80 แสนซีซี 80 ปี ธนาคารกรุงเทพ” ระดมพลัง ผู้บริหาร-พนักงาน-ลูกค้า-ผู้สนใจ ร่วมเป็น “ผู้ให้” บริจาคโลหิตให้ได้ 8 ล้านซีซี เพิ่มปริมาณเลือดสำรองในระบบ ช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์กว่า 60,000 คน พร้อมตอกย้ำจุดยืน ‘เพื่อนคู่คิด’ พร้อมอยู่เคียงข้างสังคมไทยในทุกสถานการณ์

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน บนจุดยืนของการเป็น “เพื่อนคู่คิด” ที่พร้อมเคียงข้างลูกค้าและสังคมไทยมาอย่างยาวนาน รวมถึงในโอกาสที่ธนาคารจะครบปีที่ 80 ของการดำเนินธุรกิจในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 ธนาคารจึงได้มีความตั้งใจจัดตั้งโครงการ “80 แสนซีซี 80 ปี ธนาคารกรุงเทพ” โดยร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เพื่อเชิญชวนคนไทยมาร่วมกันเป็น “ผู้ให้” ผ่านการบริจาคโลหิต ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 พฤศจิกายน 2567 โดยมีเป้าหมายระดมการบริจาคโลหิตให้ได้ถึง 8 ล้านซีซี ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ในสังคมได้ไม่น้อยกว่า 60,000 คน

“ธนาคารกรุงเทพ ตระหนักถึงความสำคัญของโลหิตสำรอง โดยที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิตมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2539 หรือนับรวมกว่า 26 ปี แม้ในช่วง 3 ปีที่เกิดปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต้องงดจัดกิจกรรมในพื้นที่ของธนาคาร แต่ผู้บริหาร พนักงาน รวมถึงลูกค้าและผู้สนใจ ต่างยังคงร่วมใจกันเดินทางไปบริจาคโลหิตโดยตรงที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย อย่างต่อเนื่องเช่นเดิม ดังนั้น เมื่อสถานการณ์ต่าง ๆ กลับสู่ภาวะปกติ ประกอบกับในโอกาสที่ธนาคารจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 80 ในปี 2567 ธนาคารจึงตั้งใจจัดตั้งโครงการเพื่อสร้างสรรค์ประโยชน์ต่อสังคมไทย ผ่านโครงการ “80 แสนซีซี 80 ปี ธนาคารกรุงเทพ” เพื่อระดมการบริจาคโลหิต และสะท้อนถึงจุดยืนของธนาคารกรุงเทพ ที่ทำหน้าที่เป็น “เพื่อนคู่คิด” ให้แก่ลูกค้าและสังคมไทยในทุกสถานการณ์” นายชาติศิริ กล่าว

ทั้งนี้ สถิติการบริจาคโลหิตจากหน่วยรับบริจาคเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงเทพ ตั้งแต่ปี 2539-2565 ธนาคารกรุงเทพ โดยผู้บริหาร พนักงาน และลูกค้าของธนาคาร ได้ร่วมบริจาคโลหิตแล้วรวมกว่า 16,613,350 ซีซี สามารถนำไปช่วยเหลือชีวิตคนได้แล้วกว่า 141,912 คน แม้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในระหว่างปี 2562-2565 โครงการของธนาคารกรุงเทพยังคงมีส่วนร่วมสำหรับการบริจาคโลหิตรวมกว่า 1,897,600 ซีซี สามารถนำไปช่วยเหลือชีวิตคนได้กว่า 14,032 คน

รศ.พญ.ดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพถือเป็นอีกหนึ่งในองค์กรพันธมิตรของสภากาชาดไทย ที่ให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิตมาอย่างต่อเนื่องถึง 27 ปี ซึ่งในโอกาสที่ธนาคารกรุงเทพ ก้าวสู่ปีที่ 80 สภากาชาดไทยมีความยินดีและขอขอบคุณอย่างยิ่ง ที่ธนาคารกรุงเทพได้จัดโครงการ “80 แสนซีซี 80 ปี ธนาคารกรุงเทพ” ขึ้น ซึ่งเป็นโครงการที่จะสานต่อภารกิจการเป็น “ผู้ให้” ได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่ความต้องการโลหิตสำรองยังคงเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากขณะนี้หลายโรงพยาบาลทยอยเรียกตัวผู้ป่วยที่ต้องเลื่อนการผ่าตัดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เข้ารับการรักษา ปริมาณโลหิตที่ได้รับบริจาคในแต่ละวัน จึงถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลเพื่อนำไปใช้ช่วยรักษาชีวิตผู้ป่วยในทันที ทำให้ไม่มีปริมาณโลหิตสำรองคงเหลือในคลังสำหรับใช้ในภาวะฉุกเฉิน

“สภากาชาดไทยขอขอบคุณธนาคารกรุงเทพ ในฐานะสถาบันการเงินขนาดใหญ่ที่อยู่คู่กับสังคมมาอย่างยาวนาน ได้จัดโครงการใหญ่ “80 แสนซีซี 80 ปี ธนาคารกรุงเทพ” ซึ่งเป็นโครงการที่จะช่วยสร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ เพราะเลือดทุกหยดที่ได้มาจะถูกนำไปใช้ในการช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ ซึ่งขณะนี้ความต้องการเลือดยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆ ที่มีการเดินทางข้ามจังหวัดหรือเดินทางไกล ทำให้การเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ดังนั้น เมื่อสภากาชาดมีปริมาณเลือดสำรองมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะสามารถนำไปช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยได้เร็วยิ่งขึ้นเท่านั้น” รศ.พญ.ดุจใจ กล่าว

สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ “80 แสนซีซี 80 ปีธนาคารกรุงเทพ” สามารถร่วมบริจาคโลหิตได้ที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่งทั่วประเทศ หน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่และ โรงพยาบาลแต่ละจังหวัดที่เป็นโรงพยาบาลสาขาบริการโลหิต

นอกจากนี้ ธนาคารกรุงเทพร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จะจัดตั้งหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ ธนาคารกรุงเทพ อาคารสำนักงานใหญ่สีลม และอาคารพระราม 3 เพื่ออำนวยความสะดวกรับบริจาคโลหิตให้กับผู้บริหาร พนักงาน ลูกค้า และผู้สนใจ ในวันนี้ (19 เมษายน 2566) และจะจัดต่อเนื่องทุก 3 เดือน จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2567

ธนาคารกรุงเทพ และศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ขอเชิญชวนผู้บริหาร พนักงาน ลูกค้า และผู้สนใจ ร่วมเป็น “ผู้ให้” ผ่านโครงการ “80 แสนซีซี 80 ปี ธนาคารกรุงเทพ” พิเศษ! สำหรับผู้มาบริจาคโลหิต ณ จุดบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ ธนาคารกรุงเทพ อาคารสำนักงานใหญ่สีลม และอาคารพระราม 3 รวมทั้งที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ภายในเดือนเมษายน ศกนี้ จะได้รับผ้ายันต์พระนารายณ์ทรงครุฑประทับบนพระราหู รุ่น Limited Edition จากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ซึ่งมีโลโก้ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลชีวิตด้วย ทั้งนี้สอบถามข้อมูลและกำหนดวันตั้งหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ ณ ธนาคารกรุงเทพ อาคารสำนักงานใหญ่สีลม และอาคารพระราม 3 ได้ที่ธนาคารกรุงเทพ โทร.1333 หรือ 0-2645-5555

x

ธนาคารกรุงเทพ ยินดีกับผู้โชคดีที่ได้รับรางวัล จากแคมเปญ“บัตรเครดิตวีซ่าธนาคารกรุงเทพ ช้อปลุ้นแชมป์ FIFA WORLD CUP QATAR 2022™ สนับสนุนโดยวีซ่า”

12 เมษายน 2566

ยินดี - นางวรนุช ศิรธรานนท์ (กลาง) เจ้าหน้าที่บริหารระดับ Vice President ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพจำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นางสาวนพร อิงคตานุวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด (ที่ 7 จากซ้าย) และ นายอาทิตย์ ศรีจันทร์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประจำวีซ่า ประเทศไทย (ที่ 7 จากขวา) ร่วมมอบรางวัลและแสดงความยินดีกับผู้โชคดีจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตวีซ่าธนาคารกรุงเทพ จำนวน 13 ท่าน ที่ได้รับรางวัลจากแคมเปญ “บัตรเครดิตวีซ่าธนาคารกรุงเทพ ช้อปลุ้นแชมป์ FIFA WORLD CUP QATAR 2022™ สนับสนุนโดยวีซ่า” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยรางวัลจากกิจกรรมดังกล่าว ประกอบด้วย รถยนต์ Hyundai รุ่น STARIA S บัตรโดยสารชั้นธุรกิจ สายการบิน Qatar Airways (เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพ-ปารีส) ทองคำแท่ง และ สมาร์ทโฟน vivo X80 Pro 5G รวมมูลค่ากว่า 3.5 ล้านบาท

สำหรับแคมเปญ “บัตรเครดิตวีซ่าธนาคารกรุงเทพ ช้อปลุ้นแชมป์ Visa FIFA WORLD CUP QATAR 2022™ สนับสนุนโดยวีซ่า” เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อให้ผู้ถือบัตรเครดิตวีซ่าธนาคารกรุงเทพ ร่วมรับสิทธิ์ลุ้นรางวัลเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรครบทุก 3,000 บาท ในระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม 2565– 31 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลรายชื่อผู้โชคดีที่ได้รับรางวัล ได้ที่ www.bangkokbank.com

x

ธนาคารกรุงเทพ ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้เพิ่มขึ้นตามการคาดการณ์ถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้น

