จุดเด่นบริการ

ความคุ้มครอง

คุ้มครองทั้งชีวิตและสุขภาพ เหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริง วงเงินสูงสุด 500,000 บาท

รับประกันภัยตั้งแต่อายุ 15 วัน จนถึงอายุ 75 ปี คุ้มครองจนถึงอายุ 85 ปี

เบิ้ล! ความคุ้มครองโรคร้ายแรงและมีค่ารักษาพยาบาล OPD

กรณีตรวจพบ 6 โรคร้ายแรง2 รับผลประโยชน์สูงสุดเพิ่มเป็น 2 เท่า3 และต่อเนื่องรวมสูงสุด 4 ปีกรมธรรม์ 

มีค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก (OPD)4 สำหรับแผน 3 และ แผน 4

ค่าเบี้ยเข้าถึงได้ 

เพศชาย เบี้ยประกันภัยเริ่มต้น 9,148 บาท5 เพศหญิง เบี้ยประกันภัยเริ่มต้น 8,708 บาท5

มีวงเงินค่าบำบัดรักษา
ต่อรอบปีกรมธรรม์ 

สำหรับค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการบำบัดรักษากรณีล้างไต รังสี และเคมีบำบัด

หมายเหตุ

1ผลประโยชน์เหมาจ่ายตามจริงในบางรายการ เมื่อรวมผลประโยชน์ในหมวดที่ 3 – 6 และ 12 ต้องไม่เกินวงเงินต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง / รวมผลประโยชน์ในหมวดที่ 9 – 11 ต้องไม่เกินวงเงินต่อรอบปีกรมธรรม์ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมตามตารางผลประโยชน์

2โรคร้ายแรง 6 โรค ได้แก่ กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด, โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน, การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ, โรคมะเร็งระยะลุกลาม, การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะหรือปลูกถ่ายไขกระดูก, การผ่าตัดเส้นเลือดแดงใหญ่ เอออร์ต้า

3ผลประโยชน์สูงสุดเพิ่มเป็น 2 เท่าของจำนวนเงินเอาประกันภัย ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคร้ายแรง เมื่อป่วยเป็นโรคร้ายแรงครั้งแรกสำหรับ 1) ผลประโยชน์สูงสุดในหมวดที่ 2 และผลประโยชน์สูงสุดในหมวดที่ 3 – 6 และ 12 ต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ไม่รวมถึงผลประโยชน์ในหมวดย่อยที่ 2.4, 2) ผลประโยชน์สูงสุดในหมวดที่ 9 – 11 ต่อรอบปีกรมธรรม์

4ผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก 1,000 บาท ต่อครั้ง สูงสุดไม่เกิน 30 ครั้ง ต่อรอบปีกรมธรรม์ สำหรับแผน 3 บาท และ 1,500 บาท ต่อครั้ง สูงสุดไม่เกิน 30 ครั้ง ต่อรอบปีกรมธรรม์ สำหรับแผน 4 

5ตัวอย่างเบี้ยประกันภัยรายปี Be Together Health Saver แผน 1 เพศชายอายุ 21 ปี และเพศหญิงอายุ 16 ปี
 

ข้อมูลเพิ่มเติม

ความคุ้มครองและผลประโยชน์

ตารางผลประโยชน์โดยย่อ

แผน 1

แผน 2

แผน 3

แผน 4

แบบ เอไอเอ กำหนดระยะเวลา 85 (ไม่มีเงินปันผล)

ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต

200,000 บาท

200,000 บาท

200,000 บาท

200,000 บาท

สัญญาเพิ่มเติม เฮลธ์ เซฟเวอร์

แผนความคุ้มครอง

200,000 บาท

300,000 บาท

400,000 บาท

500,000 บาท

1. ผลประโยชน์กรณีผู้ป่วยใน

หมวดที่ 1

ค่าห้อง และค่าอาหาร ค่าบริการในโรงพยาบาล (ผู้ป่วยใน) ต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง

