กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG)

ลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย โดยเงินลงทุนในกองทุน Thai ESG สามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด

กองทุนรวมบัวหลวงผสมไทยเพื่อความยั่งยืน

กระจายการลงทุนในหุ้นที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีความโดดเด่นด้าน ESG รวมถึง พันธบัตร/หุ้นกู้/ตราสารหนี้อื่นๆ ที่เป็นตราสารเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน

กองทุนรวมบัวหลวงหุ้นไทยเพื่อความยั่งยืน

ลงทุนในหุ้นที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และ/หรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ที่ได้รับการคัดเลือกจาก SET ว่ามีความโดดเด่นด้าน ESG

กองทุนรวมบัวหลวงตราสารภาครัฐไทยเพื่อความยั่งยืน

เน้นลงทุนในตราสารภาครัฐไทย ซึ่งเป็นพันธบัตรหรือหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (green bond) พันธบัตรหรือหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน (sustainability bond) หรือพันธบัตรหรือหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน (sustainability-linked bond)

กองทุนรวมบัวหลวงทศพลไทยเพื่อความยั่งยืน

ลงทุนเน้นๆ ในหุ้นไทย ESG 10 ตัวที่ผู้จัดการกองทุนคัดสรรแล้ว

ข้อมูลเพิ่มเติม กองทุนรวม Thai ESG

สิทธิประโยชน์ทางภาษีของกองทุนรวม Thai ESG
ยอดเงินลงทุนระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2569 สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 30 ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 300,000 บาทต่อปี

(สำหรับยอดเงินลงทุนที่ไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาดังกล่าว สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 30 ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี)

(ยอดเงินลงทุนในกองทุนรวม Thai ESG เป็นส่วนที่เพิ่มเติมขึ้นมา โดยไม่ต้องนับรวมกับวงเงิน 500,000 บาทที่เป็นเพดานรวมของเงินลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เงินลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) เงินสะสมที่จ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติ และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ)
เงื่อนไขการลงทุนของกองทุนรวม Thai ESG
  • ผู้ลงทุนต้องถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวม Thai ESG ที่ลงทุนระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2569 ต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุน (นับแบบวันชนวัน) ยกเว้นกรณี ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต
  • ผู้ลงทุนต้องถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวม Thai ESG ที่ลงทุนก่อนวันที่ 1 มกราคม 2567 ต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 8 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุน (นับแบบวันชนวัน) ยกเว้นกรณี ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต
  • เงินลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม Thai ESG สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้เฉพาะในปีที่มีการลงทุนในกองทุนรวม
  • ไม่จำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี
กรณีผิดเงื่อนไขการลงทุนในกองทุนรวม Thai ESG

กรณีลงทุนเกินสิทธิประโยชน์ทางภาษี

  • เงินลงทุนส่วนที่เกินสิทธิประโยชน์ทางภาษีจะไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
  • กำไรที่ได้จากการขายคืนเงินลงทุนส่วนที่เกินสิทธิประโยชน์ทางภาษีจะต้องนำไปรวมกับเงินได้อื่นๆ ที่ผู้ลงทุนได้รับในปีภาษีนั้น เพื่อชำระภาษีเงินได้

กรณีใช้สิทธิยกเว้นภาษีแล้วไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข

  1. เสียภาษีเงินได้สำหรับปีภาษีที่ได้นำเงินค่าซื้อหน่วยลงทุนไปหักออกจากเงินได้เพื่อยกเว้นภาษีเงินได้มาแล้ว
  2. หากมีกำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุน ผู้ลงทุนต้อง
    • เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 40 โดยคำนวณหักตามอัตราภาษีเงินได้
    • นำกำไรไปรวมกับเงินได้อื่นๆ ที่ผู้ลงทุนได้รับในปีภาษีนั้น เพื่อชำระภาษีเงินได้
  3. ชำระเงินเพิ่มให้แก่กรมสรรพากรในอัตราร้อยละ 1.50 ต่อเดือนของเงินภาษีที่ต้องนำส่ง แต่ทั้งนี้ ไม่เกินจำนวนภาษีที่ต้องชำระ โดยเริ่มนับเมื่อพ้นกำหนดเวลาการยื่นรายการหรือนำส่งภาษีของปีที่ผู้ลงทุนยื่นขอยกเว้นภาษีต่อปีที่ต้องเสียภาษี จนถึงวันชำระหรือนำส่งภาษีเพิ่มเติม ดังนั้น ผู้ลงทุนควรดำเนินการชำระโดยเร็ว

เงื่อนไขตามข้อ 1 ถึงข้อ 3 ไม่รวมกรณีขายคืนหน่วยลงทุนเพราะทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ระบุในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG)
คู่มือการลงทุนในกองทุนรวม Thai ESG
คำเตือน
  • การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน (ไม่คุ้มครองเงินต้น)
  • ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ข้อมูลสำคัญ นโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง ผลการดำเนินงาน สิทธิประโยชน์ทางภาษี และผลกระทบกรณีผิดเงื่อนไขการลงทุนที่ระบุในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวม RMF/Thai ESG หรือสอบถามข้อมูลและขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้แนะนำการลงทุน ก่อนการตัดสินใจลงทุน
  • กองทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศมิได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด ทั้งนี้ อยู่ในดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน ดังนั้น ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนดังกล่าว หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่
ธนาคารกรุงเทพ หรือโทร. 1333 www.bangkokbank.com
บลจ.บัวหลวง หรือโทร. 0 2674 6488 กด 8 www.bblam.co.th
บลจ.บางกอกแคปปิตอล หรือโทร. 0 2618 1599 www.bcap.co.th

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ หรือโทร.1333
บลจ.บัวหลวง หรือโทร. (66) 0 2674 6488 กด 8 www.bblam.co.th

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณ
ในทุกธุรกรรมทางการเงิน

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณในทุกธุรกรรมทางการเงิน

Maximum 3 products can be compared at the same time.

คุณกำลังจะออกจากเว็บไซต์ธนาคารกรุงเทพ