11 เมษายน 2566

ธนาคารกรุงเทพ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ ตามการคาดการณ์ถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2566

นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้เพิ่มขึ้น โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากปรับขึ้น 0.05-0.30% เงินฝากสะสมทรัพย์ เป็น 0.55% ต่อปี เงินฝากประจำ 3 เดือน เป็น 0.75% ต่อปี เงินฝากประจำ 6 เดือน เป็น 0.85% ต่อปี และเงินฝากประจำ 12 เดือน เป็น 1.15% ต่อปี อีกทั้งได้ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำพิเศษ 8 เดือน เป็น 1.25% ต่อปี และเงินฝากประจำพิเศษ 14 เดือน เป็น 1.45% ต่อปี เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มผู้ฝากเงินอีกทางหนึ่ง

ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ อัตราดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ (MRR) หรืออัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate) ธนาคารปรับขึ้น 0.05% เป็น 6.85% ต่อปี ส่วนเอ็มแอลอาร์ (MLR) หรืออัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (Minimum Loan Rate) และเอ็มโออาร์ (MOR) หรืออัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate) ปรับขึ้น 0.20% เป็น 6.65% ต่อปี และ 7.10% ต่อปี ตามลำดับ

x

ธนาคารกรุงเทพ สำรองเงินสดช่วงสงกรานต์ 40,000 ล้านบาทผ่านสาขาธนาคาร และตู้บัวหลวงเอทีเอ็ม เกือบ 10,000 จุดทั่วประเทศ รองรับประชาชนจับจ่าย ท่องเที่ยว ฉลองความสุข สุดชื่นฉ่ำรับสงกรานต์ ปี 66

10 เมษายน 2566

ธนาคารกรุงเทพ จัดสรรเงินสดสำรองให้บริการลูกค้าช่วงเทศกาลสงกรานต์เพิ่มอีก 40,000 ล้านบาท ผ่านสาขาธนาคาร และตู้เอทีเอ็มอีกเกือบ 10,000 จุดทั่วประเทศ พร้อมแผนดูแลการเติมเงินสดในตู้เอทีเอ็มถี่เป็นพิเศษ เพื่อรองรับความต้องการใช้เงินสดที่เพิ่มมากขึ้น รองรับการจับจ่ายซื้อสินค้า เดินทางท่องเที่ยว หลังหลายจังหวัดกลับมาจัดกิจกรรมและงานรื่นเริงเฉลิมฉลองสงกรานต์ ปีใหม่ไทยอีกครั้ง

รายงานข่าวจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์และวันหยุดชดเชยวันสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 13 -17 เมษายน 2566 ทางธนาคารได้สำรองเงินสดไว้ให้บริการแก่ลูกค้าเพิ่มเติมจากภาวะปกติโดยรวมทั้งสิ้นประมาณ 40,000 ล้านบาท ผ่านสาขาธนาคาร และช่องทางบริการเอทีเอ็มที่มีเกือบ 10,000 จุดทั่วประเทศ เพื่อรองรับปริมาณความต้องการเงินสดของประชาชนสำหรับการจับจ่ายซื้อสินค้า ของฝาก อาหารและเครื่องดื่ม เพื่อเฉลิมฉลองความสุขในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และการเดินทางท่องเที่ยว ที่หลายจังหวัดได้กลับมาจัดกิจกรรมและงานรื่นเริงอีกครั้ง รวมถึงการเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อรดน้ำดำหัว ขอพรจากญาติผู้ใหญ่ที่เคารพ เนื่องในวันปีใหม่ของไทย

นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถใช้บริการทางการเงินของธนาคารกรุงเทพได้ที่สาขาไมโครภายในห้างสรรพสินค้าและจุดชุมชนกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงบริการตัวแทนธนาคารที่รองรับธุรกรรมในการฝาก-ถอนเงินสด ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ในร้าน 7-Eleven, โลตัส, บริการ Bank@Post ของไปรษณีย์ไทย และบริการผ่านตู้บุญเติม (ฝากเงินสด) ซึ่งมีจุดให้บริการรวมกันกว่า 140,000 แห่งทั่วประเทศ ควบคู่ไปกับบริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารที่พร้อมอำนวยความสะดวกและให้สามารถทำรายการธุรกรรมต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง เช่น เครื่องบัวหลวงเอทีเอ็ม (ATM) เครื่องบัวหลวงรับฝากเงินสดอัตโนมัติ (CDM) บริการบัวหลวงไอแบงก์กิ้ง (Bualuang iBanking) และบริการโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ (Bangkok Bank Mobile Banking) บริการบัวหลวงโฟน โทร. 1333 หรือ 0-2645-5555 รวมถึงบริการรับชำระสินค้าและบริการผ่านระบบคิวอาร์โค้ด (QR Code) เป็นต้น

ทั้งนี้ ธนาคารยังได้เตรียมความพร้อมสำหรับดำเนินการดูแลและเพิ่มความถี่ในการจัดเตรียมเงินสดในตู้เอทีเอ็มที่ตั้งอยู่ในชุมชน และจุดท่องเที่ยวทั่วประเทศเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้ลูกค้าของธนาคารสามารถเบิกถอนเงินสดสำหรับใช้จ่ายในช่วงวันหยุดเทศกาลดังกล่าวได้อย่างทั่วถึงและเพียงพอ ตลอดจนดูแลธุรกรรมให้ดำเนินการได้อย่างราบรื่น ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บัวหลวงโฟน โทร.1333 หรือ 0 2645 5555

x

ศูนย์สังคีตศิลป์ ธนาคารกรุงเทพ สนับสนุนศิลปะการแสดง “โนรา” ตอกย้ำการเป็น ‘เพื่อนคู่คิด’ ที่มุ่งมั่นสืบสานและอยู่เคียงข้างวัฒนธรรมไทย

5 เมษายน 2566

สืบสานวัฒนธรรมไทย – ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โดยนายสุวิทย์ อินทรเฉลิม เจ้าหน้าที่บริหารระดับ Vice President ฝ่ายการประชาสัมพันธ์ (ขวามือ) รับของที่ระลึกจาก หม่อมราชวงศ์ ปรีดิยาธร เทวกุล ประธานกรรมการมูลนิธิคึกฤทธิ์ 80 ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ (ซ้ายมือ) ในโอกาส ศูนย์สังคีตศิลป์ ธนาคารกรุงเทพ สนับสนุนการจัดกิจกรรม โครงการส่งเสริมศิลปะวัฒนธรรมไทย การเสวนาและการสาธิต “โนรา มรดกภูมิปัญญาไทย มรดกวัฒนธรรมของมนุษยชาติ” ซึ่งจัดโดยสถาบันคึกฤทธิ์ พร้อมการสาธิตรำ “โนรา” จากผู้ช่วยศาสตราจารย์ธรรมนิตย์ นิคมรัตน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (โนรา) ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงที่มีอัตลักษณ์โดดเด่น มีการสืบทอดมาอย่างยาวนาน และมีความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมกับผู้คนอย่างลึกซึ้ง ตอกย้ำเจตนารมณ์ของธนาคารกรุงเทพ ในฐานะ ‘เพื่อนคู่คิด’ ที่มุ่งมั่นสืบสานและอยู่เคียงข้างวัฒนธรรมไทย

ทั้งนี้ ศูนย์สังคีตศิลป์ ธนาคารกรุงเทพ ก่อตั้งขึ้นในปี 2522 มีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมดนตรีนาฏศิลป์และการแสดงพื้นบ้านอย่างยั่งยืน โดยได้มีการจัดกิจกรรม “สังคีตสราญรมย์” เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไปได้ชมศิลปะการแสดงของไทยที่หาชมได้ยาก และเปิดโอกาสให้ศิลปิน คณะนาฏศิลป์ รวมถึงเยาวชนรุ่นใหม่ ได้มีเวทีแสดงความสามารถ ขณะเดียวกันได้มีการส่งเสริมการแสดงศิลปะโนรามาอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ได้เชิญ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธรรมนิตย์ นิคมรัตน์ และคณะโนราธรรมนิตย์ มาทำการแสดงในรายการสังคีตสราญรมย์ ครั้งที่ 105 เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2559 สร้างความประทับใจแก่ผู้ชม รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โนรากลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง และในปี 2564 องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประกาศขึ้นทะเบียน “โนรา” ให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญในการอนุรักษ์และสืบสานการแสดงโนราให้คงอยู่สืบไป

x

ธนาคารกรุงเทพ จับมือ AIA มอบรางวัลเกียรติยศทีมขายดีเด่น ในงาน “Be Together Bancassurance Awards 2022”ตอกย้ำ ‘เพื่อนคู่คิด’ ที่พร้อมอยู่เคียงข้างทุกเรื่องการเงิน