ห้องผู้ป่วยวิกฤติ (ICU) จะจ่ายค่าห้อง และค่าอาหาร ค่าบริการในโรงพยาบาล (ผู้ป่วยใน) ให้เป็นจำนวน 6 เท่า ของผลประโยชน์สำหรับค่าห้อง และค่าอาหาร ค่าบริการในโรงพยาบาล (ผู้ป่วยใน) สูงสุดไม่เกิน 365 วัน

1,500

บาท ต่อวัน

2,000

บาท ต่อวัน

3,000

บาท ต่อวัน

4,000

บาท ต่อวัน

สูงสุดไม่เกิน 365 วัน ต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง

(รวม ICU)

หมวดที่ 2

ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยหรือบำบัดรักษา ค่าบริการโลหิตและส่วนประกอบของโลหิต ค่าบริการทางการพยาบาล ค่ายา ค่าสารอาหารทางหลอดเลือด และค่าเวชภัณฑ์ ต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง

2.1

ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัย

25,000

บาท

35,000

บาท

40,000

บาท

50,000

บาท

2.2

ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการบำบัดรักษา ค่าบริการโลหิตและส่วนประกอบของโลหิต และค่าบริการทางการพยาบาล

2.3

ค่ายา ค่าสารอาหารทางหลอดเลือด และค่าเวชภัณฑ์

2.4

ค่ายา และค่าเวชภัณฑ์สิ้นเปลือง (เวชภัณฑ์ 1) สำหรับกลับบ้าน (จำกัดปริมาณไม่เกิน 7 วัน)

5,000 บาท ต่อการเข้าพักรักษาเป็นผู้ป่วยในในแต่ละครั้ง

(เมื่อรวมผลประโยชน์ในหมวดย่อยที่ 2.1-2.4 ต้องไม่เกินวงเงินตามที่ระบุไว้ในตารางหมวดย่อยที่ 2.1-2.3 ต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง)

หมวดที่ 3

ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม (แพทย์) ตรวจรักษา ต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง สูงสุดไม่เกิน 365 วัน

เหมาจ่ายตามจริง*

หมวดที่ 4

ค่ารักษาพยาบาลโดยการผ่าตัด (ศัลยกรรม) และหัตถการ ต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง

4.1

ค่าห้องผ่าตัด และค่าห้องทำหัตถการ

เหมาจ่ายตามจริง*

4.2

ค่ายา ค่าสารอาหารทางหลอดเลือด ค่าเวชภัณฑ์ และค่าอุปกรณ์การผ่าตัดและหัตถการ

4.3

ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ทำศัลยกรรมและหัตถการ สำหรับแพทย์ทำศัลยกรรม และหัตถการ (รวมแพทย์ผู้ช่วยผ่าตัด) (Doctor Fee)

4.4

ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม วิสัญญีแพทย์ (Doctor Fee)

4.5

ค่ารักษาพยาบาลโดยการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ

หมวดที่ 5

การผ่าตัดใหญ่ที่ไม่ต้องเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน (Day Surgery)1

2. ผลประโยชน์กรณีไม่ต้องเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน

หมวดที่ 6

ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยที่เกี่ยวข้องโดยตรงก่อนและหลังการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน หรือค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงหลังการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง

6.1

ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยที่เกี่ยวข้องโดยตรงและเกิดขึ้นภายใน 30 วันก่อนและหลังการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน

เหมาจ่ายตามจริง*

6.2

ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกหลังการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในต่อครั้ง สำหรับการรักษาพยาบาลต่อเนื่อง ภายใน 30 วันหลังจากออกจากการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งนั้น (ไม่รวมค่าบริการทางการแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย)

เหมาจ่ายตามจริง*

จำนวนครั้งสูงสุด 2 ครั้ง

ต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง

หมวดที่ 7

ค่ารักษาพยาบาลการบาดเจ็บ กรณีผู้ป่วยนอก ภายใน 24 ชั่วโมง ของการเกิดอุบัติเหตุต่อครั้ง

7,000
บาท

8,000
บาท

9,000
บาท

10,000
บาท

หมวดที่ 8

ค่าเวชศาสตร์ฟื้นฟู หลังการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน แต่ละครั้งต่อรอบปีกรมธรรม์

