พันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 1

รุ่นอายุ 7 ปี (SB325B)

สรุปสาระสำคัญ

อายุพันธบัตร

รุ่นอายุ 7 ปี (SB325B)

อัตราดอกเบี้ย

อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ร้อยละ 2.65 ต่อปี

วันที่จำหน่าย

วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 - 15 พฤษภาคม 2568

ผู้มีสิทธิ์ซื้อ

บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย หรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย

วงเงินจองซื้อต่อราย
(รวมทุกธนาคาร)

ขั้นต่ำ 1,000 บาท ไม่จำกัดวงเงินจองซื้อขั้นสูง/ไม่จำกัดจำนวนครั้งที่เข้าซื้อ

วิธีการจัดสรร

Small Lot first (การทยอยจัดสรรพันธบัตรเป็นรอบๆ เวียนจนครบผู้ซื้อทุกราย ดยจัดสรรขั้นต่ำ 1,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 1,000 บาท) ในกรณีที่วงเงินพันธบัตรที่จะจัดสรรในรอบสุดท้ายไม่เพียงพอที่จะจัดสรรให้ผู้จองซื้อทุกราย จะใช้วิธีการสุ่ม (Random) โดยระบบคอมพิวเตอร์เพื่อจัดสรรพันธบัตรในรอบสุดท้ายให้แก่ผู้จองซื้อจนครบวงเงินจำหน่าย ทั้งนี้ ผู้จองซื้อต้องชำระค่าจองซื้อพันธบัตรทันที โดยจะประกาศผลการจัดสรรพันธบัตรภายในวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 กรณีไม่ได้รับการจัดสรร เนื่องจากผิดเงื่อนไขหรือได้รับจัดสรรไม่ครบตามวงเงินที่จองซื้อ ลูกค้าจะได้รับเงินส่วนที่ไม่ได้รับการจัดสรรคืนภายในวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 โดยไม่มีดอกเบี้ยหรือค่าตอบแทนใดๆ

วันที่เริ่มนับดอกเบี้ยงวดแรก

วันที่ 16 พฤษภาคม 2568

วันจ่ายดอกเบี้ย

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ / 16 พฤษภาคม / 16 สิงหาคม / 16 พฤศจิกายน / ของทุกปี (ดอกเบี้ยงวดแรก 16 สิงหาคม 2568)

ช่องทาง/เวลาจำหน่าย

  1. สาขาธนาคารกรุงเทพ: ตามเวลาเปิด-ปิดทำการของสาขา โดยในวันสุดท้าย (15 พฤษภาคม 2568) ปิดรับจองซื้อ 15.00 น.
  2. Bangkok Bank Mobile Banking / Bangkok Bank Internet Banking: ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ของวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ถึง 15.00 น. ของวันที่ 15 พฤษภาคม 2568

การชำระเงิน

  1. กรณีซื้อผ่านเคาน์เตอร์สาขา
  • ชำระด้วยเงินสดหรือหักบัญชีเงินฝาก
  • ชำระด้วยเช็ค
    • สั่งจ่าย "บัญชีจองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง รุ่นอายุ 7 ปี (SB325B)"
    • ลงวันที่ไม่เกินวันที่ซื้อ (ไม่รับชำระด้วยเช็คในวันที่ 15 พฤษภาคม 2568)
    • เรียกเก็บได้ในสำนักหักบัญชีเดียวกับสาขาที่รับชำระเงินค่าพันธบัตร

 

  1. กรณีซื้อผ่าน Bangkok Bank Mobile Banking/ Bangkok Bank Internet Banking
    • หักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้จองซื้อทันที เมื่อสิ้นสุดการทำรายการ

พันธบัตรออมทรัพย์รุ่นนี้เป็นแบบไร้ใบตราสาร ผู้ซื้อจะต้องลงทะเบียนก่อนการซื้อ ซึ่งธนาคารกรุงเทพเปิดให้ผู้สนใจลงทะเบียนเพื่อขอมีเลขที่ผู้ถือพันธบัตรได้ที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขา และโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ สำหรับลูกค้าที่เคยลงทะเบียนเพื่อซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง แบบไร้ใบตราสาร กับธนาคารกรุงเทพไว้แล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ สามารถใช้เลขที่ผู้ถือพันธบัตรเดิมซื้อพันธบัตรรุ่นนี้ได้

ข้อมูลเพิ่มเติม

การลงทะเบียนและการฝากหลักทรัพย์
ผู้จองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์แบบไร้ใบตราสาร (Scripless) รายใหม่ที่ไม่เคยลงทะเบียนและเปิดบัญชีฝากหลักทรัพย์มาก่อน ผู้จองซื้อสามารถลงทะเบียนได้ทุกวันทำการที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขา เพื่อฝากพันธบัตรไว้กับธนาคารกรุงเทพ โดยธนาคารกรุงเทพจะนำฝากพันธบัตรของผู้ถือกรรมสิทธิ์ภายใต้บัญชีฝากหลักทรัพย์ของธนาคารเพื่อลูกค้า ที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ทั้งนี้ ชื่อเจ้าของพันธบัตรที่ลงทะเบียนจะต้องตรงกันกับชื่อเจ้าของบัญชีเงินฝากเพื่อรับโอนดอกเบี้ยและต้นเงิน