3 เมษายน 2566

เชิดชูเกียรติ – นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ที่ 8 จากขวา) นางสาวพจณี คงคาลัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (ที่ 6 จากขวา) นางสาวพรพิมล ตรงเที่ยงธรรม ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (ที่ 4 จากขวา) พร้อมผู้บริหารระดับสูง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ นายตัน ฮาค เลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาค (ที่ 7 จากซ้าย) นายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ที่ 5 จากซ้าย) นางสาวเจน เทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ ฝ่ายพันธมิตรธุรกิจแบงก์แอสชัวร์รันส์เชิงกลยุทธ์ (ที่ 4 จากซ้าย) พร้อมผู้บริหารระดับสูง บริษัท เอไอเอ จำกัด มอบรางวัล “Be Together Bancassurance Awards 2022” เพื่อประกาศความสำเร็จ เชิดชูเกียรติ และแสดงความขอบคุณแก่ผู้บริหาร พนักงานของธนาคาร ที่มีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการเติบโตได้ตามเป้าหมาย และช่วยสนับสนุนลูกค้าในการสร้างความมั่งคั่งและมั่นคงทางการเงิน ควบคู่กับการตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพที่ดี ภายใต้แนวคิด “Health and well-being” ตอกย้ำการเป็น ‘เพื่อนคู่คิด’ ของธนาคารกรุงเทพ ที่พร้อมอยู่เคียงข้างให้คำปรึกษาทุกเรื่องการเงิน และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมและเหมาะสม

x

ธนาคารกรุงเทพ ยืนหยัด ‘เพื่อนคู่คิด’บำรุงขวัญผู้ป่วยทหาร-ตำรวจ-อาสาสมัคร ต่อเนื่องปีที่ 34น้อมถวายเป็นพระราชกุศล เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

31 มีนาคม 2566

ยืนหยัดเพื่อนคู่คิด– ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โดยนางสาวพจณี คงคาลัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ นายสุวิทย์ อินทรเฉลิม เจ้าหน้าที่บริหารระดับ Vice President ฝ่ายการประชาสัมพันธ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และพนักงาน จัดกิจกรรมบำรุงขวัญผู้ป่วยทหาร-ตำรวจ-อาสาสมัคร ต่อเนื่องปีที่ 34 ยืนหยัดการเป็น ‘เพื่อนคู่คิด’ ที่พร้อมอยู่เคียงข้างทุกสถานการณ์ โดยปีนี้ได้มอบเงินบำรุงขวัญ และเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น แก่ผู้ป่วยทหาร ตำรวจ และอาสาสมัคร ที่บาดเจ็บจากการเสียสละและอุทิศตนในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติ เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศล เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ 2 เมษายน 2566 โดยมีทันตแพทย์วรกิจ ไวทยะวานิช รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลทหารผ่านศึก เป็นผู้แทนรับมอบ ณ โรงพยาบาลทหารผ่านศึก ถนนวิภาวดีรังสิต.

x

ธนาคารกรุงเทพ ร่วมกิจกรรม “สร้างจิตสำนึกเรื่องความสะอาด” ครั้งที่ 1 ปลุกจิตสำนึก หนุนการมีส่วนร่วม ทำย่านสีลมให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น

30 มีนาคม 2566

รักสะอาด-ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โดยนางสาวกรองทอง การุณย์นราทร เจ้าหน้าที่บริหารระดับ Senior Vice President ผู้จัดการฝ่ายอาคารสำนักงานและทรัพย์สิน (ที่ 2 จากขวา) นางพรเพ็ญ พิมพ์วิริยะกุล เจ้าหน้าที่บริหารระดับ Vice President ผู้จัดการออกแบบและบริหารงานก่อสร้าง (ขวาสุด) และนายสุวิทย์ อินทรเฉลิม เจ้าหน้าที่บริหารระดับ Vice President ฝ่ายการประชาสัมพันธ์ (ที่ 3 จากซ้าย) พร้อมด้วยพนักงานธนาคารฯ ร่วมกิจกรรม “สร้างจิตสำนึกเรื่องความสะอาด” ครั้งที่ 1 ซึ่งจัดโดยสำนักงานเขตบางรัก และสมาคมเรารักสีลม เพื่อปลุกจิตสำนึกให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมและเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกันดูแลรักษาความสะอาด ไม่ทิ้งขยะลงพื้น และทำการแยกขยะก่อนการทิ้งทุกครั้ง เพื่อทำให้ย่านสีลมมีความสะอาดและน่าอยู่ยิ่งขึ้น โดยธนาคารกรุงเทพในฐานะสมาชิกสมาคมเรารักสีลม มุ่งมั่นในการพัฒนาเมืองในย่านสีลม ให้เป็นพื้นที่แห่งโอกาสทางเศรษฐกิจ และสามารถอยู่ร่วมกันกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน ตอกย้ำจุดยืน ‘เพื่อนคู่คิด’ ที่ต้องการเคียงอยู่ข้างลูกค้าและสังคมไทยในระยะยาว โดยโอกาสนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ที่ 4 จากซ้าย) นางสาวอัญชนา บุญสุยา ผู้อำนวยการเขตบางรัก (ที่ 2 จากซ้าย) และคุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช นายกสมาคมสร้างสรรค์ไทย (ตาวิเศษ) (ที่ 3 จากขวา) พร้อมด้วยผู้แทนจากสมาคมเรารักสีลม เข้าร่วมกิจกรรม พร้อมช่วยกันเก็บขยะและทำความสะอาดทางเท้าตลอดถนนเส้นสีลม

x

ธนาคารกรุงเทพ จับมือ เอไอเอ ชวนคนไทยดูแลสุขภาพครบวงจร ผ่าน “เอไอเอ ไวทัลลิตี้” ประเมินสุขภาพ-ออกกำลัง-พิชิตภารกิจ ยิ่งแข็งแรงยิ่งได้ลดค่าเบี้ยเยอะ สูงสุดถึง 25%

28 มีนาคม 2566

ธนาคารกรุงเทพ ร่วมกับ เอไอเอ ประเทศไทย ต่อยอดสิทธิประโยชน์สำหรับลูกค้าซื้อประกันผ่านธนาคาร ด้วยโครงการ “เอไอเอ ไวทัลลิตี้” โปรแกรมดูแลสุขภาพครบวงจร ตั้งแต่ประเมินสุขภาพ แนะนำการออกกำลังกาย ใช้บริการด้านสุขภาพ ยิ่งสุขภาพดี ยิ่งได้ลดค่าเบี้ยเยอะ สูงสุดถึง 25% ย้ำบทบาท “เพื่อนคู่คิด” เข้าใจลูกค้า พร้อมสร้างประสบการณ์ที่ดีอยู่เสมอ หวังลูกค้ามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นระยะยาว

นางสาวพรพิมล ตรงเที่ยงธรรม ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ร่วมมือกับ เอไอเอ ประเทศไทย ในฐานะพันธมิตรหลักด้านประกันชีวิต พัฒนาความร่วมมือเพิ่มขึ้นเพื่อส่งมอบประสบการณ์และสิทธิประโยชน์สุดพิเศษให้แก่ลูกค้า ผ่าน “เอไอเอ ไวทัลลิตี้” โครงการเพื่อสุขภาพที่จะช่วยแนะนำแนวทางการดูแลตัวเองเพื่อให้มีสุขภาพดี พร้อมส่วนลดเบี้ยประกันแรกเข้าสูงสุดถึง 10% ของค่าเบี้ยประกันภัยมาตรฐาน และส่วนลดเบี้ยประกันในปีต่ออายุ สูงสุดถึง 25% ของค่าเบี้ยประกันภัยมาตรฐานตามสถานะของเอไอเอ ไวทัลลิตี้ ซึ่งช่วยต่อยอดสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกค้าที่ซื้อประกันชีวิตบี ทูเกตเทอร์ และสัญญาเพิ่มเติมต่างๆ ที่ร่วมโครงการ ผ่านช่องทางของธนาคารกรุงเทพ

ธนาคารมั่นใจว่าโครงการ “เอไอเอ ไวทัลลิตี้” จะช่วยส่งเสริมให้ลูกค้าสนุกไปกับการได้รับคำแนะนำด้านการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม มีตั้งแต่การประเมินออนไลน์เพื่อทำความรู้จักสุขภาพของตนเอง การเข้ารับบริการด้านสุขภาพ การออกกำลังกายที่เหมาะสมและสม่ำเสมอ ตลอดจนภารกิจต่างๆ ในชีวิตประจำวันที่จะช่วยส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับได้รับความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร โดยแต่ละกิจกรรมจะมีคะแนนให้ลูกค้าสะสมเพื่อปรับสถานะสมาชิกของ “เอไอเอ ไวทัลลิตี้” ยิ่งมีสถานะสูงขึ้น ก็จะได้รับสิทธิพิเศษเป็นส่วนลดค่าเบี้ยประกันมากขึ้น รวมถึงได้รับสิทธิประโยชน์จากพาร์ทเนอร์ต่างๆ อีกด้วย

“การเข้าใจความต้องการเชิงลึกของลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะทำให้เราเข้าใจลูกค้าและพร้อมเป็น “เพื่อนคู่คิด” ที่แนะนำผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีได้อยู่เสมอ ขณะเดียวกันธนาคารยังได้รับความร่วมมือที่ดีจากเอไอเอ ประเทศไทย มาร่วมกันตอบโจทย์ความต้องการให้ลูกค้าได้อย่างตรงใจ ไม่ว่าจะเป็นโจทย์เรื่องการวางแผนการออมเงินพร้อมกับลงทุน โจทย์เรื่องการวางแผนส่งต่อมรดกให้ลูกหลาน รวมถึงเรื่องความคุ้มครองสุขภาพที่จ่ายระยะสั้น ซื้อง่าย ไม่เคลมมีเงินคืน จนมาถึงครั้งนี้ที่ได้ต่อยอดมาสู่โครงการ “เอไอเอ ไวทัลลิตี้” ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยสร้างประสบการณ์ที่มากกว่าการประกันภัยให้กับลูกค้าในทุกช่วงวัย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า “เอไอเอ ไวทัลลิตี้” จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดีพร้อมทั้งพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าธนาคารกรุงเทพอย่างแน่นอน" นางสาวพรพิมล กล่าว