ไม่คุ้มครอง

หมวดที่ 9

ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการบำบัดรักษาโรคไตวายเรื้อรัง โดยการล้างไตผ่านทางเส้นเลือด ต่อรอบปีกรมธรรม์

200,000**

บาท

300,000**

บาท

400,000** บาท

500,000** บาท

หมวดที่ 10

ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการบำบัดรักษาโรคเนื้องอกหรือมะเร็ง โดยรังสีรักษา รังสีร่วมรักษา เวชศาสตร์นิวเคลียร์รักษา ต่อรอบปีกรมธรรม์

หมวดที่ 11

ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการบำบัดรักษาโรคมะเร็ง โดยเคมีบำบัด ต่อรอบปีกรมธรรม์

หมวดที่ 12

ค่าบริการรถพยาบาลฉุกเฉิน

เหมาจ่ายตามจริง*

หมวดที่ 13

ค่ารักษาพยาบาล โดยการผ่าตัดเล็ก2

10,000
บาท ต่อครั้ง

15,000
บาท ต่อครั้ง

20,000
บาท ต่อครั้ง

25,000
บาท ต่อครั้ง

ผลประโยชน์เพิ่มเติม

3. ผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก

ไม่คุ้มครอง

1,000
บาท ต่อครั้ง สูงสุด

30 ครั้ง

ต่อรอบปีกรมธรรม์

1,500
บาท ต่อครั้ง สูงสุด

30 ครั้ง

ต่อรอบปีกรมธรรม์

4. ผลประโยชน์ความคุ้มครองกรณีโรคร้ายแรง3

บริษัทฯ จะเพิ่มผลประโยชน์สูงสุดตามที่ระบุไว้ในตารางผลประโยชน์ของสัญญาเพิ่มเติมนี้ให้เป็น 2 เท่า สำหรับผลประโยชน์ ดังต่อไปนี้ ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคร้ายแรง

  1. ผลประโยชน์สูงสุดในหมวดที่ 2 และผลประโยชน์สูงสุดในหมวดที่ 3-6 และ 12 ต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ไม่รวมถึงผลประโยชน์ในหมวดย่อยที่ 2.4
  2. ผลประโยชน์สูงสุดในหมวดที่ 9-11 ต่อรอบปีกรมธรรม์

โดยผลประโยชน์สูงสุดจะเพิ่มในปีกรมธรรม์ที่ผู้เอาประกันภัยเข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคร้ายแรงและต่อเนื่องติดต่อไปอีก 3 ปีกรมธรรม์

5. ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต

10,000
บาท


* รวมผลประโยชน์ในหมวดที่ 3 – 6 และ 12 สูงสุดต้องไม่เกินวงเงินต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง
** รวมผลประโยชน์ในหมวดที่ 9 – 11 ต้องไม่เกินวงเงินต่อรอบปีกรมธรรม์

1Day Surgery หมายถึง การผ่าตัดใหญ่ หรือการทำหัตถการทดแทนการผ่าตัดใหญ่ หรือการใช้เครื่องมือบำบัดรักษาพิเศษที่สามารถทดแทนการผ่าตัดใหญ่ได้ โดยไม่ต้องมีการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในในโรงพยาบาล
2การผ่าตัดเล็ก หมายถึง การผ่าตัดระดับผิวหนังหรือชั้นใต้ผิวหนัง หรือชั้นเยื่อบุ โดยใช้ยาชาเฉพาะที่ (Local / Topical Anaesthesia) หรือเฉพาะบริเวณ
3ผลประโยชน์ความคุ้มครองกรณีโรคร้ายแรง ในขณะที่สัญญาเพิ่มเติมมีผลคุ้มครอง หากผู้เอาประกันภัยได้รับการวินิจฉัยและยืนยันว่าป่วยเป็นโรคร้ายแรงครั้งแรก ตามคำนิยามของโรคร้ายแรงที่ได้รับความคุ้มครอง เมื่อพ้นระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง (Waiting Period) ของสัญญาเพิ่มเติมนี้ บริษัทฯ จะเพิ่มผลประโยชน์สูงสุดตามที่ระบุไว้ในตารางผลประโยชน์ของสัญญาเพิ่มเติมนี้ให้เป็น 2 เท่า สำหรับผลประโยชน์ ดังต่อไปนี้ ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคร้ายแรง 

