เก็บเงินยังไงให้อยู่? มาดูวิธีเก็บเงินด้วยการ “ตั้งเป้าหมายทางการเงิน”

Key Takeaways:


  • ทำไมต้องมีเป้าหมายทางการเงิน: การตั้งเป้าหมายช่วยให้มีทิศทางและแรงบันดาลใจในการเก็บเงิน
  • ประเภทของเป้าหมายทางการเงิน: แบ่งเป้าหมายเป็นระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อการวางแผนที่ชัดเจน
  • วิธีการตั้งเป้าหมายให้สำเร็จ: ใช้หลัก SMART, แบ่งบัญชี, ใช้ระบบอัตโนมัติ, เขียนเป้าหมายให้เห็นชัด
  • ตัวอย่างเป้าหมายยอดฮิต: เก็บเงินแต่งงาน, เก็บเงินเกษียณ, เก็บเงินไปเที่ยว, เก็บเงินซื้อบ้านหรือคอนโด

หลายคนอาจจะเคยตั้งใจเก็บเงินทุกเดือน แต่เจอของล่อตาล่อใจ หรือความอยากได้ที่เกิดขึ้นกะทันหันจากปัจจัยรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาหรือโปรโมชันจากแบรนด์ อินฟลูเอนเซอร์ หรือเพื่อนป้ายยา จนต้องแอบยืมเงินเก็บตัวเองมาใช้ครั้งแล้วครั้งเล่า และสุดท้ายก็จบที่การวนลูปเริ่มเก็บเงินใหม่ทุกเดือน

จริง ๆ แล้วที่เป็นแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเราไม่มีวินัย แต่เพราะเรายังไม่รู้ว่าจะเก็บเงินเท่าไร หรือเก็บเพื่ออะไร พอไม่มี “เป้าหมาย” ให้เงินเก็บ ไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน เลยเป็นเหตุให้เราใช้เงินเรื่อยเปื่อยได้ง่ายขึ้น

แล้ว "เป้าหมายทางการเงิน" จะช่วยให้เราเก็บเงินให้อยู่ได้ยังไง?
“เป้าหมายทางการเงิน” คือเครื่องมือที่พาเราไปหาความฝัน ไม่ว่าจะอยากเก็บเงินไปเที่ยวต่างประเทศ เก็บเงินแต่งงาน เก็บเงินเกษียณ หรือแม้แต่เก็บเงินสำรองฉุกเฉิน การมีเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจนจะช่วยให้เราเก็บเงินได้ดีขึ้น และไม่รู้สึกว่าต้องฝืนใจในการห้ามตัวเองใช้เงิน

 



ทำไมต้องมีเป้าหมายทางการเงิน?

ก่อนจะพูดถึงเป้าหมายทางการเงิน ลองถามตัวเองก่อนว่าเราอยากให้ชีวิตในอีก 5 ปี 10 ปี หรือ 30 ปีข้างหน้าเป็นอย่างไร เพราะเป้าหมายในชีวิตแต่ละช่วงจะช่วยกำหนดว่าเราควรตั้งเป้าหมายทางการเงินแบบไหนบ้าง เช่น ถ้าอยากใช้ชีวิตมั่นคง มีเงินใช้จ่ายสบาย ๆ และมีเงินท่องเที่ยวหลังเลิกทำงาน อาจต้องเน้นการเก็บเงินระยะยาวเพื่อเกษียณ ถ้าเป้าหมายคืออยากมีครอบครัว ก็อาจต้องเพิ่มการเก็บเงินแต่งงานและเก็บเงินผ่อนบ้านเป็นหลั

ภาพชีวิตที่เราอยากได้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการออมเงิน และทำให้รู้ว่ากำลังเก็บเงินไปเพื่ออะไร การตั้งเป้าหมายทางการเงินจึงอาจไม่ใช่แค่เรื่องการเก็บเงินยังไงให้อยู่ แต่คือการวางแผนชีวิต และเป็นเข็มทิศนำทางที่ช่วยให้เราใช้เงินได้สอดคล้องกับสิ่งที่ชีวิตเราให้ความหมายกับมันจริง ๆ

เป้าหมายทางการเงิน แบ่งได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ

การกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน เริ่มจากการแยกประเภทเป้าหมายก่อน ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 3 ระยะ ดังนี้


  • เป้าหมายระยะสั้น: เป้าหมายที่อยากทำให้สำเร็จภายใน 3 ปี เช่น เก็บเงินสำรองฉุกเฉิน เก็บเงินไปเที่ยว เก็บเงินซื้อของชิ้นใหญ่แบบไม่ต้องผ่อน
  • เป้าหมายระยะกลาง: เป้าหมายที่ใช้เวลา 3 - 7 ปี เช่น เก็บเงินดาวน์บ้าน ซื้อรถ เก็บเงินแต่งงาน หรือเรียนต่อ
  • เป้าหมายระยะยาว: เป้าหมายที่ใช้เวลา 7 ปีขึ้นไป เช่น เก็บเงินเกษียณ การมีเงินก้อนเพื่อเปลี่ยนสายอาชีพ หรือเริ่มธุรกิจของตัวเอง