นางสาวเจน เทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพันธมิตร ธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์เชิงกลยุทธ์ เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “เอไอเอ ในฐานะพันธมิตรระยะยาวด้านประกันชีวิตของธนาคารกรุงเทพ เรามีจุดมุ่งหมายสำคัญที่ต้องการสนับสนุนให้ผู้คนกว่าพันล้านคนทั่วภูมิภาคเอเชียมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น โดยเราให้ความสำคัญและต้องการดูแลลูกค้าของธนาคารกรุงเทพ นอกเหนือจากการส่งมอบความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ เอไอเอ ยังมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ลูกค้าของธนาคารกรุงเทพปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อให้มีสุขภาพกาย สุขภาพใจ และสุขภาพทางการเงินที่ดียิ่งขึ้น ดังนั้น สำหรับลูกค้าของธนาคารกรุงเทพที่ซื้อประกันชีวิตที่แนบสัญญาเพิ่มเติมที่เข้าร่วมโครงการจะสามารถสมัครสมาชิก เอไอเอ ไวทัลลิตี้ ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่ง “เอไอเอ ไวทัลลิตี้” เป็นโครงการสุขภาพที่พัฒนาบนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ เพื่อมุ่งช่วยแนะนำแนวทางแก่สมาชิกในการใช้ชีวิตเพื่อการมีสุขภาพดีในระยะยาว พร้อมทั้งมอบส่วนลดเบี้ยประกันภัยแรกเข้าสูงสุด 10% และส่วนลดในปีถัดๆ ไปสูงสุดถึง 25% ขึ้นอยู่กับสถานะเอไอเอ ไวทัลลิตี้ ของสมาชิก ที่ยิ่งสูงขึ้น สัดส่วนของส่วนลดก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย พร้อมทั้งยังสามารถรับสิทธิประโยชน์จากพันธมิตรชั้นนำอีกมากมาย โดยสัญญาเพิ่มเติมที่เข้าร่วมโครงการเอไอเอ ไวทัลลิตี้ ผ่านช่องทางธนาคารกรุงเทพ ได้แก่

สัญญาเพิ่มเติมกลุ่มโรคร้ายแรง

สัญญาเพิ่มเติม AIA CI Plus คุ้มครองโรคร้ายแรง 44 โรค/ การรักษา และการเสียชีวิต
สัญญาเพิ่มเติม AIA CI Care คุ้มครองโรคร้ายแรงระดับต้นถึงระดับปานกลาง 18 โรค/ การรักษา และโรคร้ายแรงระดับรุนแรง 44 โรค/การรักษา

สัญญาเพิ่มเติมกลุ่มค่ารักษาพยาบาลและชดเชยรายวัน

สัญญาเพิ่มเติม AIA Infinite Care (new standard) คุ้มครองสูง ครอบคลุมทั่วโลก ดูแลทุกระดับการรักษา (ขึ้นอยู่กับอาณาเขตความคุ้มครองที่เลือก)
สัญญาเพิ่มเติม AIA Health Happy ผลประโยชน์เหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลเฉพาะบางรายการ และไม่เกินวงเงินที่กำหนด กรณีเป็นโรคร้ายแรงผลประโยชน์สูงสุดจะเพิ่มเป็น 2 เท่าของจำนวนเงินเอาประกันภัยในปีกรมธรรม์ที่ผู้เอาประกันภัยเข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคร้ายแรง และต่อเนื่องติดต่อไปอีก3 ปีกรมธรรม์
สัญญาเพิ่มเติม AIA H&S Extra (new standard) ผลประโยชน์ผู้ป่วยใน พร้อมผลประโยชน์ผู้ป่วยนอกคุ้มค่าด้วยผลประโยชน์เงินคืนพิเศษ
สัญญาเพิ่มเติม AIA HB Extra ผลประโยชน์ค่าชดเชยรายวัน

เรามีความเชื่อมั่นว่าการร่วมกันพัฒนาช่องทางการสมัครสมาชิกโครงการ “เอไอเอ ไวทัลลิตี้” ผ่านธนาคารกรุงเทพครั้งนี้ จะเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของทั้งทางเอไอเอ ประเทศไทย และธนาคารกรุงเทพ ในการช่วยสนับสนุนให้ลูกค้ามีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน” นางสาวเจน กล่าว

สำหรับลูกค้าที่สนใจผลิตภัณฑ์ “เอไอเอ ไวทัลลิตี้” สามารถปรึกษาและวางแผนประกันชีวิตได้ที่ธนาคารกรุงเทพ ณ สาขาที่ให้บริการ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บัวหลวงโฟน 1333 หรือ 0-2645-4555 หรือติดต่อเอไอเอ คอลเซ็นเตอร์ 02-353-8855 ทุกวัน เวลา 08.00 – 22.00 น.

x

ธนาคารกรุงเทพ – AIS 5G ผสานความร่วมมือ ผลักดัน Digital Economy มุ่งนำโครงข่ายอัจฉริยะและโซลูชันทางการเงิน เชื่อมดิจิทัลไลฟ์สไตล์ผ่านบัตรเดบิต “Be1st Digital AIS POINTS”ให้ลูกค้าสะสมพอยท์ได้แบบ 360 องศา อุ่นใจ ปลอดภัย ทุกประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์

27 มีนาคม 2566

ธนาคารกรุงเทพ และ AIS 5G ผู้นำจาก 2 อุตสาหกรรมหลักของประเทศทั้งบริการทางการเงินและโทรคมนาคม ผนึกความร่วมมือครั้งสำคัญ เดินหน้าผลักดันการเติบโตของระบบเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ Digital Economy ของประเทศ ด้วยการใช้ศักยภาพความแข็งแกร่งร่วมกัน จากขีดความสามารถของโครงข่ายอัจฉริยะและนวัตกรรมทางการเงินเข้าเชื่อมต่อประสบการณ์ดิจิทัลให้กับลูกค้า สร้างโอกาสให้คนไทยเข้าถึงบริการทางการเงินรูปแบบใหม่บนดิจิทัลแพลตฟอร์ม ผ่านการเปิดตัวบัตรเดบิต Be1st Digital AIS POINTS (บัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล เอไอเอส พอยท์) บัตรเดบิตที่จะมาพลิกโฉมประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ของลูกค้า ด้วยสิทธิพิเศษจากคะแนนสะสมของ AIS Points และความปลอดภัยสูงสุดด้วยมาตรฐานบริการทางการเงินจากธนาคารกรุงเทพ โดยทุกการช้อปออนไลน์ 200 บาท รับทันที 1 AIS Points ที่ลูกค้าสามารถนำคะแนนแลกรับสิทธิพิเศษมากมาย ทั้ง ค่าโทร, ค่าเน็ต, แลก LINE STICKERS, แลกรับอาหารและเครื่องดื่ม หรือแม้แต่แลกรับส่วนลดสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำ ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ มากกว่า 1.8 ล้าน ร้านค้าทั่วประเทศ บนแอป myAIS ทั้งนี้ยังมอบความพิเศษแบบจัดเต็ม เพียงสมัครบัตร “Be1st Digital AIS POINTS” ภายใน 31 ส.ค. 66 ฟรีค่าธรรมเนียม และรับคะแนน AIS Points สูงสุดถึง 200 พอยท์

นายโชค ณ ระนอง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพ ในฐานะสถาบันการเงินชั้นนำของภูมิภาค และ เอไอเอส ผู้นำด้านบริการดิจิทัลและโครงข่ายสื่อสาร ร่วมกันเปิดตัว “บัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล เอไอเอส พอยท์” บัตร co-brand ร่วมกันครั้งแรก เพื่อส่งมอบประสบการณ์ด้านการชำระเงินค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ ผ่านร้านค้าออนไลน์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีความปลอดภัยขั้นสูง ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมของลูกค้าในยุคปัจจุบัน ขณะเดียวกันยังตอบโจทย์ความคุ้มค่าในทุกการใช้จ่ายออนไลน์ผ่านบัตร ทุกๆ 200 บาท รับ เอไอเอส พอยท์ 1 พอยท์ สูงสุดถึง 100 พอยท์ต่อบัตรต่อเดือน สำหรับสะสมแลกรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากเอไอเอส

“บัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล เอไอเอส พอยท์” ยังมีจุดเด่นที่สามารถใช้ทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วน ใช้ได้สะดวก ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะใช้บัตรดิจิทัลเพียงอย่างเดียว หรือจะใช้คู่กับบัตรพลาสติกโดยบัตรพลาสติกจะถูกจัดส่งตามที่อยู่ที่ลูกค้าได้ยืนยันในขั้นตอนการสมัครบัตร ทำให้สามารถรองรับการทำธุรกรรมต่างๆของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ รวมถึงเบิก โอน จ่ายที่ตู้ ATM และชำระค่าสินค้าหรือบริการแบบไร้สัมผัส (Contactless) ทั้งยังมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัยขั้นสุด ซึ่งใช้เทคโนโลยีเดียวกันกับบัตรบีเฟิสต์ดิจิทัล ที่คว้ารางวัล “Debit Card of The Year” จากการประกาศรางวัล Global Retail Banking Innovation Awards 2022 จัดโดย The Digital Banker เว็บไซต์ด้านข่าวสาร การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินการธนาคารระดับโลก และรางวัล “Most Innovative Debit Card Offering Thailand 2022” ตามด้วย “Most Innovative Debit Card Offering Thailand 2023” จาก World Economic Magazine นิตยสารออนไลน์ด้านธุรกิจของสหรัฐอเมริกา

“นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของทั้งธนาคารกรุงเทพและเอไอเอส ที่นำจุดแข็งมาผนึกความร่วมมือเข้าด้วยกัน เพื่อพัฒนา “บัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล เอไอเอส พอยท์” ด้วยเป้าหมายการสร้างประสบการณ์ใช้บริการที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า ทั้งการทำธุรกรรมออนไลน์ต่าง ๆ ได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว สามารถปรับเปลี่ยนหรือกำหนดวงเงิน ตลอดจนตรวจสอบยอดใช้จ่ายได้ด้วยตนเองผ่านโมบายแบงก์กิ้ง ของธนาคารกรุงเทพ จึงอุ่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย ทั้งยังได้รับความคุ้มค่าจากเอไอเอส พอยท์ และโอกาสนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีให้แก่ฐานลูกค้าของเอไอเอสที่มีมากกว่า 46 ล้านราย จึงมั่นใจว่าลูกค้าจะให้ความสนใจและตอบรับที่ดี คาดว่าจะมีลูกค้าสมัครบัตรดังกล่าวไม่น้อยกว่า 6 ล้านบัตร ภายใน 5 ปี นับเป็นอีกหนึ่งแผนงานสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำด้าน Digital Payment Solution ได้อย่างครบวงจร และสอดคล้องกับการพัฒนาด้าน Digital Economy ของประเทศไทยอีกด้วย” นายโชค กล่าว

นายธีร์ สีอัมพรโรจน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน AIS กล่าวเสริมว่า “ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจของ AIS ในการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเทคโนโลยีให้มีขีดความสามารถและพร้อมเชื่อมต่อการทำงานกับอุตสาหกรรมหลัก เพื่อสร้างการเติบโตให้กับ Digital Economy ของประเทศ โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาเรามีความเชื่อในเรื่องของการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ ทำให้วันนี้ AIS ยังคงสร้าง Ecosystem โดยใช้จุดแข็งของแต่ละฝ่ายมาสร้างประโยชน์ในด้านต่างๆ ให้แก่คนไทยและประเทศ

ดังนั้นความร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพในครั้งนี้ จึงเป็นการยืนยันถึงเป้าหมายการทำงานในด้านการดูแลลูกค้าผ่านโปรแกรม AIS Points ด้วยการนำศักยภาพของโครงข่ายอัจฉริยะมาสร้างโอกาสให้คนไทยเข้าถึงบริการทางการเงิน พร้อมรับ AIS Points จากการช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านบัตรเดบิต Be1st Digital AIS POINTS ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่เราต้องการตอบโจทย์ในมุมของการ Earn หรือสะสมคะแนน ให้ลูกค้าได้รับพอยท์จากพาร์ทเนอร์นอกเหนือจากการใช้บริการของ AIS ในขณะเดียวกันลูกค้ายังสามารถนำมา Burn หรือแลกคะแนนกับร้านค้าซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ของ AIS ที่ครอบคลุมทุกดิจิทัลไลฟ์สไตล์มากกว่า 1.8 ล้าน ร้านค้าทั่วประเทศ และอีก 20,000 แบรนด์ชั้นนำ บนห้างสรรพสินค้า ร้านค้ารายย่อย ร้านสตรีทฟู้ด รถเข็น ทั่วประเทศ บนแอป myAIS ได้เช่นกัน”

นายธีร์ กล่าวในช่วงท้ายว่า “เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการยกระดับการทำงานเพื่อลูกค้า ซึ่งนอกเหนือจากการที่ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ดิจิทัลจากการใช้จ่ายช้อปปิ้งออนไลน์แล้ว ความร่วมมือครั้งนี้จะสามารถสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งลูกค้าของ AIS และธนาคารกรุงเทพ รวมถึงพาร์ทเนอร์ร้านค้าที่อยู่ในเครือข่ายของโปรแกรม AIS Points ทั่วประเทศ ซึ่งทั้งหมดจะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของ Digital Economy จนนำมาสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้เติบโตได้ท่ามกลางความท้าทายในช่วงเวลานี้”

สำหรับบัตรเดบิต Be1st Digital AIS POINTS มาพร้อมกับคาแรคเตอร์น้องอุ่นใจสุดน่ารัก 4 แบบ 4 ลาย ให้ลูกค้าได้เลือกทั้งในรูปแบบบัตรดิจิทัลและบัตรพลาสติก มีจุดเด่นในเรื่องปลอดภัยในการทำธุรกรรมขั้นสูงสุดตามมาตรฐานระดับโลกด้วยเทคโนโลยีเดียวกันกับบัตรบีเฟิสต์ดิจิทัล ทำให้การใช้งานธุรกรรมทางการเงินต่างๆ มีความสะดวกสบาย ครบถ้วน โดยลูกค้าธนาคารกรุงเทพ และลูกค้า AIS สามารถสมัครได้ด้วยตัวเองง่ายๆ ผ่าน โมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ

โดยลูกค้าที่สมัคร “บัตร Be1st Digital AIS POINTS” ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 สิงหาคม 2566 รับสิทธิพิเศษมากมาย ตั้งแต่ฟรีค่าธรรมเนียม 300 บาท โดยลูกค้าใหม่ที่มีการเปิดบัญชี e-Savings พร้อมโมบายแบงก์กิ้งจากธนาคารกรุงเทพ เมื่อมีการใช้จ่ายออนไลน์ผ่านบัตร ตามเงื่อนไขที่กำหนดครั้งแรกรับทันที 200 เอไอเอส พอยท์ และลูกค้าปัจจุบันเมื่อสมัครบัตรพร้อมใช้จ่ายออนไลน์ผ่านบัตรครั้งแรก รับทันที 100 เอไอเอส พอยท์ และพิเศษยิ่งขึ้น! ทุกการช้อปออนไลน์ผ่านบัตร “บัตร Be1st Digital AIS POINTS” ทุกๆ 200 บาท จะได้รับ 1 เอไอเอส พอยท์ สูงสุด 100 พอยท์ ต่อบัตรต่อเดือน

ลูกค้าสามารถนำคะแนนแลกรับสิทธิพิเศษมากมาย ทั้ง ค่าโทร, ค่าเน็ต, แลก LINE STICKERS, แลกรับอาหารและเครื่องดื่ม หรือแม้แต่แลกรับส่วนลดสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำ ร้านโชว์ห่วย หรือแม้แต่ร้านสตรีทฟู้ด มากกว่า 1.8 ล้าน ร้านค้าทั่วประเทศ บนแอป myAIS ผู้สนใจสมัคร สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บัวหลวงโฟน โทร.1333 หรือ 0-2645-5555 และ AIS ที่https://www.bangkokbank.com/th-TH/Personal/Cards/Be1st-Smart-Card/Be1st-Digital-AIS-POINTS

x

ธนาคารกรุงเทพ ขอเรียนเชิญร่วมงาน เปิดตัวบัตรเดบิต co-brand “บัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล เอไอเอส พอยท์”

20 มีนาคม 2566

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะ ‘สถาบันการเงินชั้นนำของภูมิภาค’ และ AIS 5G ในฐานะ ‘ผู้นำด้านบริการเทคโนโลยีดิจิทัลและโครงข่ายสื่อสาร’ ร่วมผนึกพลังกันเป็นครั้งแรก เปิดตัว “บัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล เอไอเอส พอยท์” บัตรเดบิต co-brand ที่มาพร้อมสิทธิพิเศษมากมาย เพื่อส่งมอบประสบการณ์ด้านการชำระเงินค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ ผ่านร้านค้าออนไลน์ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีความปลอดภัยขั้นสูง

โอกาสนี้ ธนาคาร และ AIS 5G จึงขอเรียนเชิญท่าน และหรือผู้สื่อข่าวในสังกัดของท่าน ให้เกียรติเข้าร่วมงานแถลงข่าวดังกล่าว ในวันจันทร์ ที่ 27 มีนาคม 2566 เวลา 10.00 – 11.30 น. ณ ชั้น 11 อาคารเพิร์ล แบงก์ค็อก (Pearl Bangkok) ถนนพหลโยธิน (รถไฟฟ้า BTS สถานีอารีย์-ทางออก 1) โดยมี คุณโชค ณ ระนอง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และคุณธีร์ สีอัมพรโรจน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน เอไอเอส พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง จากธนาคารกรุงเทพ และ AIS 5G เข้าร่วมพูดคุยในงาน

พิเศษ! สำหรับท่านสื่อมวลชน สามารถเป็นเจ้าของ “บัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล เอไอเอส พอยท์” ได้ก่อนใคร เพียงแค่เตรียมเบอร์ AIS (แบบรายเดือน หรือเติมเงิน ที่ลงทะเบียนด้วยหมายเลขบัตรประชาชนของตนเอง) พร้อมมีบัญชีและโมบายแบงก์กิ้ง ธนาคารกรุงเทพ มาสมัครบัตรภายในงาน ก็รับไปเลยคะแนน AIS Points แบบจัดเต็ม

ธนาคารขอขอบพระคุณทุกท่านที่ได้ให้ความอนุเคราะห์ในการร่วมกิจกรรม นำเสนอข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวของธนาคารและผู้บริหารด้วยดีเสมอมา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับเกียรติจากท่านในกิจกรรมครั้งนี้

x

ธนาคารกรุงเทพ แจ้งปิดปรับปรุงระบบชั่วคราว เพื่อพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการลูกค้า

3 มีนาคม 2566

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) แจ้งขออภัยในความไม่สะดวก กรณีขอปิดปรับปรุงระบบงานอิเล็กทรอนิกส์ชั่วคราว เพื่อพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการบริการให้ดียิ่งขึ้น ในเช้าวันเสาร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 02.00 น. – 07.00 น. ซึ่งจะส่งผลให้ลูกค้าของธนาคารและลูกค้าต่างธนาคาร ไม่สามารถใช้บริการทำธุรกรรมในวันและช่วงเวลาที่กำหนดได้ ตามรายละเอียด ดังนี้

ตั้งแต่เวลา 02.00 น. - 07.00 น.

บริการโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ (Bangkok Bank Mobile Banking)
บริการ BeMerchant
บริการ BeMerchant NextGen

ตั้งแต่เวลา 02.00 น. – 05.00 น.

บริการบัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง (Bualuang iBanking)
บริการบิซ ไอแบงก์กิ้ง (BIZ iBanking)
บริการ คอร์ปอเรท ไอแคช (Corporate iCash)
บริการเครื่องบัวหลวงเอทีเอ็ม (ATM) เครื่องบัวหลวงรับฝากเงินสดอัตโนมัติ (CDM) และเครื่องบัวหลวงฝากถอนอัตโนมัติ (CDM/ATM)
บริการบัวหลวงโฟน
บริการตัวแทนธนาคาร (Banking Agent)
บริการรับเงินโอน ฝากเงิน และชำระค่าสินค้าและบริการ จากต่างธนาคารเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ
บริการ e-Wallet และ QR Payment
ผู้ถือบัตรเดบิตธนาคารกรุงเทพทุกประเภท ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้
ผู้ถือบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพทุกประเภท ไม่สามารถทำธุรกรรมเบิกถอนเงินสดที่เครื่องเอทีเอ็มได้

ธนาคารขออภัยลูกค้าทุกท่านสำหรับความไม่สะดวกในครั้งนี้ด้วย โดยลูกค้าทุกท่านสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้จากสื่อประชาสัมพันธ์ของธนาคารกรุงเทพทุกช่องทาง ได้แก่ www.bangkokbank.com, Bangkok Bank LINE Official เพจ Facebook-BangkokBankOfficial หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บัวหลวงโฟน โทร.1333 หรือ 0 2645 5555

x

สภาผู้นำธุรกิจไทย-สหราชอาณาจักร ประชุมขับเคลื่อนโอกาสการค้า-ลงทุน

1 มีนาคม 2566

โอกาสการค้าลงทุน - สภาผู้นำธุรกิจไทย-สหราชอาณาจักร (Thai-British Business Council - TUBLC) นำโดย นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธาน TUBLC นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่ ฝ่ายงานพาณิชย์ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นายกำธร ศิลาอ่อน กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการผลิตและการเงิน บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายพิษณุ สุวรรณะชฎ อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน นางสาวปรารถนา ดิษยทัต ผู้อำนวยการกอง กองยุโรปตะวันตก กรมยุโรป กระทรวงต่างประเทศ และคณะผู้บริหารระดับสูงบริษัทชั้นนำจากทั้งสองประเทศในฐานะสมาชิกฯ ร่วมประชุม ประจำปี 2566 เพื่อร่วมปรึกษาหารือ แลกเปลี่ยนประสบการณ์และผนึกความร่วมมือกันอย่างสร้างสรรค์ระหว่างเครือข่ายธุรกิจการค้าการลงทุน ในการเดินหน้าแสวงหาแนวทางและโอกาสใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพที่จะเติบโตกับพันธมิตรธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งทางธุรกิจการค้าระหว่างไทยและ สหราชอาณาจักร ณ เดอะบางกอก คลับ อาคาร สาธรซิตี้ เมื่อเร็วๆนี้

x

ธนาคารกรุงเทพ ชี้ช่องคว้าโอกาสทอง ลงทุนอสังหาฯ ในญี่ปุ่นราคาถูกลง 30%หลังเงินเยนอ่อนค่าทุบสถิติในรอบครึ่งศตวรรษ ซ้ำดอกเบี้ยต่ำพร้อมรับบท ‘เพื่อนคู่คิด’ พาธุรกิจ-นักลงทุนไทย บุกตลาดแดนซามูไร

28 กุมภาพันธ์ 2566

ธนาคารกรุงเทพ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “สินเชื่อบัวหลวงพูนผลกรีน” เพื่อเปลี่ยนบ้านเป็นเงินก้อน สำหรับนำไปปรับปรุงบ้านเดิม ให้กลายเป็นบ้านประหยัดพลังงาน ไม่ว่าจะติดตั้งหลังคา Solar Cell หรือ EV Charger ที่บ้าน รวมถึงปรับปรุงบ้าน-เพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกรองรับผู้สูงอายุ/ผู้พิการ ชูจุดเด่นดอกเบี้ยพิเศษตลอดอายุสัญญา เริ่มต้นเพียง MRR-1% ต่อปี แค่มีบ้านปลอดภาระ หรือบ้านเดิมที่ยังผ่อนกับธนาคารอยู่ หรือรีไฟแนนซ์มาแล้วขอวงเงินกู้เพิ่มได้ ฟรี! ค่าสำรวจและประเมินหลักประกัน พิเศษ! อนุมัติเบิกใช้ 200 คนแรก รับทันที e-Voucher 2,000 บาท ส่วนกรณีซื้อบ้านใหม่ใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน รับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 3-6 เดือนแรก

นางสาวสุญาณี ภูริปัญญวานิช ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ลูกค้าบุคคล ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากปัญหาภาวะโลกร้อน สภาพอากาศแปรปรวน รวมถึงปัญหาฝุ่นพิษ หรือ PM 2.5 ที่เรากำลังเผชิญ ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้พลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมาก ทำให้หลายคนหันมาตระหนักและใส่ใจในเรื่องของการอนุรักษ์พลังงานและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ธนาคารกรุงเทพ ในฐานะ ‘สถาบันการเงินชั้นนำของภูมิภาค’ ที่มุ่งสู่การดำเนินธุรกิจ โดยยึดหลักการเติบโตอย่างยั่งยืน ครอบคลุมมิติทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environment, Social and Governance – ESG) โดยที่ผ่านมาได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ภายใต้หลัก ESG อย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด ธนาคารได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “สินเชื่อบัวหลวงพูนผลกรีน” สินเชื่อที่จะช่วยเปลี่ยนบ้านที่ปลอดภาระให้เป็นเงินก้อนใหญ่ สูงสุดถึง 10 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้สำหรับการปรับปรุงบ้านที่ใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมในรูปแบบพลังงานสะอาด หรือพลังงานทดแทน เช่น การติดตั้งหลังคา Solar Cell การใช้พลังงานลมระบายความร้อน การติดตั้งเครื่อง EV Charger กับตัวบ้าน รวมถึงการปรับปรุงบ้านเพื่อให้รองรับกับการอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการการดูแลพิเศษ เช่น ผู้สูงอายุ/ผู้พิการ เช่น การก่อสร้างทางลาด การออกแบบความกว้างของทางเดิน หรือ การติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เป็นต้น

สินเชื่อดังกล่าวจะมีจุดเด่นที่อัตราดอกเบี้ยต่ำตลอดอายุสัญญา สามารถสมัครใช้บริการได้ทั้งกรณีบ้านปลอดภาระ ซึ่งคิดอัตราดอกเบี้ย MRR-0.75% = 6.05% ต่อปี และกรณีเป็นลูกค้าสินเชื่อบ้านบัวหลวงในปัจจุบันหรือขอรีไฟแนนซ์มาที่ธนาคาร พร้อมขอวงเงินกู้เพิ่ม อัตราดอกเบี้ยส่วนที่กู้เพิ่ม MRR-1% = 5.80% ต่อปี โดยสามารถขอวงเงินสินเชื่อได้ตามมูลค่าการปรับปรุงบ้าน หรือสูงสุดถึง 10 ล้านบาท และเลือกระยะเวลาผ่อนชำระได้นานถึง 10 ปี (MRR = 6.80% ต่อปี ตามประกาศธนาคาร ณ วันที่ 27 ม.ค. 66 และเงื่อนไขตามที่ธนาคารกำหนด)

โอกาสนี้ ธนาคารยังมีโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับลูกค้า 200 ท่านแรกที่ได้รับอนุมัติวงเงินสินเชื่อตั้งแต่ 500,000 บาทขึ้นไป และจดจำนองหลักประกันภายใน 30 มิถุนายน 2566 รับเพิ่ม E-Voucher by Central Group มูลค่า 2,000 บาท ฟรี! ค่าสำรวจและประเมินหลักประกัน

นอกจากนี้ ธนาคารยังมี “สินเชื่อบ้านบัวหลวง” สำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ ในโครงการที่มีการนำเทคโนโลยี/นวัตกรรมในรูปแบบพลังงานสะอาด หรือ พลังงานทดแทนมาใช้ จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3-6 เดือนแรก จากแคมเปญอัตราดอกเบี้ยในแต่ละโครงการอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย

“ธนาคารกรุงเทพ ในฐานะ “เพื่อนคู่คิด” พร้อมให้การสนับสนุนสินเชื่อ เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนในการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่หรือปรับเปลี่ยนที่อยู่อาศัยเดิมเพื่อให้เป็นบ้านประหยัดพลังงาน ซึ่งจะส่งผลดีต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม คุณภาพอากาศ และคุณภาพชีวิตในระยะยาว และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายจากราคาพลังงานที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต ขณะเดียวกันธนาคารยังสนับสนุนเงินทุนสำหรับการนำไปใช้ปรับปรุงที่อยู่อาศัยหรือติดตั้งอุปกรณ์เพื่อรองรับการใช้ชีวิตสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ ซึ่งจะช่วยทำให้การใช้ชีวิตเป็นไปอย่างสะดวกและปลอดภัยมากขึ้นด้วย” นางสาวสุญาณี กล่าว

สำหรับลูกค้าที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bangkokbank.com/HomeEquityLoanหรือติดต่อสอบถามได้ที่ สาขาธนาคารกรุงเทพทั่วประเทศ หรือบัวหลวงโฟน โทร.1333 หรือ 0 2645 5555

x

ธนาคารกรุงเทพ ประกาศจ่ายเงินปันผล หุ้นละ 4.50 บาท สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2565 พร้อมมติแต่งตั้ง ‘พรเทพ พรประภา’ เป็นประธานกรรมการธนาคาร

24 กุมภาพันธ์ 2566

ธนาคารกรุงเทพ ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2565 สำหรับหุ้นสามัญในอัตราหุ้นละ 4.50 บาท พร้อมกำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี ครั้งที่ 30 ในวันที่ 12 เมษายน 2566

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการธนาคาร ครั้งที่ 2/2566 เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 เห็นชอบให้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2565 สำหรับหุ้นสามัญ ในอัตราหุ้นละ 4.50 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 8,589,793,023.00 บาท โดยเป็นเงินปันผลที่จ่ายจากกำไรสะสม ซึ่งธนาคารได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว ในอัตราหุ้นละ 1.50 บาท เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2565 และจะจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายอีกในอัตราหุ้นละ 3.00 บาท ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 24 เมษายน 2566

โดยกำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี ครั้งที่ 30 ในวันที่ 12 เมษายน 2566 เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป ณ ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ เลขที่ 333 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร

พร้อมกันนี้ที่ประชุมได้มีมติแต่งตั้ง นายพรเทพ พรประภา ให้ดำรงตำแหน่งเป็น ประธานกรรมการธนาคาร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป

x

ธนาคารกรุงเทพ - ไทวัสดุ เอาใจลูกค้าหัวใจสีเขียว ติดหลังคาโซลาร์ อัดแคมเปญจุก ๆ พิเศษ 3 ต่อ เงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษตลอดสัญญา-ส่วนลดค่าติดแผงโซลาร์-บัตรกำนัล

17 กุมภาพันธ์ 2566

พิเศษ 3 ต่อ-นางสาวลัคนา หัตถกา เจ้าหน้าที่บริหารระดับ Senior Vice President สินเชื่อบ้าน ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และ นางสาวชุติพร คงเจริญสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ร่วมกันจัดแคมเปญพิเศษสำหรับ “สินเชื่อบัวหลวงพูนผลกรีน” เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการขอกู้เพื่อนำเงินปรับปรุงบ้านในรูปแบบพลังงานสะอาด หรือพลังงานทดแทน โดยสามารถนำบ้านที่ปลอดภาระมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน รวมถึงกรณีเป็นลูกค้าสินเชื่อบ้านที่ยังผ่อนกับธนาคารกรุงเทพหรือลูกค้าที่รีไฟแนนซ์ยังธนาคารพร้อมขอวงเงินกู้เพิ่ม รับข้อเสนอพิเศษถึง 3 ต่อ พิเศษต่อที่ 1 อัตราดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น MRR-1% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา ผ่อนชำระสบาย ๆ นานสูงสุด 10 ปี ฟรี!ค่าสำรวจและประเมินหลักประกัน พิเศษต่อที่ 2 รับส่วนลดพิเศษ และ รับเพิ่มสูงสุด 59,000 บาทเมื่อติดตั้งแผงโซลาร์ แบรนด์ฮาโก้ (HACO) จากไทวัสดุครบตามเงื่อนไข และพิเศษต่อที่ 3 ลูกค้า 200 ท่านแรกที่อนุมัติและเบิกใช้วงเงินสินเชื่อตั้งแต่ 500,000 บาทขึ้นไป ภายใน 30 มิถุนายน 2566 รับเพิ่ม E-Voucher by Central Group มูลค่า 2,000 บาทอีกด้วย

ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าวระหว่างธนาคารกรุงเทพ และไทวัสดุ สะท้อนถึงความตั้งใจร่วมกันที่จะสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงพลังงานสะอาดในครัวเรือนได้ง่ายขึ้น ช่วยลดค่าไฟฟ้าและประหยัดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้ในระยะยาว ขณะเดียวกันยังเป็นการส่งเสริมให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาด เพื่อร่วมผลักดันสังคมไทยให้ก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างแท้จริง และสอดคล้องกับเป้าหมายของทั้งสององค์กรที่มีความมุ่งมั่นให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

สำหรับลูกค้าที่สนใจสมัคร “สินเชื่อบัวหลวงพูนผลกรีน” สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สาขาธนาคารกรุงเทพทั่วประเทศ หรือบัวหลวงโฟน โทร.1333 หรือ 0 2645 5555 หรือ ดูรายละเอียดที่ www.bangkokbank.com/th-TH/Personal/My-Home/Home-Equity-Loan

x

ธนาคารกรุงเทพ เอาใจคนอยากอัปเกรดบ้านให้ประหยัดพลังงาน-รองรับผู้สูงอายุ/ผู้พิการชู ‘สินเชื่อบัวหลวงพูนผลกรีน’ เปลี่ยนบ้านเป็นเงินก้อน ดอกเบี้ยพิเศษตลอดสัญญา เริ่มต้น MRR-1%ต่อปีฟรี! ค่าประเมินราคาหลักประกัน พร้อมรับเพิ่ม e-Voucher 2,000 บาท

15 กุมภาพันธ์ 2566

ธนาคารกรุงเทพ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “สินเชื่อบัวหลวงพูนผลกรีน” เพื่อเปลี่ยนบ้านเป็นเงินก้อน สำหรับนำไปปรับปรุงบ้านเดิม ให้กลายเป็นบ้านประหยัดพลังงาน ไม่ว่าจะติดตั้งหลังคา Solar Cell หรือ EV Charger ที่บ้าน รวมถึงปรับปรุงบ้าน-เพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกรองรับผู้สูงอายุ/ผู้พิการ ชูจุดเด่นดอกเบี้ยพิเศษตลอดอายุสัญญา เริ่มต้นเพียง MRR-1% ต่อปี แค่มีบ้านปลอดภาระ หรือบ้านเดิมที่ยังผ่อนกับธนาคารอยู่ หรือรีไฟแนนซ์มาแล้วขอวงเงินกู้เพิ่มได้ ฟรี! ค่าสำรวจและประเมินหลักประกัน พิเศษ! อนุมัติเบิกใช้ 200 คนแรก รับทันที e-Voucher 2,000 บาท ส่วนกรณีซื้อบ้านใหม่ใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน รับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 3-6 เดือนแรก

นางสาวสุญาณี ภูริปัญญวานิช ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ลูกค้าบุคคล ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากปัญหาภาวะโลกร้อน สภาพอากาศแปรปรวน รวมถึงปัญหาฝุ่นพิษ หรือ PM 2.5 ที่เรากำลังเผชิญ ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้พลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมาก ทำให้หลายคนหันมาตระหนักและใส่ใจในเรื่องของการอนุรักษ์พลังงานและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ธนาคารกรุงเทพ ในฐานะ ‘สถาบันการเงินชั้นนำของภูมิภาค’ ที่มุ่งสู่การดำเนินธุรกิจ โดยยึดหลักการเติบโตอย่างยั่งยืน ครอบคลุมมิติทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environment, Social and Governance – ESG) โดยที่ผ่านมาได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ภายใต้หลัก ESG อย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด ธนาคารได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “สินเชื่อบัวหลวงพูนผลกรีน” สินเชื่อที่จะช่วยเปลี่ยนบ้านที่ปลอดภาระให้เป็นเงินก้อนใหญ่ สูงสุดถึง 10 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้สำหรับการปรับปรุงบ้านที่ใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมในรูปแบบพลังงานสะอาด หรือพลังงานทดแทน เช่น การติดตั้งหลังคา Solar Cell การใช้พลังงานลมระบายความร้อน การติดตั้งเครื่อง EV Charger กับตัวบ้าน รวมถึงการปรับปรุงบ้านเพื่อให้รองรับกับการอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการการดูแลพิเศษ เช่น ผู้สูงอายุ/ผู้พิการ เช่น การก่อสร้างทางลาด การออกแบบความกว้างของทางเดิน หรือ การติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เป็นต้น

