กรณีลงทุนเกินสิทธิประโยชน์ทางภาษี
- เงินลงทุนส่วนที่เกินสิทธิประโยชน์ทางภาษีจะไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
- กำไรที่ได้จากการขายคืนเงินลงทุนส่วนที่เกินสิทธิประโยชน์ทางภาษีจะต้องนำไปรวมกับเงินได้อื่นๆ ที่ผู้ลงทุนได้รับในปีภาษีนั้น เพื่อชำระภาษีเงินได้
กรณีใช้สิทธิยกเว้นภาษีแล้วไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข
- กรณีถือหน่วยลงทุนยังไม่ครบ 5 ปี นับจากวันที่ซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก (นับแบบวันชนวัน) และมีการผิดเงื่อนไขการลงทุน ผู้ลงทุนต้องปฏิบัติดังนี้
- คืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับการลดหย่อนไปแล้วให้แก่กรมสรรพากร
- หากมีกำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุน ผู้ลงทุนต้อง
- เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 40 โดยคำนวณหักตามอัตราภาษีเงินได้
- นำกำไรไปรวมกับเงินได้อื่นๆ ที่ผู้ลงทุนได้รับในปีภาษีนั้น เพื่อชำระภาษีเงินได้
- กรณีถือหน่วยลงทุนตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป นับจากวันที่ซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก (นับแบบวันชนวัน) และต้องไม่ระงับการซื้อหน่วยลงทุนเป็นเวลาเกินกว่า 1 ปีติดต่อกัน โดยมีการลงทุนขั้นต่ำเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด หากมีการขายคืนหน่วยลงทุนก่อนผู้ลงทุนมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ (ยกเว้น หน่วยลงทุนที่ซื้อก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2551) ผู้ลงทุนต้องปฏิบัติดังนี้
- คืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับการลดหย่อนไปแล้วย้อนหลังไม่เกิน 5 ปีปฏิทินให้แก่กรมสรรพากร (นับย้อนหลังตั้งแต่ปีก่อนปีที่ปฏิบัติผิดเงื่อนไขการลงทุน)
ผู้ลงทุนจะต้องชำระภาษีคืนให้กับกรมสรรพากรภายในเดือนมีนาคมของปีถัดจากปีที่ผิดเงื่อนไขการลงทุน และหากชำระล่าช้า ผู้ลงทุนจะต้องชำระเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของยอดภาษีที่ต้องชำระคืนด้วย
เงื่อนไขตามข้อ 1 และข้อ 2 ไม่รวมกรณีขายคืนหน่วยลงทุนเพราะทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ระบุในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)