  • ผลประโยชน์สูงสุดในหมวดที่ 2 และผลประโยชน์สูงสุดในหมวดที่ 3-6 และ 12 ต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ไม่รวมถึงผลประโยชน์ในหมวดย่อยที่ 2.4
  • ผลประโยชน์สูงสุดในหมวดที่ 9-11 ต่อรอบปีกรมธรรม์
    โดยผลประโยชน์สูงสุดจะเพิ่มในปีกรมธรรม์ที่ผู้เอาประกันภัยเข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคร้ายแรงและต่อเนื่องติดต่อไปอีก 3 ปีกรมธรรม์ ซึ่งปีกรมธรรม์แรกที่บริษัทฯ จะเพิ่มผลประโยชน์สูงสุดให้เป็น 2 เท่า คือ
    • ปีกรมธรรม์ที่ผู้เอาประกันภัยได้เข้ารับการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งแรกเนื่องจากโรคร้ายแรง หรือ
    • ปีกรมธรรม์ที่ทำการผ่าตัดใหญ่ที่ไม่ต้องเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน (Day Surgery) ครั้งแรกเนื่องจากโรคร้ายแรง หรือ
    • ปีกรมธรรม์ที่ทำการผ่าตัดเพื่อตรวจชิ้นเนื้อครั้งแรกซึ่งผลการตรวจพบว่าเป็นโรคร้ายแรง
      แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นก่อน

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเพิ่มผลประโยชน์ความคุ้มครองกรณีโรคร้ายแรงสูงสุด 1 ครั้งต่อ 1 โรคร้ายแรง ตามคำนิยามของโรคร้ายแรงที่ได้รับความคุ้มครอง โดยโรคร้ายแรงที่ได้รับความคุ้มครอง มีดังนี้

  • กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด (Acute Heart Attack)
  • โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน  (Major Stroke)
  • การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ (Coronary Artery By-Pass Surgery)
  • โรคมะเร็งระยะลุกลาม (Invasive Cancer)
  • การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะหรือปลูกถ่ายไขกระดูก (Major Organs Transplantation or Bone Marrow Transplantation)
  • การผ่าตัดเส้นเลือดแดงใหญ่ เอออร์ต้า (Surgery to Aorta)
ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิตของแบบ เอไอเอ กำหนดระยะเวลา 85 (ไม่มีเงินปันผล)

ในขณะที่กรมธรรม์ยังมีผลบังคับ และยังมิได้แปลงเป็นการประกันภัยแบบขยายเวลาตามข้อกำหนด ว่าด้วยการใช้สิทธิเกี่ยวกับมูลค่ากรมธรรม์ดังกำหนดไว้ในกรมธรรม์ บริษัทฯ จะจ่ายผลประโยชน์กรณีเสียชีวิตดังต่อไปนี้ แล้วแต่จำนวนในข้อใดข้อหนึ่งจะมากกว่า

  1. จำนวนเงินเอาประกันภัยตามที่ระบุไว้ในหน้าตารางกรมธรรม์ หรือบันทึกสลักหลัง (ถ้ามี)
  2. เงินค่าเวนคืนกรมธรรม์
  3. จำนวนเบี้ยประกันภัยหลักที่บริษัทฯ ได้รับชำระมาแล้วทั้งหมด

ในกรณีที่มีการลดจำนวนเงินเอาประกันภัยในระหว่างที่กรมธรรม์มีผลบังคับ จำนวนเบี้ยประกันภัยจะลดลงตามสัดส่วนของจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ลดลง
ทั้งนี้ หากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตระหว่างปีกรมธรรม์ บริษัทฯจะคำนวณเบี้ยประกันภัยดังกล่าวเต็มปีกรมธรรม์


เงื่อนไขที่สำคัญของประกันภัยแบบ เอไอเอ กำหนดระยะเวลา 85 ปี (ไม่มีเงินปันผล) กรณีที่บริษัทฯ จะไม่คุ้มครอง