เมื่อรู้แล้วว่าเป้าหมายของเงินแต่ละก้อนต้องใช้เวลาเก็บกี่ปี ก็จะช่วยให้วางแผนได้ง่ายขึ้นว่าเงินก้อนนั้นควรเก็บแบบไหน และต้องเก็บเท่าไรถึงจะครบตามเป้า

 

  1. ตั้งเป้าหมายแบบ SMART

    • Specific (ชัดเจน): ไม่ใช่แค่ "อยากมีเงินเก็บ" แต่ต้องเจาะจงว่าเงินนี้เก็บเพื่ออะไร เช่น "เก็บเงินแต่งงาน 200,000 บาทใน 2 ปี"
    • Measurable (วัดผลได้): วัดผลได้ชัดเจนเป็นตัวเลข ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเงินหรือระยะเวลา และสามารถติดตามความคืบหน้าได้เป็นระยะ
    • Achievable (ทำได้จริง): ประเมินจากรายรับรายจ่ายว่าเก็บไหวไหม ไม่ตั้งเป้าหมายสูงเกินไป หรือใช้ระยะเวลาน้อยเกินไป
    • Relevant (สอดคล้องกับชีวิต): เป้าหมายต้องสัมพันธ์กับความต้องการจริงของเรา ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นบอกให้ทำ
    • Time-bound (มีกรอบเวลา): ช่วยให้ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง เช่น เก็บเงินจำนวนเท่ากันทุกเดือนให้ครบที่ตั้งเป้าไว้ภายในปีนี้

  2. แบ่งบัญชีเพื่อแยกเงินตามเป้าหมาย

    เปิดบัญชีแยกเฉพาะสำหรับเป้าหมายแต่ละอย่าง เช่น บัญชีสำหรับเก็บเงินเกษียณ บัญชีสำหรับเที่ยว บัญชีสำหรับเก็บเงินสำรองฉุกเฉิน วิธีนี้จะช่วยให้ไม่เผลอใช้เงินผิดบัญชี และเห็นพัฒนาการของแต่ละเป้าหมายได้ชัดเจน

  3. ใช้ระบบอัตโนมัติช่วยเก็บ

    ตั้งโอนเงินเข้าบัญชีอัตโนมัติทุกเดือนหลังเงินเดือนเข้า เช่น 10% ของรายได้ไปเข้าบัญชีเก็บเงินเกษียณ โดยไม่ต้องรอแรงจูงใจ จะช่วยให้เก็บได้ต่อเนื่อง โดยสามารถใช้ฟีเจอร์ตั้งโอนล่วงหน้าได้ง่าย ๆ ผ่านโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ

  4. เขียนเป้าหมายให้เห็นชัดอยู่ทุกวัน

    ลองเขียนเป้าหมายไว้หน้าสมุดบัญชีธนาคารที่ใช้เก็บเงิน หรือแปะไว้ที่โต๊ะทำงาน หัวเตียง หรือหน้ากระจก เช่น “แต่งงานปีหน้า! เก็บเงินให้ครบ 200,000 บาท” หรือ “เพื่ออิสรภาพทางการเงินตอนอายุ 60” เพื่อย้ำให้เห็นว่าเงินทุกบาทที่เราตั้งใจเก็บนั้นมีความหมาย ตัวอย่างเป้าหมายทางการเงินยอดฮิตที่ควรเริ่ม
  • เก็บเงินแต่งงาน: ช่วยให้เราไม่ต้องกู้หนี้เพื่อมาจัดงานแต่งงาน และเริ่มชีวิตคู่ได้แบบไม่ติดลบ
  • เก็บเงินเกษียณ: เพราะไม่มีใครดูแลเราได้ดีเท่าตัวเอง การเริ่มตั้งแต่อายุน้อยจะช่วยให้ไม่ต้องโหมเก็บเงินเยอะช่วงท้าย ๆ ของชีวิตการทำงาน และไม่ต้องเครียดเรื่องเงินตอนแก่
  • เก็บเงินไปเที่ยว: ช่วยให้ทริปในฝันกลายเป็นจริงโดยไม่ต้องรูดบัตรจนหนี้พุ่ง
  • เก็บเงินซื้อบ้านหรือคอนโด: เริ่มเก็บตั้งแต่วันนี้ ยิ่งมีโอกาสได้บ้านที่อยากอยู่เร็วขึ้น

 

เก็บเงินให้อยู่ได้ ถ้าตั้งใจจริง

การตั้งเป้าหมายทางการเงิน เป็นมากกว่าการจัดระเบียบเงินในบัญชี แต่ยังเป็นการจัดทิศทางชีวิตให้เป็นไปในทางที่อยากให้เป็น และเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่จะพาเราไปถึงเป้าหมายในชีวิตที่ตั้งใจไว้ ใครที่ยังมีคำถามว่า “เก็บเงินไม่อยู่ต้องทำยังไง” ลองเริ่มคิดและตั้งเป้าหมายชีวิต แล้วค่อยตั้งเป้าหมายทางการเงินที่สอดคล้องกัน สร้างบันไดไปสู่เป้าหมายด้วยความสม่ำเสมอและความมีวินัย เป้าหมายที่เราตั้งไว้ก็จะสำเร็จได้จริง

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณ
ในทุกธุรกรรมทางการเงิน

เครื่องมือช่วยเหลือ

ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณในทุกธุรกรรมทางการเงิน

คุณกำลังจะออกจากเว็บไซต์ธนาคารกรุงเทพ