กองทุนรวมหุ้นระยะยาว

เป็นกองทุนที่นำทรัพย์สินสุทธิของกองทุนไปลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง และมีศักยภาพสูงในการให้ผลตอบแทน โดยการลงทุนในกองทุนรวม LTF ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 63 เป็นต้นไป ผู้ลงทุนไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้

กองทุนเปิดบัวหลวงปัจจัย 4 หุ้นระยะยาวปันผล (BBASICDLTF)

ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 ทั้งในและ/หรือต่างประเทศ

กองทุนเปิดบัวหลวงทศพลหุ้นระยะยาว

ลงทุนในตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และมีปัจจัยพื้นฐานดี ซึ่งผู้จัดการกองทุนคาดหมายว่าจะให้ผลตอบแทนรวมสูงสุด 10 อันดับแรก

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นระยะยาว 75/25

ลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีศักยภาพสูงในการให้ผลตอบแทน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 และไม่เกินร้อยละ 75 ของ NAV

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นระยะยาว

ลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีศักยภาพสูงในการให้ผลตอบแทน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของ NAV

กองทุนเปิดบีแคป เอ็มเอสซีไอไทยแลนด์ หุ้นระยะยาว (BCAP-MSCITH LTF)

ลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียน ตราสารทุน หรือทรัพย์สินอื่นใดที่สำนักงาน ก.ล.ต. ประกาศกำหนดหรือให้ความเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี MSCI Thailand ex Foreign Board ให้มากที่สุด

ข้อมูลเพิ่มเติม

สิทธิประโยชน์ทางภาษีของกองทุนรวม LTF
  • สำหรับเงินลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป

    ผู้ลงทุนไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ กำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุนใหม่ (Capital Gain) จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ เช่นเดียวกับกองทุนรวมทั่วไป

  • สำหรับเงินลงทุนก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2562

    ผู้ลงทุนสามารถนำยอดเงินลงทุนในกองทุนรวม LTF ไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 15 ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีต่อปี ทั้งนี้ ต้องไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี สำหรับปีภาษีนั้น
เงื่อนไขการลงทุนกองทุนรวม LTF (สำหรับเงินลงทุนก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2562)
  • เงินลงทุนนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกินร้อยละ 15 ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีต่อปี ทั้งนี้ ต้องไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี สำหรับปีภาษีนั้น
  • ระยะเวลาในการถือหน่วยลงทุน
    • สำหรับเงินลงทุนก่อนวันที่ 1 มกราคม 2559 ผู้ลงทุนต้องถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปีปฏิทิน (เศษของปีนับเป็นหนึ่งปี)
    • สำหรับเงินลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ผู้ลงทุนต้องถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 7 ปีปฏิทิน (เศษของปีนับเป็นหนึ่งปี)
กรณีผิดเงื่อนไขการลงทุนในกองทุนรวม LTF (สำหรับเงินลงทุนก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2562)
  1. คืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับการลดหย่อนไปแล้วให้แก่กรมสรรพากร เฉพาะส่วนของหน่วยลงทุนที่ขายคืนก่อน 5 ปีปฏิทิน (สำหรับหน่วยลงทุนที่ซื้อก่อนวันที่ 1 มกราคม 2559) หรือก่อน 7 ปีปฏิทิน (สำหรับหน่วยลงทุนที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562)
  2. ชำระเงินเพิ่มให้กรมสรรพากรในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของเงินภาษีที่ต้องนำส่ง แต่ทั้งนี้ ไม่เกินจำนวนภาษีที่ต้องชำระ โดยเริ่มนับเมื่อพ้นกำหนดเวลาการยื่นรายการหรือนำส่งภาษีของปีที่ผู้ลงทุนยื่นขอยกเว้นภาษี จนถึงวันชำระหรือนำส่งภาษีเพิ่มเติม ดังนั้น ผู้ลงทุนควรดำเนินการชำระคืนโดยเร็ว
  3. หากมีกำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุน ผู้ลงทุนต้อง
    • เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 50(2) โดยคำนวณหักตามอัตราภาษีเงินได้
    • นำกำไรไปรวมกับเงินได้อื่น ๆ ที่ผู้ลงทุนได้รับในปีภาษีนั้น เพื่อชำระภาษีเงินได้

เงื่อนไขตามข้อ 1 ถึงข้อ 3 ไม่รวมกรณีขายคืนหน่วยลงทุนเพราะทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร

คำเตือน

  • การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน (ไม่คุ้มครองเงินต้น)
  • ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ข้อมูลสำคัญ นโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงาน ก่อนตัดสินใจลงทุน
  • กองทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศมิได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด ทั้งนี้อยู่ในดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน ดังนั้น ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนดังกล่าว หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้



เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณ
ในทุกธุรกรรมทางการเงิน

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณ
ในทุกธุรกรรมทางการเงิน

Maximum 3 products can be compared at the same time.

คุณกำลังจะออกจากเว็บไซต์ธนาคารกรุงเทพ