  1. กรณีบอกล้างสัญญา ไม่เปิดเผยข้อความจริง หรือแถลงข้อความเท็จ โดยบริษัทฯ จะไม่โต้แย้งหรือคัดค้านความไม่สมบูรณ์ของสัญญาประกันภัยนี้ เมื่อกรมธรรม์มีผลบังคับในขณะที่ผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่เป็นเวลาตั้งแต่สองปี (2 ปี) ขึ้นไปนับตั้งแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามกรมธรรม์ หรือตามการต่ออายุครั้งสุดท้าย หรือวันที่บริษัทฯ อนุมัติให้เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัย ทั้งนี้ เฉพาะในส่วนของจำนวนที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น เว้นแต่ผู้เอาประกันภัยมิได้มีส่วนได้เสียในเหตุที่เอาประกันภัยนั้น
  2. ผู้เอาประกันภัยฆ่าตัวตายภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามกรมธรรม์ หรือตามการต่ออายุครั้งสุดท้าย หรือวันที่บริษัทฯ อนุมัติให้เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัยในเฉพาะส่วนที่เพิ่ม หรือถูกผู้รับประโยชน์ฆ่าตาย
  3. ผู้เอาประกันภัยแถลงอายุคลาดเคลื่อนไม่ตรงตามความจริง และบริษัทฯ พิสูจน์ได้ว่าขณะทำสัญญาประกันภัย อายุที่ถูกต้องแท้จริงอยู่นอกจำกัดอัตราเบี้ยประกันภัยตามทางค้าปกติของบริษัทฯ
เงื่อนไขที่สำคัญของสัญญาเพิ่มเติม Health Saver
  1. การป่วยใด ๆ ที่เกิดขึ้นในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติมนี้ หรือวันที่บริษัทฯ อนุมัติให้เพิ่มผลประโยชน์ของสัญญาเพิ่มเติมนี้ แล้วแต่กรณีใดจะเกิดขึ้นภายหลัง หรือ
  2. การป่วยดังต่อไปนี้ ที่เกิดขึ้นในระยะเวลา 120 วัน นับแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติมนี้ หรือวันที่บริษัทฯ อนุมัติให้เพิ่มผลประโยชน์ของสัญญาเพิ่มเติมนี้ แล้วแต่กรณีใดจะเกิดขึ้นภายหลัง
    • ไส้เลื่อนทุกชนิด
    • ต้อเนื้อ หรือต้อกระจก
    •  การตัดทอนซิล หรืออดีนอยด์
    •  เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
สภาพที่เป็นมาก่อนการเอาประกันภัย (Pre-existing Condition) ของสัญญาเพิ่มเติม Health Saver

บริษัทฯ จะไม่จ่ายผลประโยชน์ตามสัญญาเพิ่มเติมนี้ สำหรับโรคเรื้อรัง การบาดเจ็บ หรือการป่วย (รวมถึงภาวะแทรกซ้อน) ที่ยังมิได้รักษาให้หายก่อนวันที่สัญญาเพิ่มเติมนี้เริ่มมีผลคุ้มครองเป็นครั้งแรก เว้นแต่

  1. ผู้เอาประกันภัยได้แถลงให้บริษัทฯ ทราบและบริษัทฯ ยินยอมรับความเสี่ยงภัย โดยไม่มีเงื่อนไขยกเว้นความคุ้มครองดังกล่าว หรือ
  2. โรคเรื้อรัง การบาดเจ็บ หรือการป่วย (รวมถึงภาวะแทรกซ้อน) นั้น ไม่ปรากฏอาการ ไม่ได้รับการตรวจรักษาหรือวินิจฉัยโดยแพทย์ หรือไม่ได้พบหรือปรึกษาแพทย์ในระยะ 5 ปี ก่อนวันที่สัญญาเพิ่มเติมเริ่มมีผลคุ้มครองเป็นครั้งแรก และในช่วงเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่สัญญาเพิ่มเติมนี้เริ่มมีผลคุ้มครองเป็นครั้งแรก
     
ข้อจำกัดสัญญาเพิ่มเติมนี้จะให้ความคุ้มครองการรักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นในประเทศไทย