สินเชื่อดังกล่าวจะมีจุดเด่นที่อัตราดอกเบี้ยต่ำตลอดอายุสัญญา สามารถสมัครใช้บริการได้ทั้งกรณีบ้านปลอดภาระ ซึ่งคิดอัตราดอกเบี้ย MRR-0.75% = 6.05% ต่อปี และกรณีเป็นลูกค้าสินเชื่อบ้านบัวหลวงในปัจจุบันหรือขอรีไฟแนนซ์มาที่ธนาคาร พร้อมขอวงเงินกู้เพิ่ม อัตราดอกเบี้ยส่วนที่กู้เพิ่ม MRR-1% = 5.80% ต่อปี โดยสามารถขอวงเงินสินเชื่อได้ตามมูลค่าการปรับปรุงบ้าน หรือสูงสุดถึง 10 ล้านบาท และเลือกระยะเวลาผ่อนชำระได้นานถึง 10 ปี (MRR = 6.80% ต่อปี ตามประกาศธนาคาร ณ วันที่ 27 ม.ค. 66 และเงื่อนไขตามที่ธนาคารกำหนด)

โอกาสนี้ ธนาคารยังมีโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับลูกค้า 200 ท่านแรกที่ได้รับอนุมัติวงเงินสินเชื่อตั้งแต่ 500,000 บาทขึ้นไป และจดจำนองหลักประกันภายใน 30 มิถุนายน 2566 รับเพิ่ม E-Voucher by Central Group มูลค่า 2,000 บาท ฟรี! ค่าสำรวจและประเมินหลักประกัน

นอกจากนี้ ธนาคารยังมี “สินเชื่อบ้านบัวหลวง” สำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ ในโครงการที่มีการนำเทคโนโลยี/นวัตกรรมในรูปแบบพลังงานสะอาด หรือ พลังงานทดแทนมาใช้ จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3-6 เดือนแรก จากแคมเปญอัตราดอกเบี้ยในแต่ละโครงการอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย

“ธนาคารกรุงเทพ ในฐานะ “เพื่อนคู่คิด” พร้อมให้การสนับสนุนสินเชื่อ เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนในการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่หรือปรับเปลี่ยนที่อยู่อาศัยเดิมเพื่อให้เป็นบ้านประหยัดพลังงาน ซึ่งจะส่งผลดีต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม คุณภาพอากาศ และคุณภาพชีวิตในระยะยาว และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายจากราคาพลังงานที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต ขณะเดียวกันธนาคารยังสนับสนุนเงินทุนสำหรับการนำไปใช้ปรับปรุงที่อยู่อาศัยหรือติดตั้งอุปกรณ์เพื่อรองรับการใช้ชีวิตสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ ซึ่งจะช่วยทำให้การใช้ชีวิตเป็นไปอย่างสะดวกและปลอดภัยมากขึ้นด้วย” นางสาวสุญาณี กล่าว

สำหรับลูกค้าที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bangkokbank.com/HomeEquityLoanหรือติดต่อสอบถามได้ที่ สาขาธนาคารกรุงเทพทั่วประเทศ หรือบัวหลวงโฟน โทร.1333 หรือ 0 2645 5555

x

แถลงการณ์

14 กุมภาพันธ์ 2566

ตามที่มีข่าวใน Social Media เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 ว่า ผู้ถือบัตรเครดิตของธนาคารถูกนำหมายเลขบัตรไปทำรายการในการซื้อโฆษณากับร้านค้าทางอินเตอร์เน็ต และได้รับ SMS จากทางธนาคาร โดยผู้ถือบัตรได้ปฏิเสธการทำรายการต่อธนาคารในวันเดียวกัน ธนาคารตรวจสอบแล้วได้ข้อยุติว่าผู้ถือบัตรไม่ต้องรับผิดชอบต่อรายการดังกล่าว

เนื่องจาก ระบบ Card Scheme ของ Visa และ MasterCard ที่ใช้กันในทุกประเทศ ได้อนุญาตให้ร้านค้าเลือกที่จะทำรายการ ทั้งแบบมีการยืนยันตัวตนโดยต้องใส่ OTP และรายการที่ใส่เฉพาะหมายเลขบัตรโดยไม่ใส่ OTP ในกรณีการทำรายการทางอินเตอร์เน็ตที่ใส่เฉพาะหมายเลขบัตรโดยไม่ใส่ OTP หากผู้ถือบัตรไม่ได้ทำรายการ สามารถปฏิเสธต่อธนาคารโดยเร็ว เพื่อจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบต่อรายการดังกล่าว

กรณีการใช้บัตรเครดิตในการซื้อสินค้าและบริการทางอินเตอร์เน็ต ธนาคารมีระบบแจ้งเตือนลูกค้า ที่ทำรายการทางอินเตอร์เน็ตทุกรายการ ด้วยการส่งผ่านทาง SMS และ/หรือ ข้อความแจ้งเตือน (Notification) ผ่าน Mobile Banking นอกจากนี้ ธนาคารยังมีระบบ Monitor Fraud ดักจับรายการที่ผิดปกติ และบล็อกร้านค้าที่ต้องสงสัย รวมทั้งระบบ Mobile Banking มีฟังก์ชั่นให้ลูกค้าสามารถเปิด ปิดการใช้งานของบัตรได้ด้วยตนเอง เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า ดังนั้น ลูกค้าผู้ถือบัตรของธนาคารควรเช็คสอบทาง SMS และ/หรือ ข้อความแจ้งเตือน (Notification) ผ่าน Mobile Banking ของธนาคารอย่างสม่ำเสมอ

x

ธนาคารกรุงเทพ ร่วมยินดีคู่รัก ถือฤกษ์ดี จดทะเบียนสมรส ในงาน “สายลมแห่งรัก Silom of Love @ Bangrak” เนื่องในวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ 2566

14 กุมภาพันธ์ 2566

ฤกษ์ดี วาเลนไทน์ - ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โดย นายสุวิทย์ อินทรเฉลิม เจ้าหน้าที่บริหารระดับ Vice President ฝ่ายการประชาสัมพันธ์ (ขวาสุด) นางสาวนัทธมน มีประวัติ เจ้าหน้าที่บริหารระดับ Assistant Vice President ผู้จัดการภาคนครหลวง 1 (ที่ 2 จากขวา) นางสาววิมลรัตน์ สว่างพาณิชย์ ผู้จัดการสาขาโอเรียนเต็ล (ซ้ายสุด) นางสาวรุ่งทิพย์ สุจาจิง ผู้จัดการสาขาสีลม (ที่ 3 จากซ้าย) และ นางดุษฎี เรียนดารา ผู้ช่วยผู้จัดการสาขาบางรัก (ที่ 2 จากซ้าย) เป็นผู้แทนธนาคารมอบกระเป๋าเดินทางที่ระลึก ขนาด 12 นิ้ว (กระเป๋าลูก) คละลาย จำนวน 800 ใบ พร้อมปฏิทินตั้งโต๊ะ จำนวน 800 ชุด สำหรับมอบให้กับคู่รัก ที่ถือฤกษ์ดี เข้าร่วมกิจกรรมจดทะเบียนสมรสวันวาเลนไทน์ -14 กุมภาพันธ์ 2566 ในงาน “สายลมแห่งรัก Silom of Love @ Bangrak” ที่จัดโดยสำนักงานเขตบางรัก โดยมีนางสาวอัญชนา บุญสุยา ผู้อำนวยการเขตบางรัก (ที่ 3 จากขวา) เป็นผู้รับมอบ

สำหรับบรรยากาศภายในงาน “สายลมแห่งรัก Silom of Love @ Bangrak” ซึ่งปีนี้จัดขึ้น ณ บริเวณชั้น 17 อาคารยูไนเต็ดเซ็นเตอร์ ถนนสีลม อบอวนไปด้วยกลิ่นไอแห่งความรักและความสุข จากคู่สมรส ญาติผู้ใหญ่ และเพื่อนสนิทที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในการเริ่มต้นชีวิตคู่อย่างเป็นทางการ โดยธนาคารกรุงเทพ ในฐานะ “เพื่อนคู่คิด” ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการจัดกิจกรรมจดทะเบียนสมรสในวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ ที่จัดโดยสำนักงานเขตบางรักมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนคู่รักจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้อง เพราะถือเป็นก้าวแรกของการเริ่มต้นชีวิตคู่ที่มั่นคง และเป็นรากฐานสำคัญของสถาบันครอบครัวที่นำไปสู่ความสงบสุขของสังคม

หน้าแรกลูกค้าบุคคล

การออมและการลงทุน

ผลิตภัณฑ์บัตร

ผลิตภัณฑ์เพื่อครอบครัว

บ้านและที่อยู่อาศัย

ดิจิทัลแบงก์กิ้ง

บริการอื่นๆ

หน้าแรกลูกค้าธุรกิจ

บริหารธุรกิจ

การเงินเพื่อธุรกิจ

บริการการค้าระหว่างประเทศ

คุ้มครองธุรกิจ

บริการด้านหลักทรัพย์

วานิชธนกิจ

ดิจิทัลแบงก์กิ้ง

เปลี่ยนภาษา

Online Banking

ลูกค้าบุคคล

ลูกค้าธุรกิจ

อัปเดตข่าวสาร

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณ
ในทุกธุรกรรมทางการเงิน

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณในทุกธุรกรรมทางการเงิน

คุณกำลังจะออกจากเว็บไซต์ธนาคารกรุงเทพ

อัปเดตข่าวสาร

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณ ในทุกธุรกรรมทางการเงิน

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณในทุกธุรกรรมทางการเงิน

คุกกี้ประเภทการวิเคราะห์

คุกกี้ประเภทการโฆษณา

คุณกำลังจะออกจากเว็บไซต์ธนาคารกรุงเทพ

หนังสือแจ้งการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับบุคลากรของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณ
ในทุกธุรกรรมทางการเงิน

หนังสือแจ้งการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)
สำหรับบุคลากรของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)