ใช้หลักฐานดังนี้

 

  • บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง (กรณีบุคคลธรรมดา) และสำเนาเอกสารดังกล่าว พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง
  • สมุดบัญชีเงินฝาก (ยกเว้นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษและบัญชีเงินฝากประจำ) เพื่อรับเงินค่าดอกเบี้ยและต้นเงินพันธบัตรของผู้ซื้อที่เปิดบัญชีไว้กับธนาคารกรุงเทพพร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง ในกรณีที่ไม่มีบัญชีเงินฝาก ผู้ซื้อต้องเปิดบัญชีใหม่

กรณีผู้ซื้อประสงค์ซื้อพันธบัตรผ่านโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ

 

  • ผู้ซื้อที่มีเลขที่ผู้ถือพันธบัตร (890-x-xxxxx-x) ที่ผูกบนโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพแล้ว สามารถใช้เลขที่ ผู้ถือพันธบัตรเดิมซื้อพันธบัตรรุ่นนี้ได้ ผ่านโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ
  • ผู้ซื้อที่มีเลขที่ผู้ถือพันธบัตร (890-x-xxxxx-x) แต่ยังไม่ได้ผูกเลขที่ผู้ถือพันธบัตรบนโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ สามารถนำเลขที่ผู้ถือพันธบัตรเดิมมาผูกบนโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพได้ด้วยตนเอง
  • ผู้ซื้อที่ยังไม่มีเลขผู้ถือพันธบัตร (890-x-xxxxx-x) สามารถลงทะเบียนเพื่อขอมีเลขที่ผู้ถือพันธบัตรได้ผ่านโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ โดยระบบจะผูกบัญชีพันธบัตรให้โดยอัตโนมัติ


กรณีผู้ซื้อประสงค์ซื้อพันธบัตรผ่านอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ

 

  • ผู้ซื้อที่มีเลขที่ผู้ถือพันธบัตร (890-x-xxxxx-x) ที่ผูกบนโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ หรืออินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพแล้ว สามารถใช้เลขที่ผู้ถือพันธบัตรเดิมซื้อพันธบัตรรุ่นนี้ได้ ผ่านอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ
  • ผู้ซื้อที่มีเลขที่ผู้ถือพันธบัตร (890-x-xxxxx-x) แต่ยังไม่ได้ผูกเลขที่ผู้ถือพันธบัตรบนอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ สามารถนำเลขที่ผู้ถือพันธบัตรเดิมมาผูกบนอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพได้ด้วยตนเอง
  • ผู้ซื้อที่ยังไม่มีเลขผู้ถือพันธบัตร (890-x-xxxxx-x) สามารถลงทะเบียนเพื่อขอมีเลขที่ผู้ถือพันธบัตรได้ที่โมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ โดยระบบจะผูกบัญชีพันธบัตรให้โดยอัตโนมัติ หรือติดต่อธนาคารกรุงเทพทุกสาขาเพื่อขอมีเลขที่ผู้ถือพันธบัตร จากนั้นนำเลขที่ผู้ถือพันธบัตรมาผูกบนอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพได้ด้วยตนเอง
หลักฐานที่ได้รับจากการซื้อพันธบัตร

สมุดพันธบัตรรัฐบาลที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับพันธบัตร โดยมีข้อกำหนดและเงื่อนไขดังนี้


  • ผู้ถือกรรมสิทธิ์สามารถนำไปใช้อ้างอิงสำหรับการทำธุรกรรมได้
  • ผู้ถือกรรมสิทธิ์สามารถนำสมุดพันธบัตรไปปรับปรุงให้เป็นปัจจุบันผ่านสาขา หรือเครื่องปรับสมุดอัตโนมัติของธนาคารกรุงเทพ ดังนี้
    • บุคคลธรรมดา: ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป
  • รายการที่ปรากฏอยู่ในสมุดพันธบัตร เป็นรายการที่แสดงมูลค่าตามราคาตรา (Par Value) ในวันที่จดทะเบียน และ/หรือมูลค่าตามราคาตลาดของธนาคารกรุงเทพในวันทำรายการ
  • รายการที่ปรากฏในสมุดพันธบัตร จะถือว่าถูกต้องเมื่อรายการดังกล่าวตรงกันกับรายการที่บันทึกไว้ที่ธนาคารกรุงเทพ
  • รายการที่อยู่ในสมุดพันธบัตร จะปรากฏเฉพาะพันธบัตรที่เป็นรุ่นไร้ใบตราสาร ที่ซื้อผ่านธนาคารกรุงเทพ