ในกรณีการรักษาพยาบาลเกิดขึ้นนอกอาณาเขตประเทศไทย บริษัทฯ จะให้ความคุ้มครองตามที่ระบุในตารางผลประโยชน์เฉพาะในกรณีดังต่อไปนี้

  • การบาดเจ็บทางร่างกายจากอุบัติเหตุ
  • การป่วย สำหรับกรณีฉุกเฉินในต่างประเทศ ตามคำนิยามที่ระบุไว้ในสัญญาเพิ่มเติมนี้

ทั้งนี้ สำหรับความคุ้มครองทั้ง 2 กรณีข้างต้น วันที่เริ่มเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในต่างประเทศ ต้องอยู่ภายใน 90 วันแรกของการเดินทางออกนอกอาณาเขตประเทศไทยแต่ละครั้ง โดยบริษัทฯ จะคุ้มครองสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและสมควร ซึ่งเกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลตามความจำเป็นทางการแพทย์และมาตรฐานทางการแพทย์ในประเทศนั้นๆ


กรณีฉุกเฉินในต่างประเทศ หมายถึง


  1. การได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการป่วยกะทันหันซึ่งมีภาวะคุกคามต่อชีวิต ซึ่งหากไม่ได้รับปฏิบัติการทางการแพทย์ทันท่วงทีเพื่อแก้ไขระบบการหายใจ ระบบไหลเวียนเลือด หรือระบบประสาทแล้ว ผู้ป่วยจะมีโอกาสเสียชีวิตได้สูง หรือทำให้การบาดเจ็บหรืออาการป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินนั้นรุนแรงขึ้นหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นได้อย่างฉับพลัน เช่น ภาวะ “หัวใจหยุดเต้น” (Cardiac Arrest) ภาวะหยุดหายใจ ภาวะ “ช็อก” จากการเสียเลือดรุนแรง ชักตลอดเวลาหรือชักจนตัวเขียว อาการซึม หมดสติ ไม่รู้สึกตัว อาการเจ็บหน้าอกรุนแรงจากหลอดเลือดหัวใจตีบตันที่มีความจำเป็นต้องได้รับยาละลายลิ่มเลือด อาการทางสมองจากหลอดเลือดสมองตีบตันทันทีมีความจำเป็นต้องได้รับยาละลายลิ่มเลือด เลือดออกมากอย่างรวดเร็วและตลอดเวลา เป็นต้น หรือ
  2. การได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการป่วยซึ่งมีภาวะเฉียบพลันมาก หรือเจ็บปวดรุนแรงอันอาจจำเป็นต้องได้รับปฏิบัติการทางการแพทย์อย่างรีบด่วน มิฉะนั้นจะทำให้การบาดเจ็บหรืออาการป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินนั้นเกิดภาวะรุนแรงขึ้นหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้น ซึ่งส่งผลให้เสียชีวิต หรือพิการในระยะต่อมาได้ เช่น อุณหภูมิร่างกายต่ำกว่า 35 องศาเซลเซียส หรือสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส ชีพจรช้ากว่า 40 หรือเร็วกว่า 150 ครั้งต่อนาที ความดันโลหิตตัวบนต่ำกว่า 90 มม.ปรอทหรือตัวล่างสูงกว่า 130 มม.ปรอท หายใจลำบากหรือหายใจเหนื่อยหอบโดยเฉพาะถ้าร่วมกับลักษณะทางคลินิกอื่น เช่น ไม่รู้สึกตัว ชัก อัมพาต ตาบอด หูหนวกทันที ภาวะเสียเลือดมาก ซีดมากหรือเขียว เจ็บปวดมากหรือทุรนทุราย มือเท้าเย็นซีด และเหงื่อแตก เป็นต้น รวมถึงการได้รับอุบัติเหตุโดยเฉพาะบาดแผลที่ใหญ่มากและมีหลายแห่ง เช่น Major Multiple Fractures, Burns, Back Injury with or without Spinal Cord Damage เป็นต้น

 