ทั้งนี้ ผู้ซื้อที่เคยซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง แบบไร้ใบตราสาร และเคยได้รับสมุดพันธบัตรรัฐบาลจากธนาคารกรุงเทพแล้ว สามารถใช้สมุดพันธบัตรเล่มเดิมเพื่อซื้อ พันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 1 ได้
การประกาศผลการจัดสรร
สำหรับพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 1 รุ่นอายุ 7 ปี (SB325B) ผู้ซื้อสามารถทราบภาพรวมการจัดสรรพันธบัตรแบบยอดรวมสูงสุดต่อคน ได้ที่ Website ธปท. และตรวจสอบผลการจัดสรรพันธบัตรที่จองซื้อผ่านธนาคารกรุงเทพ ได้ที่ Website ธนาคาร ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2568

ทั้งนี้ ธนาคารจะส่ง SMS แจ้งผลการจัดสรรและการคืนเงินให้ลูกค้าทราบภายในวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 กรณีไม่ได้รับจัดสรรพันธบัตรเนื่องจากผิดเงื่อนไข หรือได้รับจัดสรรไม่ครบตามวงเงินที่จองซื้อ ธนาคารจะคืนเงินค่าจองซื้อพันธบัตรในส่วนที่ไม่ได้รับการจัดสรรให้ผู้จองซื้อ โดยไม่มีการจ่ายดอกเบี้ยหรือค่าตอบแทนอื่นใด ภายในวันที่ 16 พฤษภาคม 2568
การเปลี่ยนแปลงชื่อที่อยู่ บัญชีรับดอกเบี้ย และต้นเงิน
ผู้ถือกรรมสิทธิ์สามารถแจ้งการเปลี่ยนแปลงฯ ที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขา
ธุรกรรมหลังการซื้อพันธบัตรของผู้ถือกรรมสิทธิ์
การโอนกรรมสิทธิ์
รุ่นอายุ 7 ปี (SB325B) ทำได้ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป ยกเว้น การโอนทางมรดก การแบ่งทรัพย์สินอันเนื่องมาจากการหย่า การล้มละลาย การชำระบัญชี การจำนำสิทธิในพันธบัตรเพื่อเป็นหลักประกัน ให้ทำได้หลังจากวันที่ได้รับจัดสรรพันธบัตรแล้ว 2 วันทำการ ทั้งนี้ การโอนกรรมสิทธิ์และการจำนำสิทธิในพันธบัตรเพื่อเป็นหลักประกัน ไม่สามารถกระทำได้ตั้งแต่วันปิดสมุดทะเบียน เพื่อจ่ายคืนเงินต้นตามที่ ธปท. ประกาศกำหนด การโอนกรรมสิทธิ์พันธบัตรแบบไร้ใบตราสาร สามารถทำได้โดยอาจเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ให้กับลูกค้ารายใหม่ (มีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์) หรือลูกค้าเดิมภายในกลุ่มผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ซื้อผ่านธนาคารตัวแทนจำหน่ายเดียวกัน แต่ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ระหว่างธนาคารตัวแทนจำหน่ายได้ โดยผู้ถือกรรมสิทธิ์จะต้องนำสมุดพันธบัตรไปติดต่อธนาคารตัวแทนจำหน่ายที่ได้ฝากพันธบัตรไว้

การใช้พันธบัตรเป็นหลักประกัน
ผู้ถือกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรสามารถใช้พันธบัตรเป็นหลักประกันให้กับหน่วยงานราชการและองค์กรของรัฐ เช่น การประกันทางศาล หรือการประกันไฟฟ้า และสามารถใช้พันธบัตรเป็นหลักประกันกับสถาบันการเงิน หรือบุคคลอื่นได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับระเบียบหลักเกณฑ์การรับหลักประกันของหน่วยงานหรือบุคคลนั้นๆ โดยจะต้องติดต่อธนาคารกรุงเทพ ถอนพันธบัตรจากระบบ Scripless เพื่อขอออกใบพันธบัตร (มีค่าธรรมเนียมการออกใบพันธบัตร)

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมภายหลังการซื้อพันธบัตรของผู้ซื้อกรรมสิทธิ์
ตรวจสอบได้ที่หนังสือชี้ชวนการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 1
ข้อกำหนดอื่นๆ
  • จองซื้อพันธบัตรจะยกเลิกการจองซื้อและขอเงินคืนไม่ได้
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย ในฐานะนายทะเบียนพันธบัตร จะโอนดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์หรือกระแสรายวันของผู้ถือพันธบัตรที่ฝากไว้กับธนาคารกรุงเทพตามที่แจ้งไว้ตอนลงทะเบียน
  • หากวันจ่ายดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคาร จะชำระดอกเบี้ยในวันทำการถัดไป
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย จะหักภาษี ณ ที่จ่ายทุกครั้งที่มีการจ่ายดอกเบี้ย ตามอัตราที่ประกาศในประมวลรัษฎากร (บุคคลธรรมดาจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ในอัตรา 15% ของดอกเบี้ยที่ได้รับ)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือขอรับเอกสารรู้ก่อนซื้อพันธบัตรได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ หรือโทร. 1333

หมายเหตุ: ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณ
ในทุกธุรกรรมทางการเงิน

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณในทุกธุรกรรมทางการเงิน

คุณกำลังจะออกจากเว็บไซต์ธนาคารกรุงเทพ