ข้อยกเว้นบางส่วนของสัญญาเพิ่มเติม Health Saver
  1. การตรวจรักษาหรือการผ่าตัดเพื่อเสริมสวย หรือการแก้ไขปัญหาผิวพรรณ สิว ฝ้า กระ รังแค ผมร่วง หรือการควบคุมน้ำหนักตัว การผ่าตัดที่สามารถทดแทนด้วยการรักษาแนวทางอื่น เว้นแต่เป็นการตกแต่งบาดแผลอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุที่ได้รับความคุ้มครอง
  2. การตั้งครรภ์ แท้งบุตร ทำแท้ง การคลอดบุตร โรคแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ การแก้ไขปัญหาการมีบุตรยาก (รวมถึงการสืบวิเคราะห์และการรักษา) การทำหมันหรือการคุมกำเนิด ยกเว้น มะเร็งครรภ์ไข่ปลาอุก (Choriocarcinoma)
  3. การตรวจสุขภาพ การร้องขอเข้าอยู่รักษาตัวในโรงพยาบาล หรือร้องขอการผ่าตัด การพักฟื้น หรือการพักเพื่อการฟื้นฟูหรือการรักษาโดยวิธีให้พักอยู่เฉยๆ หรือการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล เพื่อให้มีผู้ช่วยดูแลทั่วไป การตรวจหรือการรักษาที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรคที่เป็นสาเหตุของการรับตัวไว้ในโรงพยาบาล การตรวจวินิจฉัยการบาดเจ็บหรือการป่วย การรักษาหรือตรวจวิเคราะห์เพื่อหาสาเหตุ ซึ่งไม่ใช่ความจำเป็นทางการแพทย์ หรือไม่เป็นมาตรฐานทางการแพทย์
  4. การตรวจรักษาที่ไม่ใช่การแพทย์แผนปัจจุบัน รวมถึงการแพทย์ทางเลือก
  5. การฆ่าตัวตาย การพยายามฆ่าตัวตาย การทำร้ายร่างกายตนเอง หรือการพยายามทำร้ายร่างกายตนเองไม่ว่าจะเป็นการกระทำโดยตนเอง หรือยินยอมให้ผู้อื่นกระทำไม่ว่าจะอยู่ในระหว่างวิกลจริตหรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้ รวมถึงอุบัติเหตุจากการที่ผู้เอาประกันภัย กิน ดื่ม หรือฉีดยาหรือสารมีพิษเข้าร่างกาย การใช้ยาเกินกว่าที่แพทย์สั่ง
คุณสมบัติและเงื่อนไขผู้เอาประกันภัย

อายุที่รับประกันภัย: 15 วัน - 75 ปี
ระยะเวลาเอาประกันภัย*: ถึงอายุ 85 ปี
ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย*: ถึงอายุ 85 ปี
งวดการชำระเบี้ยประกันภัย: รายปี / ราย 6 เดือน / ราย 3 เดือน / รายเดือน

*สัญญาเพิ่มเติม เฮลธ์ เซฟเวอร์ มีระยะเวลาเอาประกันภัย 1 ปี ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย 1 ปี โดยที่ผู้เอาประกันภัยสามารถต่ออายุได้ไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้ายอยู่ การพิจารณารับประกันรวมถึงการต่ออายุสัญญาเมื่อครบรอบปีกรมธรรม์เป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด

 
เบี้ยประกันภัย

เบี้ยประกันภัยมาตรฐานรายปี (ขึ้นอยู่กับเพศ อายุของผู้สมัครเอาประกันภัย งวดการชำระเบี้ยประกันภัย และแผนประกันที่เลือกซื้อ)

เพศ

เบี้ยประกันภัยรายปี (บาท)

แผน 1

แผน 2

แผน 3

แผน 4

หญิง

8,708 - 69,262

11,008 - 83,162

13,308 - 110,362

16,308 - 132,062

ชาย

9,148 - 73,380

10,648 - 87,080

12,648 - 114,080

15,648 - 135,480


สัญญาเพิ่มเติมเป็นสัญญาประกันภัยที่มีระยะเวลาเอาประกันภัย 1 ปี ซึ่งอาจต่ออายุได้ ทั้งนี้ บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการปรับเบี้ยประกันภัยในรอบปีกรมธรรม์ อันเนื่องมาจากปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ ชั้นอาชีพ ประสบการณ์การจ่ายสินไหมทดแทนของบริษัทฯ เป็นต้น สำหรับสัญญาเพิ่มเติมกลุ่มค่ารักษาพยาบาลอาจมีปัจจัยอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูงขึ้น หรือจากประสบการณ์การจ่ายค่าสินไหมทดแทนโดยรวมของพอร์ตโฟลิโอ (Portfolio) โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน

  • การคำนวณเบี้ยประกันภัยรายงวดโดยประมาณ ดังนี้
  • เบี้ยประกันภัยราย 6 เดือน = เบี้ยประกันภัยรายปี x 0.51
  • เบี้ยประกันภัยราย 3 เดือน = เบี้ยประกันภัยรายปี x 0.27
  • เบี้ยประกันภัยรายเดือน = เบี้ยประกันภัยรายปี x 0.09
สมัครบริการ
ปรึกษาและรับคำแนะนำเพื่อวางแผนทำประกันชีวิตได้ที่ ธนาคารกรุงเทพสาขาที่ให้บริการ หรือโทร.1333
บริษัท เอไอเอ จำกัด โทร. (66) 0 2353 8855 เว็บไซต์ www.aia.co.th
 

รับประกันชีวิตโดย บริษัท เอไอเอ จำกัด

หมายเหตุ

  • Be Together Health Saver (บี ทูเกตเทอร์ เฮลธ์ เซฟเวอร์) เป็นชื่อทางการตลาดของแบบ เอไอเอ กำหนดระยะเวลา 85 (ไม่มีเงินปันผล) คู่กับสัญญาเพิ่มเติม เอไอเอ เฮลธ์ เซฟเวอร์ (AIA Health Saver)
  • สัญญาเพิ่มเติม เฮลธ์ เซฟเวอร์ (Health Saver) เป็นชื่อการตลาดของสัญญาเพิ่มเติม เอไอเอ เฮลธ์ เซฟเวอร์ (AIA Health Saver)
  • กรณีชำระค่าเบี้ยประกันภัยรายเดือน ต้องชำระล่วงหน้า 2 เดือน ในครั้งแรก
  • เบี้ยประกันชีวิตนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 172) และเบี้ยประกันสุขภาพเฉพาะส่วนที่เข้าเงื่อนไขตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 383) สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท โดยเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตแล้ว ต้องไม่เกิน 100,000 บาท
  • การทำประกันภัยไม่ใช่การฝากเงิน กรณีเวนคืนก่อนครบกำหนด ผู้เอาประกันภัยอาจจะได้รับเงินคืนเป็นจำนวนน้อยกว่าเบี้ยประกันภัยที่จ่ายไปแล้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เวนคืน
  • ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาและทำความเข้าใจในเอกสารเสนอขายก่อนตัดสินใจทำประกันภัย เมื่อได้รับกรมธรรม์แล้วโปรดศึกษารายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไขในกรมธรรม์
  • ธนาคารเป็นเพียงนายหน้าประกันชีวิตที่เป็นผู้ชี้ช่องและจัดการบริการให้กับผู้ขอเอาประกันภัย เพื่อให้เกิดการทำสัญญาประกันภัยเท่านั้น โดยการพิจารณาอนุมัติกรมธรรม์เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของบริษัท เอไอเอ จำกัด
  • การแถลงสุขภาพเป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณารับประกันภัยหรือจ่ายเงินตามสัญญาประกันภัย
  • การตรวจสุขภาพเป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัท เอไอเอ จำกัด กำหนด 
  • ผู้ขอเอาประกันภัยมีหน้าที่แถลงข้อความจริงในการขอเอาประกันภัย การปกปิดข้อความจริงหรือแถลงข้อความเป็นเท็จใดๆ อาจเป็นเหตุให้บริษัทฯ ผู้รับประกันภัยบอกล้างสัญญาประกันภัยและปฏิเสธไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัย
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์
     

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณ
ในทุกธุรกรรมทางการเงิน

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณในทุกธุรกรรมทางการเงิน

คุณกำลังจะออกจากเว็บไซต์ธนาคารกรุงเทพ